The economy of the Philippines is t

The economy of the Philippines is the 4th largest economy in South East Asia and the 35th largest economy in the world by purchasing power parity according to the World Bank in 2009. A newly industrialized emerging market economy, it posted a real GDP growth rate of 5.3% in 2006 and 7.1% in 2007. Growth slowed to 3.8% in 2008 as a result of the global financial crisis. In 2009, the real growth rate was 0.9% but is projected to rebound to 7.5% in 2010.[1][4] For the first quarter of 2010 the economy grew by 7.3% which was higher than the 3.6% forecast.[11] At the end of the second quarter of 2010, GDP growth again exceeded expectations by coming in at 7.9%.[12] According to the IMF, the Philippines will be the second-fastest growing economy among the Asean 5 in 2010 with a forecasted growth rate of 7% after Thailand's 7.5%.[13]

A mixed economic system, important sectors of Philippine industry include food processing, textiles and garments, and electronics and automobile parts. Most industries are concentrated in the urban areas around Metro Manila, while Metro Cebu is also becoming an attraction for foreign and local investors. Mining also has great potential in the Philippines, which possesses significant reserves of chromite, nickel, and copper. Recent natural gas finds off the islands of Palawan add to the country's geothermal, hydro, coal, and oil exploration energy reserves.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เศรษฐกิจของฟิลิปปินส์เป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุด 4 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และ 35 เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อตามธนาคารโลกในปี 2552 อุตสาหกรรมใหม่เกิดระบบเศรษฐกิจตลาด มันลงอัตราการเติบโต GDP จริง 5.3% ในปี 2549 และ 7.1% ในปี 2007 เติบโต 3.8% ชะลอตัวในปี 2551 จากวิกฤตการเงินโลก ในปี 2552 อัตราการเติบโตจริง 0.9% แต่คาดว่าจะฟื้นตัวเป็นร้อยละ 7.5 ในปี 2553[1][4] สำหรับไตรมาสแรกปี 2553 เศรษฐกิจเติบโต 7.3% ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ 3.6%[11] เมื่อสิ้นสุดไตรมาสสองของปี 2010 เศรษฐกิจอีกเกินความคาดหวัง โดยมาที่ 7.9%[12] ตาม IMF ฟิลิปปินส์จะจะเศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดสองระหว่าง 5 อาเซียนในปี 2553 มีอัตราการเติบโตที่คาดการณ์ไว้ 7% หลังจากร้อยละ 7.5 ของไทย[13]ระบบเศรษฐกิจแบบผสม ภาคสำคัญของฟิลิปปินส์ได้แก่อาหาร สิ่งทอ และเสื้อ ผ้า และอิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนยานยนต์ อุตสาหกรรมส่วนใหญ่จะเข้มข้นในพื้นที่เมืองรอบ ๆ กรุงมะนิลา ในขณะที่เมโทรเซบูซิตี้ยังเป็น ที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างประเทศ และท้องถิ่น เหมืองแร่ยังมีศักยภาพที่ดีในฟิลิปปินส์ ซึ่งมีทุนสำรองที่สำคัญ ของเรา นิกเกิล ทองแดง เพิ่มล่าสุดพบก๊าซธรรมชาติออกจากหมู่เกาะของประเทศใต้พิภพ น้ำ ถ่านหิน และสำรองพลังงานสำรวจน้ำมัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เศรษฐกิจของฟิลิปปินส์เป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุด 