Ramsay Hunt syndrome (herpes zoster

Ramsay Hunt syndrome (herpes zoster oticus) occurs when a shingles infection affects the facial nerve near one of your ears. In addition to the painful shingles rash, Ramsay Hunt syndrome can cause facial paralysis and hearing loss in the affected ear.

Ramsay Hunt syndrome is caused by the same virus that causes chickenpox. After chickenpox heals, the virus lies dormant in your nerves. Years later, it may reactivate. If the virus reactivates and affects your facial nerve, the result is Ramsay Hunt syndrome.

Prompt treatment of Ramsay Hunt syndrome can reduce your risk of complications, which can include permanent facial muscle weakness and deafness.
The two main signs of Ramsay Hunt syndrome are:

A painful red rash with fluid-filled blisters on, in and around one ear
Facial weakness or paralysis on the same side as the affected ear
Usually, the rash and the facial paralysis develop at the same time. But in some cases, the rash will occur before the facial paralysis or the paralysis before the rash. Sometimes the rash never materializes.

If you have Ramsay Hunt syndrome, you might also experience:

Ear pain
Hearing loss
Ringing in your ears (tinnitus)
Difficulty closing one eye
A sensation of spinning or moving (vertigo)
A change in taste perception or loss of taste
When to see a doctor

Call your doctor if you experience facial paralysis or a shingles rash on your face. Treatment beginning within seven days of the start of signs and symptoms may help prevent long-term complications.
Ramsay Hunt syndrome occurs in people who've had chickenpox. Once you recover from chickenpox, that virus can lie dormant in your body for years — sometimes reactivating in later years to cause shingles, a painful rash with fluid-filled blisters.

Ramsay Hunt syndrome is a shingles outbreak that affects the facial nerve near one of your ears. It typically also causes varying degrees of one-sided facial paralysis and hearing loss.

Anyone who has had chickenpox can develop Ramsay Hunt syndrome. But it's more common in older adults, typically affecting people older than 60. Ramsay Hunt syndrome is rare in children.

Ramsay Hunt syndrome isn't contagious. However, reactivation of the varicella-zoster virus can cause chickenpox in people you come in contact with if they haven't previously had chickenpox or been vaccinated for chickenpox. The infection can be serious for people with immune system deficiencies.

Until the rash blisters scab over, avoid physical contact with:

Anyone who's never had chickenpox or vaccination for chickenpox
Anyone who has a weak immune system
Newborns
Pregnant women
Complications of Ramsay Hunt syndrome may include:

Permanent hearing loss and facial weakness. For most people, the hearing loss and facial paralysis associated with Ramsay Hunt syndrome is temporary. However, it can become permanent for some people.
Eye damage. The facial weakness caused by Ramsay Hunt syndrome may make it difficult for you to close your eyelid. Incomplete eyelid closure can lead to damage of the protective dome of clear tissue over the front of your eye (cornea). This damage can cause eye pain and blurred vision.
Postherpetic neuralgia. This painful condition occurs when a shingles infection damages nerve fibers. The messages sent by these nerve fibers become confused and exaggerated — causing pain that may persist long after other signs and symptoms of Ramsay Hunt syndrome have faded.
Treatments and drugs
By Mayo Clinic Staff
Prompt treatment of Ramsay Hunt syndrome can ease pain and decrease your risk of long-term complications. Medications may include:

