been used in Southeast Asia for cen

been used in Southeast Asia for centuries in the treatment of several
diseases such as diarrhoea, dysentery, infections of the skin,
mycosis, inflammation, cholera and fever, manifold medicinal indications
are attributed to the fruits (Obolskiy, Pischel, Siriwatanametanon,
& Heinrich, 2009; Pedraza-Chaverri, Cárdenas-
Rodríguez, Orozco-Ibarra, & Pérez-Rojas, 2008). Hence, mangosteen
fruits rank among the most potent so-called ‘‘super fruits’’,
thus being increasingly used as active constituents in functional
products. Owing to their traditional use in folk medicine, numerous
studies have been performed to substantiate the putative
health effects of mangosteens. Particular emphasis has been put
on their rich content of prenylated and oxygenated xanthones, a
class of polyphenols which is only synthesised within a small
group of higher plants, fungi and lichens. Biological activities of
these secondary plant metabolites, including their C-glycosides
which occur in mango peels (Schieber, Berardini, & Carle, 2003),
are due to the tricyclic xanthen-9-one core and their varying substitution
pattern depending on the nature and position of substituents
(Bennett & Lee, 1989; Peres, Nagem, & de Oliveira, 2000). The
results of most studies indicate that xanthone extracts from G.
mangostana L. display a high antioxidative capacity (Jung, Su, Keller,
Mehta, & Kinghorn, 2006; Weecharangsan et al., 2006). Additionally,
extensive literature has been reviewed concerning other
potential biological activities (Obolskiy et al., 2009; Pedraza-Chaverri
et al., 2008). Along with anti-inflammatory, antibacterial, antifungal,
antiviral and antiallergic properties, extracts and xanthones
from mangosteens even showed antitumoral properties. Furthermore,
many investigations have been performed to study the
extraction and elucidate the structure of xanthones from mangosteens
(Chaivisuthangkura et al., 2009; Jung et al., 2006; Walker,
2007; Zarena & Sankar, 2009). The majority of these studies focus
on xanthones from the pericarp of mangosteens, where a-mangostin
and c-mangostin were found to be the major constituents
(Jung et al., 2006; Walker, 2007). The occurrence of mangostins
in other parts of the mangosteen tree or fruit like aril segments
(Mahabusarakam & Wiriyachitra, 1987), heartwood (Nilar, 2002),
stem (Ee, Daud, Taufiq-Yap, Ismail, & Rahmani, 2006) and seed
(Suksamrarn et al., 2003) has only been reported by few authors.
Beyond that, there is a general lack of clarity in literature defining
the specific parts of G. mangostana fruits that were investigated

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การใช้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มานานหลายศตวรรษในการบำบัดรักษาหลายโรคท้องเสีย โรคบิด การติดเชื้อของผิวหนังmycosis อักเสบ อหิวาตกโรค และ ไข้ บ่งชี้ยาความหลากหลายนับมาจากผลไม้ (Obolskiy, Pischel, Siriwatanametanonและไฮน์ริช 2009 Pedraza-Chaverri, Cárdenas-Rodríguez, Orozco Ibarra และ Pérez Rojas, 2008) ดังนั้น มังคุดอันดับผลไม้ในที่สุดมีศักยภาพเรียกว่า ''ซูเปอร์ผลไม้ '',ดังนั้น การขึ้นใช้เป็น constituents งานในหน้าที่ผลิตภัณฑ์ เนื่องจากการใช้แบบดั้งเดิมในการแพทย์พื้นบ้าน มากมายการศึกษาได้ปฏิบัติการ substantiate putativeผลกระทบสุขภาพของมังคุดเพื่อ เน้นเฉพาะการวางในเนื้อหาหลากหลาย prenylated และสารแซนโธนส์ oxygenated การชั้นของโพลีฟีนซึ่งเฉพาะ synthesised ภายในขนาดเล็กกลุ่มของพืช เชื้อรา และ lichens สูง กิจกรรมชีวภาพของmetabolites รองพืชเหล่านี้ รวมถึงของ glycosides Cที่เกิดขึ้นในมะม่วง peels (Schieber เซีย และ Carle, 2003),มี xanthen-9-1 หลัก tricyclic และทดแทนความแตกต่างกันรูปแบบขึ้นอยู่กับลักษณะและตำแหน่งของ substituents(เบนเนต & Lee, 1989 Peres, Nagem และ de Oliveira, 2000) ที่ผลการศึกษาส่วนใหญ่ระบุว่า xanthone สารสกัดจากกรัมmangostana L. แสดงความจุ antioxidative สูง (Jung, Su เคลเลอร์Mehta, & Kinghorn, 2006 Weecharangsan และ al., 2006) นอกจากนี้วรรณกรรมอย่างละเอียดมีการตรวจทานเกี่ยวกับอื่น ๆเกิดกิจกรรมทางชีวภาพ (Obolskiy et al., 2009 Pedraza-Chaverriร้อยเอ็ด al., 2008) พร้อมต้านการอักเสบ ยาปฏิชีวนะ ต้านเชื้อ ราคุณสมบัติยาต้านไวรัส และ antiallergic สารสกัด และสารแซนโธนส์จากมังคุดเพื่อได้พบคุณสมบัติ antitumoral นอกจากนี้สืบสวนมากมีการศึกษาการสกัด และโครงสร้างของสารแซนโธนส์จากมังคุดเพื่อ elucidate(Chaivisuthangkura et al., 2009 จุงและ al., 2006 วอล์คเกอร์2007 Zarena & Sankar, 2009) ส่วนใหญ่เหล่านี้ศึกษาความในสารแซนโธนส์จาก pericarp ของมังคุดเพื่อ ที่เป็น mangostinและ c-mangostin พบจะ constituents หลัก(Jung และ al., 2006 วอล์คเกอร์ 2007) การเกิดขึ้นของ mangostinsในส่วนอื่น ๆ ของต้นมังคุดหรือผลไม้เซกเมนต์ aril(Mahabusarakam & Wiriyachitra, 1987), heartwood (Nilar, 2002),เกิด (Ee, Daud, Taufiq ยาบ สุลต่านอิสมาอิล & Rahmani, 2006) และ(Suksamrarn et al., 2003) รายงานแล้วเท่านั้น โดยผู้เขียนไม่นอกเหนือจากนั้น มีทั่วไปขาดความชัดเจนในการกำหนดเอกสารประกอบการส่วนเฉพาะของผลไม้ mangostana กรัมที่ถูกสอบสวน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ถูกนำมาใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มานานหลายศตวรรษในการรักษาหลาย
โรคเช่นโรคท้องร่วง, โรคบิด, การติดเชื้อของผิวหนัง
เชื้อราอักเสบอหิวาตกโรคและไข้ยาหลายตัวชี้วัด
จะมีการบันทึกผลไม้ (Obolskiy, Pischel, Siriwatanametanon,
และเฮ็น 2009; Pedraza-Chaverri, Cárdenas-
Rodríguez, รอสโก-Ibarra และPérez-Rojas 2008) ดังนั้นมังคุด
ผลไม้อันดับหนึ่งที่มีศักยภาพมากที่สุดที่เรียกว่า '' ผลไม้ซุปเปอร์ '',
จึงถูกนำมาใช้มากขึ้นเป็นองค์ประกอบที่ใช้งานในการทำงาน
ผลิตภัณฑ์ เนื่องจากการใช้งานแบบดั้งเดิมของพวกเขาในการแพทย์พื้นบ้านหลาย
การศึกษาได้รับการดำเนินการที่จะพิสูจน์สมมุติ
ผลกระทบต่อสุขภาพของมังคุด เน้นเฉพาะได้รับการใส่
เนื้อหาที่อุดมไปด้วยของแซนโทน prenylated และออกซิเจน
ในชั้นเรียนของโพลีฟีนซึ่งถูกสังเคราะห์เฉพาะภายในเล็ก ๆ
กลุ่มของพืชที่สูงขึ้นเชื้อราและไลเคน ฤทธิ์ทางชีวภาพของ
สารพืชรองเหล่านี้รวมทั้งซีไซด์ของพวกเขา
ที่เกิดขึ้นในเปลือกมะม่วง (ชี, Berardini และ Carle, 2003)
เนื่องจากการ tricyclic xanthen-9-หนึ่งหลักและทดแทนที่แตกต่างกันของพวกเขา
รูปแบบขึ้นอยู่กับธรรมชาติและ ตำแหน่งของ substituents
(เบนเน็ตต์และลี 1989; อนเปเรส Nagem และ de Oliveira, 2000)
ผลการศึกษาส่วนใหญ่แสดงให้เห็นว่าสารสกัดแซนโทนจาก G.
mangostana L. แสดงความสามารถต้านอนุมูลอิสระสูง (จุงซู, เคลเลอร์,
เมธา & Kinghorn, 2006. Weecharangsan et al, 2006) นอกจากนี้
วรรณกรรมกว้างขวางได้รับการตรวจสอบอื่น ๆ เกี่ยวกับ
ฤทธิ์ทางชีวภาพที่มีศักยภาพ (Obolskiy et al, 2009;. Pedraza-Chaverri
et al., 2008) พร้อมกับการต้านการอักเสบต้านเชื้อแบคทีเรียต้านเชื้อรา,
คุณสมบัติต้านไวรัสและ antiallergic, สารสกัดและแซนโทน
จากมังคุดได้แสดงให้เห็นคุณสมบัติ antitumoral นอกจากนี้
การตรวจสอบจำนวนมากได้รับการดำเนินการเพื่อศึกษา
การสกัดและการอธิบายโครงสร้างของแซนโทนจากมังคุด
(Chaivisuthangkura et al, 2009;. Jung et al, 2006;. วอล์คเกอร์,
2007; Zarena & Sankar 2009) ส่วนใหญ่ของการศึกษาเหล่านี้มุ่งเน้นไป
ที่แซนโทนจากเปลือกของมังคุดที่-เปลือกมังคุด
และเปลือกมังคุดคพบว่ามีองค์ประกอบที่สำคัญ
(Jung et al, 2006;. วอล์คเกอร์ 2007) การเกิดขึ้นของ mangostins
ในส่วนอื่น ๆ ของต้นมังคุดหรือผลไม้เช่นกลุ่มยวง
(Mahabusarakam & วิริยะจิตรา, 1987), แก่น (Nilar, 2002),
ก้าน (EE, ดึง, Taufiq-Yap, อิสมาอิลและ Rahmani 2006) และเมล็ดพันธุ์
(Suksamrarn et al., 2003) ได้รับเพียงรายงานโดยผู้เขียนไม่กี่.