4 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก 35 โดยการซื้อเท่าเทียมกันของอำนาจตามที่ธนาคารโลกในปี 2009 เศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่อุตสาหกรรมใหม่ก็โพสต์มีอัตราการเจริญเติบโตของ GDP ที่แท้จริงของ 5.3 % ในปี 2006 และ 7.1% ในปี 2007 การเติบโตชะลอตัวลงไป 3.8% ในปี 2008 เป็นผลมาจากวิกฤตการเงินโลก ในปี 2009 มีอัตราการเติบโตที่แท้จริงก็คือ 0.9% แต่คาดว่าจะดีดตัวขึ้น 7.5% ในปี 2010 [1] [4] สำหรับไตรมาสแรกของปี 2010 เศรษฐกิจขยายตัว 7.3% ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ 3.6%. [11 ] ในตอนท้ายของไตรมาสที่สองของปี 2010 การเติบโตของ GDP เกินความคาดหวังอีกครั้งโดยมาในที่ 7.9%. [12] ตามที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศฟิลิปปินส์จะเป็นเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดเป็นอันดับสองในกลุ่มอาเซียนที่ 5 ในปี 2010 พร้อมกับการคาดการณ์ อัตราการเจริญเติบโต 7% หลังจากที่ไทย 7.5%. [13] ระบบเศรษฐกิจแบบผสมที่สำคัญของภาคอุตสาหกรรมของฟิลิปปินส์รวมถึงการแปรรูปอาหาร, สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนยานยนต์ อุตสาหกรรมส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่เขตเมืองรอบกรุงมะนิลาในขณะที่รถไฟใต้ดินบูยังเป็นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติและท้องถิ่น การทำเหมืองแร่นอกจากนี้ยังมีศักยภาพที่ดีในฟิลิปปินส์ซึ่งมีเงินสำรองที่สำคัญของ chromite นิกเกิลและทองแดง ก๊าซธรรมชาติที่ผ่านมาพบว่าออกจากเกาะปาลาวันเพิ่มความร้อนใต้พิภพของประเทศน้ำถ่านหินและการสำรวจน้ำมันพลังงานสำรอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ เป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครั้งที่ 35 โดยอยากให้เรื่องนี้ไม่มีโชคร้ายตามที่ธนาคารทั่วโลกในปี 2009 เป็นอุตสาหกรรมใหม่ที่เกิดขึ้นใหม่ในตลาดเศรษฐกิจ มันโพสต์ real GDP อัตราการเติบโต 5.3% ในปี 2006 และ 7.1% ในปี 2007 การเจริญเติบโตชะลอตัวลง 3.8% ในปี 2551 อันเป็นผลจากวิกฤตการเงินโลก ในปี 2009อัตราการเติบโตที่แท้จริงคือ 0.9% แต่คาดว่าจะฟื้นตัวถึง 7.5% ในปี 2010 [ 1 ] [ 4 ] สำหรับไตรมาสแรกของปี 2553 เศรษฐกิจขยายตัว 7.3% ซึ่งสูงกว่า 3.6% คาดการณ์ [ 11 ] ณ สิ้นไตรมาสที่สองของ 2010 , เจริญเติบโตของ GDP อีกเกินความคาดหมาย โดย มาอยู่ที่ 7.9 % . [ 12 ] ตามที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ,ฟิลิปปินส์จะเป็นสองเศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดในอาเซียน 5 ในปี 2010 ด้วย คาดว่าอัตราการเติบโต 7% หลังจากที่ไทย 7.5% [ 13 ]

ระบบเศรษฐกิจผสม , ภาคที่สำคัญของอุตสาหกรรมของฟิลิปปินส์ ได้แก่ อาหารแปรรูป สิ่งทอและเสื้อผ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนรถยนต์ อุตสาหกรรมส่วนใหญ่มีความเข้มข้นในพื้นที่ชุมชนรอบ เมโทรมะนิลาในขณะที่รถไฟใต้ดินบูยังเป็นสถานที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติและท้องถิ่น เหมืองแร่ยังมีศักยภาพมากในฟิลิปปินส์ ซึ่งมีสำรองที่สําคัญของก๋วยจับ , นิกเกิลและทองแดง ก๊าซธรรมชาติล่าสุดพบจากเกาะปาลาวันเพิ่มไปยังประเทศใต้พิภพ น้ำ ถ่านหิน และพลังงานสำรองการสำรวจน้ำมัน