In the mid- and late-1800s, epidemi

In the mid- and late-1800s, epidemiological methods began to be applied in the investigation of disease occurrence. At that time, most investigators focused on acute infectious diseases. In the 1930s and 1940s, epidemiologists extended their methods to noninfectious diseases. The period since World War II has seen an explosion in the development of research methods and the theoretical underpinnings of epidemiology. Epidemiology has been applied to the entire range of health-related outcomes, behaviors, and even knowledge and attitudes. The studies by Doll and Hill linking lung cancer to smoking (6) and the study of cardiovascular disease among residents of Framingham, Massachusetts (7) are two examples of how pioneering researchers have applied epidemiologic methods to chronic disease since World War II. During the 1960s and early 1970s health workers applied epidemiologic methods to eradicate naturally occurring smallpox worldwide.(8) This was an achievement in applied epidemiology of unprecedented proportions.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในตัวกลาง - และปลายเพราะ วิธีความเริ่มที่จะใช้ในการตรวจสอบการเกิดโรค ในขณะนั้น นักสืบส่วนใหญ่เน้นในโรคติดเชื้อเฉียบพลัน ในช่วงทศวรรษ 1930 และทศวรรษ 1940 โดย epidemiologists ขยายวิธีการของพวกเขาเพื่อโรค noninfectious ระยะเวลานับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองได้เห็นการระเบิดในการพัฒนาระเบียบวิธีวิจัยและ underpinnings ทฤษฎีวิทยาการระบาด มีการใช้วิทยาการระบาดกับช่วงทั้งหมดของผลลัพธ์สุขภาพ พฤติกรรม และแม้แต่ความรู้ และทัศนคติ ศึกษาโดยตุ๊กตาเขาเชื่อมโยงมะเร็งปอดสูบบุหรี่ (6) และศึกษาโรคหัวใจและหลอดเลือดระหว่างชาว Framingham แมสซาชูเซตส์ (7) เป็นตัวอย่างของการบุกเบิกวิจัยได้ใช้วิธี epidemiologic โรคเรื้อรังตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง ในช่วงปี 1960 และต้นทศวรรษ 1970 สุขภาพผู้ปฏิบัติงานใช้วิธี epidemiologic ขจัดไข้ทรพิษเกิดขึ้นตามธรรมชาติทั่วโลก(8) นี้เป็นความสำเร็จในการประยุกต์วิทยาการระบาดของสัดส่วนเป็นประวัติการณ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในช่วงกลางและปลายปี 1800 วิธีการทางระบาดวิทยาเริ่มที่จะนำมาใช้ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงของการเกิดโรค ในขณะที่นักวิจัยส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่โรคติดเชื้อเฉียบพลัน ในช่วงทศวรรษที่ 1930 และ 1940, ระบาดวิทยาขยายวิธีการของพวกเขาไปสู่​​โรค noninfectious ระยะเวลาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองได้เห็นการระเบิดในการพัฒนาวิธีการวิจัยและการหนุนหลังทางทฤษฎีของระบาดวิทยา ระบาดวิทยาได้รับนำไปใช้กับทั้งช่วงของผลลัพธ์ด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมและความรู้ได้และทัศนคติ การศึกษาโดยตุ๊กตาและฮิลล์ที่เชื่อมโยงโรคมะเร็งปอดกับการสูบบุหรี่ (6) และการศึกษาของโรคหัวใจและหลอดเลือดในหมู่ประชาชนของรามิงแฮม, แมสซาชูเซต (7) เป็นสองตัวอย่างของวิธีการสำรวจนักวิจัยได้ใช้วิธีการทางระบาดวิทยาที่จะเกิดโรคเรื้อรังนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง ในช่วงทศวรรษที่ 1960 และต้นปี 1970 คนทำงานด้านสุขภาพใช้วิธีการทางระบาดวิทยาที่จะกำจัดโรคฝีดาษธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั่วโลก. (8) นี่คือความสำเร็จในการใช้ระบาดวิทยาของสัดส่วนประวัติการณ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในกลางและ late-1800s , วิธีการทางระบาดวิทยา เริ่มมีการใช้ในการสอบสวนของการเกิดโรค เวลาที่นักวิจัยส่วนใหญ่เน้นแหลม โรคติดเชื้อ ในช่วงทศวรรษที่ 1930 และ 1940 , ระบาดวิทยาขยายวิธีการของพวกเขาจะ noninfectious โรคระยะเวลานับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองได้เห็นการระเบิดในการพัฒนาวิธีวิจัยและทฤษฎี underpinnings ของระบาดวิทยา ระบาดวิทยาได้ใช้ทั้งช่วงของผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ พฤติกรรม และความรู้การศึกษาโดยตุ๊กตาและเนินการเชื่อมโยงโรคมะเร็งปอดที่สูบบุหรี่ ( 6 ) และศึกษาโรคหัวใจและหลอดเลือดระหว่างผู้อยู่อาศัยใน Framingham , Massachusetts ( 7 ) เป็นสองตัวอย่างของวิธีการที่นักวิจัยผู้บุกเบิกได้ใช้วิธีการทางระบาดวิทยาโรคเรื้อรังตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองในช่วงทศวรรษที่ 1960 และต้นทศวรรษสาธารณสุขประยุกต์วิธีการทางระบาดวิทยา เพื่อกำจัดโรคฝีดาษที่เกิดในธรรมชาติทั่วโลก ( 8 ) นี้ เป็นวิชาวิทยาการระบาดประยุกต์สัดส่วนประวัติการณ์ .