ConclusionAccording to the latest r

Conclusion

According to the latest research in brain-based learning, traditional curriculums of rote memorization and learning no longer apply for effective pedagogy in the classrooms (Caine & Caine, 1995). Teaching of reading must change as students' learning styles evolve with the new challenges in the world of the twenty-first century. Critical thinking and analysis by educators in reading must generate and demonstrate connections of brain research to scaffold student learning for fluency in First Grade (Pool, 1997). Creating and designing curriculum with "brain-based theory and practice" (Caine & Caine,1995, p.43; Marshall, 1998; Sousa, 1998a; Sousa, 1998b) to connect with the diversity of new readers displays wisdom in educational pedagogy. Teaching reading to improve student learning can be accomplished by adapting current curricula to best practices of brain research . Closing the gap between traditional pedagogy and brain-based learning (Biller, 2002; Caine & Caine, 1995; Kovalik & Olsen, 1998; Milam, 2005; Morris, 2004; Slavkin, 2002) is the ultimate goal for educators to reach the needs of students in reading. Research of brain-based learning empowers a student with personal goals, real-world connections and authentic assessments which have been non-existent or significantly lacking in traditional classrooms (Slavkin, 2002). Improving reading with brain-based learning is not an option in today's data-driven curricula. Improving reading is a necessity to establish life-long learning habits for children with diverse backgrounds in the age of the twenty-first century.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สรุปตามผลการวิจัยล่าสุดในการเรียนรู้ของสมองตามหลักสูตรแบบดั้งเดิมของท่องจำและการเรียนรู้ไม่ได้ใช้สำหรับการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพในห้องเรียน (เคนและเคน, 1995) การเรียนการสอนของการอ่านต้องเปลี่ยนเป็นรูปแบบการเรียนของนักเรียนพัฒนาไปด้วยความท้าทายใหม่ ๆ ในโลกของศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด คิดอย่างมีวิจารณญาณและการวิเคราะห์โดยนักการศึกษาในการอ่านต้องสร้างและแสดงให้เห็นการเชื่อมต่อของการวิจัยสมองกับนักเรียนนั่งร้านการเรียนรู้สำหรับความคล่องแคล่วในชั้นแรก (ว่ายน้ำ, 1997) การสร้างและการออกแบบการเรียนการสอนด้วย "ทฤษฎีสมองที่ใช้และการปฏิบัติ" (เคนและเคน 1995, p.43; มาร์แชลล์ 1998; เกียรติ, 1998; เซาซา, 1998b) เพื่อเชื่อมต่อกับความหลากหลายของผู้อ่านแสดงใหม่ภูมิปัญญาในการเรียนการสอนการศึกษา การเรียนการสอนการอ่านเพื่อปรับปรุงการเรียนรู้ของนักเรียนสามารถทำได้โดยการปรับหลักสูตรในปัจจุบันเพื่อการปฏิบัติที่ดีที่สุดของการวิจัยสมอง ปิดช่องว่างระหว่างการเรียนการสอนแบบดั้งเดิมและการเรียนรู้ของสมองที่ใช้ (Biller 2002; เคนและเคน 1995; Kovalik & Olsen 1998; Milam 2005; มอร์ริส 2004; Slavkin, 2002) เป็นเป้าหมายสูงสุดสำหรับการศึกษาถึงความต้องการ ของนักเรียนในการอ่าน การวิจัยการเรียนรู้ของสมองที่ใช้ช่วยให้นักเรียนที่มีเป้าหมายส่วนบุคคล, การเชื่อมต่อโลกแห่งความจริงและการประเมินผลที่แท้จริงที่ได้รับไม่ได้มีอยู่อย่างมีนัยสำคัญหรือขาดในห้องเรียนแบบดั้งเดิม (Slavkin, 2002) การปรับปรุงการอ่านกับการเรียนรู้ของสมองที่ใช้ไม่ได้ตัวเลือกในหลักสูตรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลของวันนี้ การปรับปรุงการอ่านเป็นสิ่งที่จำเป็นในการสร้างนิสัยการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับเด็กที่มีภูมิหลังที่แตกต่างกันในยุคของศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สรุป

ตามที่งานวิจัยล่าสุดใน สมอง การเรียนรู้ตามแบบหลักสูตรของความจำและการเรียนรู้แบบท่องจำไม่ใช้สำหรับการสอนที่มีประสิทธิภาพในชั้นเรียน ( เคน&เคน , 1995 ) สอนการอ่าน ต้องเปลี่ยนเป็นรูปแบบการเรียนรู้ พัฒนานักเรียนที่มีความท้าทายใหม่ในโลกแห่งศตวรรษที่ 21การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการวิเคราะห์โดยนักการศึกษาในการอ่านจะต้องสร้างและแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของการวิจัยสมองกับการเรียนรู้ของนักเรียน เพื่อความคล่องแคล่วในนั่งร้าน ป. ( สระ , 1997 ) การสร้างและออกแบบหลักสูตรด้วยสมอง " ทฤษฎีและการปฏิบัติตาม " ( เคน&เคน , 1995 , p.43 ; มาร์แชลล์ , 1998 ; ซูซา 1998a ; ซูซา1998b ) เพื่อเชื่อมต่อกับความหลากหลายของผู้อ่านใหม่แสดงปัญญาในการสอนการศึกษา การสอนการอ่านเพื่อปรับปรุงการเรียนรู้ของนักเรียนได้โดยการปรับหลักสูตร ปัจจุบันปฏิบัติที่ดีที่สุดของการวิจัยสมอง ปิดช่องว่างระหว่างการสอนแบบดั้งเดิมและสมองแห่งการเรียนรู้ ( เรียก , 2002 ; เคน&เคน , 1995 ; kovalik & Olsen , 1998 ; milam , 2005 ; Morris , 2004 ; slavkin ,2002 ) เป็นเป้าหมายสูงสุดเพื่อการศึกษาถึงความต้องการของผู้เรียนในการอ่าน การวิจัยสมองการเรียนรู้ช่วยให้นักเรียนกับบุคคลเป้าหมาย จริงการเชื่อมต่อและการประเมินจริง ซึ่งได้มีอยู่ หรืออย่างมาก ขาดห้องเรียนแบบดั้งเดิม ( slavkin , 2002 ) การปรับปรุงการอ่านการเรียนรู้ด้วยสมอง ไม่ใช่ทางเลือกในวันนี้ของหลักสูตร - .การปรับปรุงการอ่านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อสร้างนิสัยการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับเด็กที่มีภูมิหลังที่หลากหลายในยุคศตวรรษที่ 21 .