Antiviral drugs. Medications such as acyclovir (Zovirax), famciclovir (Famvir) or valacyclovir (Valtrex) often help combat the chickenpox virus.
Corticosteroids. A short regimen of high-dose prednisone appears to boost the effect of antiviral drugs in Ramsay Hunt syndrome.
Anti-anxiety medications. Drugs like diazepam (Valium) can help relieve vertigo.
Pain relievers. The pain associated with Ramsay Hunt syndrome can be severe. Narcotic drugs — such as those containing oxycodone (Percocet, Oxycontin, others) or hydrocodone (Vicodin, Lortab, others) — may be needed.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กลุ่มอาการล่าแรมเซย์ (oticus งูสวัด) เกิดขึ้นเมื่อการติดเชื้องูสวัดมีผลต่อเส้นประสาทใบหน้าใกล้หูของคุณอย่างใดอย่างหนึ่ง นอกจากผื่นงูสวัดปวด อาการแรมเซย์ล่าอาจทำให้ใบหน้าอัมพาตและสูญเสียการได้ยินในหูได้รับผลกระทบกลุ่มอาการแรมเซย์ล่าเกิดจากไวรัสเดียวกันที่ทำให้ chickenpox หลังจากรักษา chickenpox ไวรัสอยู่เฉย ๆ ในเส้นประสาทของคุณ ปีต่อมา มันอาจเปิดใช้งาน ถ้าไวรัสทำ และมีผลต่อเส้นประสาทใบหน้าของคุณ ผลคือ กลุ่มอาการล่าแรมเซย์รักษากลุ่มอาการล่าแรมเซย์พร้อมท์สามารถลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน ซึ่งรวมถึงกล้ามเนื้อใบหน้าถาวรอ่อนแอและหูหนวกสัญญาณหลักสองของกลุ่มอาการล่าแรมเซย์เป็น:ผื่นแดงปวด มีแผลเติมน้ำมันบน ใน และ รอบ ๆ หูผิวหน้าอ่อนแอหรืออัมพาตด้านเดียวกับที่เป็นหูได้รับผลกระทบมักจะ อัมพาตใบหน้าและผื่นพัฒนาในเวลาเดียวกัน แต่ในบางกรณี ผื่นจะเกิดขึ้นก่อนอัมพาตใบหน้าหรืออัมพาตก่อนผื่น บางครั้งผื่นไม่ materializesถ้าคุณมีกลุ่มอาการล่าแรมเซย์ คุณอาจยังพบ:อาการปวดหูสูญเสียการได้ยินRinging ในหูของคุณ (เครียด)ปัญหาในการปิดตาความรู้สึกที่ปั่น หรือย้าย (vertigo)การเปลี่ยนแปลงในการรับรู้รสชาติหรือสูญเสียรสชาติเมื่อไปพบแพทย์ติดต่อแพทย์ของคุณถ้าคุณพบอัมพาตใบหน้าหรือผื่นงูสวัดบนผิวหน้าของคุณ เริ่มต้นการรักษาภายในเจ็ดวันเริ่มต้นของอาการอาจช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนระยะยาวแรมเซย์ล่ากลุ่มอาการที่เกิดขึ้นในคนที่เคย chickenpox เมื่อคุณกู้คืนจาก chickenpox ไวรัสที่สามารถปี ๆ ในร่างกายของคุณ — บางครั้งเปิดในปีหลังทำ shingles ผื่นปวดแผลพุพองเติมน้ำมันได้กลุ่มอาการล่าแรมเซย์เป็นการระบาดของโรคงูสวัดที่มีผลต่อเส้นประสาทใบหน้าใกล้หูของคุณอย่างใดอย่างหนึ่ง มันจะยังทำให้ภาอัมพาตใบหน้าด้านเดียวและสูญเสียการได้ยินใครมี chickenpox สามารถพัฒนากลุ่มอาการล่าแรมเซย์ แต่ทั่วไปในผู้ใหญ่สูงอายุ โดยทั่วไปมีผลต่อคนที่อายุมากกว่า 60 กลุ่มอาการล่าแรมเซย์ได้ยากในเด็กกลุ่มอาการล่าแรมเซย์ไม่ติดต่อ อย่างไรก็ตาม เปิดใช้งานใหม่ของไวรัส varicella – zoster สามารถทำ chickenpox คนที่มาติดต่อด้วยว่าก่อนหน้านี้ไม่มี chickenpox หรือฉีดสำหรับ chickenpox ติดไวรัสจะร้ายแรงสำหรับผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันยังจนกว่าแผลผื่น scab เหนือ หลีกเลี่ยงการสัมผัสทางกายภาพด้วย:ใครที่ไม่เคยมี chickenpox หรือวัคซีนสำหรับ chickenpoxใครที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอด้านทารกแรกหญิงตั้งครรภ์ภาวะแทรกซ้อนของอาการล่าแรมเซย์อาจรวมถึง:สูญเสียการได้ยินอย่างถาวรและผิวหน้าอ่อนแอ สำหรับคนส่วนใหญ่ การสูญเสียการได้ยินและอัมพาตใบหน้าเชื่อมโยงกับกลุ่มอาการล่าแรมเซย์ได้ชั่วคราว อย่างไรก็ตาม มันสามารถกลายเป็นถาวรสำหรับบางคนตาความเสียหาย อ่อนแอใบหน้าที่เกิดจากกลุ่มอาการแรมเซย์ล่าอาจทำให้ปิดเปลือกตาของคุณ ปิดเปลือกตาไม่สมบูรณ์อาจทำให้เกิดความเสียหายของโดมป้องกันของเนื้อเยื่อใสกว่าหน้าตาของคุณ (กระจกตา) ความเสียหายนี้อาจทำให้เกิดอาการปวดตาและวิสัยทัศน์ที่ไม่คมชัดPostherpetic neuralgia เงื่อนไขนี้เจ็บปวดเกิดขึ้นเมื่อการติดเชื้องูสวัดความเสียหายเส้นใยประสาท ข้อความที่ส่ง ด้วยเส้นใยประสาทเหล่านี้กลายเป็นสับสน และพูดเกินจริงซึ่งก่อให้เกิดความเจ็บปวดที่อาจคงอยู่นานหลังจากอาการอื่น ๆ และอาการของกลุ่มอาการแรมเซย์ล่ามีสีจางลงการรักษาและยาเสพติดโดย Mayo คลินิกรักษากลุ่มอาการล่าแรมเซย์พร้อมท์สามารถบรรเทาอาการปวด และลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนระยะยาว ยาอาจรวมถึง:ยาต้านไวรัส ยาเช่น acyclovir (Zovirax), famciclovir (Famvir) หรือ valacyclovir (Valtrex) มักจะช่วยต่อสู้ไวรัส chickenpoxCorticosteroids ระบบการปกครองโดยย่อของ prednisone ยาสูงเพื่อ เพิ่มผลของยาต้านไวรัสในกลุ่มอาการล่าแรมเซย์แล้วยาต่อต้านความวิตกกังวล ยาเสพติดเช่น diazepam (Valium) สามารถช่วยบรรเทาอาการรู้สึกหมุนอาการปวดปวัน อาการปวดสัมพันธ์กับกลุ่มอาการล่าแรมเซย์ได้อย่างรุนแรง ยาเสพติด — เช่นประกอบด้วยออกซิโคโดน (Percocet, Oxycontin อื่น ๆ) หรือไฮโดรโคโดน (Vicodin, Lortab อื่น ๆ) ซึ่งอาจจำเป็นได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บริการค้นหาซินโดรม ( งูสวัด oticus ) เกิดขึ้นเมื่อการติดเชื้องูสวัด มีผลต่อเส้นประสาทใกล้หนึ่งของหูของคุณ นอกจากผื่นงูสวัดเจ็บปวด แรมเซย์ ล่าซินโดรมสามารถทำให้เกิดอัมพาตใบหน้าและสูญเสียการได้ยินในหูได้รับผลกระทบ .