นอกเหนือจากนั้นมีการขาดทั่วไปของความชัดเจนในวรรณคดีกำหนด
เฉพาะส่วนของผลไม้ G. mangostana ที่ได้รับการตรวจสอบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ถูกใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มานานหลายศตวรรษในการรักษาโรคหลาย
เช่นท้องร่วง , โรคบิด , การติดเชื้อของผิวหนัง ,
มายโคซิส , การอักเสบ , อหิวาตกโรคและไข้ , นานาสรรพคุณสมุนไพร
จะประกอบกับผลไม้ ( obolskiy pischel siriwatanametanon
, , , &ไฮน์ริช , 2009 ; เพดราซา chaverri rdenas -
, C . kgm ลุยส์โรดรีเกซบาร์ราโอรอซโค , เมือง , & เปเรซ โรฮาส , 2008 ) ดังนั้น มังคุด
ผลไม้ในอันดับที่สุดที่มีศักยภาพที่เรียกว่า ' 'super ผลไม้ ' ' จึงถูกใช้มากขึ้น
เป็นองค์ประกอบอยู่ในผลิตภัณฑ์การทำงาน

เพราะการใช้แบบดั้งเดิมของพวกเขาในยาพื้นบ้าน ศึกษามากมาย
ได้ปฏิบัติเพื่อสนับสนุนการแสดงออก
สุขภาพมังคุด . โดยเฉพาะการเน้นได้ใส่
เนื้อหารวยของพวกเขา และออกซิเจนในสารประกอบฟลาโวนซึ่งมีหมู่พรีแซนโทน ,
ชั้นของโพลีฟีนซึ่งเป็นเพียง synthesised ภายในกลุ่มเล็ก
ของพืชที่สูง ราและพืช . ฤทธิ์ทางชีวภาพของพืช
ชนิดทุติยภูมิเหล่านี้ รวมทั้ง c-glycosides
ซึ่งเกิดขึ้นในเปลือกมะม่วง ( ชิเบอร์ berardini &อย่างไร , , , 2003 ) ,
การ Tricyclic xanthen-9-one หลักและรูปแบบการทดแทน
แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะและตำแหน่งของหมู่แทนที่
( 1 &ลี , 1989 ; รายงานประจำ nagem & เดอ โอลิเวียร่า , 2000 )
ผลการศึกษาส่วนใหญ่พบว่า สารสกัดแซนโธนจาก G .
mangostana L . แสดงทักษะความสามารถสูง ( จุง ซู เคลเลอร์
ตา&คิงเฮิร์น , 2006 ; weecharangsan et al . , 2006 ) นอกจากนี้
วรรณกรรมได้รับการดูแลเกี่ยวกับกิจกรรมทางชีวภาพอื่น ๆที่อาจเกิดขึ้น (
obolskiy et al . , 2009 ; เพดราซา chaverri
et al . , 2008 ) พร้อมกับการอักเสบแบคทีเรีย เชื้อรา ไวรัส
คุณสมบัติใช้ สารสกัดจากมังคุดแซนโทน
และโชว์คุณสมบัติ antitumoral . นอกจากนี้ ได้ทำการสอบสวนมากมาย

เพื่อศึกษาการสกัดและศึกษาโครงสร้างของแซนโทนจากมังคุด
( chaivisuthangkura et al . , 2009 ; จอง et al . , 2006 ; Walker
2007 ;zarena &ซังก้า , 2009 ) ส่วนใหญ่ของการศึกษาเหล่านี้โฟกัส
ในแซนโทนจากเปลือกมังคุด ที่ a-mangostin
c-mangostin และพบว่ามีองค์ประกอบหลัก
( จอง et al . , 2006 ; วอล์คเกอร์ , 2007 ) การเกิด mangostins
ในส่วนอื่น ๆของต้นไม้หรือผลไม้ เช่น มังคุด มังคุด 3
( mahabusarakam & เมนะเศวต , 1987 ) แก่น ( nilar , 2002 ) ,
( อี ดาอูด , ต้น ,เตาฟิกแยป , อิส& Rahmani , 2006 ) และเมล็ด
( อภิชาต สุขสำราญ et al . , 2003 ) ได้รับรายงานจากหลายผู้เขียน
นอกเหนือจากนั้น มีการขาดทั่วไปของความชัดเจนในวรรณกรรมกำหนด
เฉพาะส่วนของผลไม้ที่พบโรค .