บริการค้นหาโรคเกิดจากไวรัสเดียวกันที่ทำให้เกิดอีสุกอีใส หลังจากเป็นอีสุกอีใสหาย ไวรัสอยู่เฉยๆในประสาทของคุณปีต่อมามันอาจจะเปิดใช้งาน . ถ้าไวรัส reactivates และมีผลต่อเส้นประสาทที่ใบหน้าของคุณ ผลที่ได้คือบริการค้นหาซินโดรม

การรักษาบริการค้นหาซินโดรมสามารถลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนซึ่งอาจรวมถึงความอ่อนแอของกล้ามเนื้อใบหน้าถาวรและ deafness
สองสัญญาณหลักของบริการค้นหา Syndrome :

ผื่นแดงเจ็บกับแผลที่เต็มไปด้วยของเหลว ใน และ รอบ ๆข้างหนึ่ง
จุดอ่อนหรืออัมพาตใบหน้าข้างเดียวกับผลกระทบหู
โดยปกติ ผื่นและอัมพาตใบหน้าพัฒนาในเวลาเดียวกัน แต่ในบางกรณี ผื่นจะเกิดขึ้นก่อนที่ใบหน้าอัมพาตหรืออัมพฤกษ์ ก่อนที่ผื่น บางครั้งผื่นไม่เคย materializes .

ถ้าคุณมีบริการค้นหาซินโดรม นอกจากนี้คุณยังอาจพบ :



หูความเจ็บปวดสูญเสียการได้ยินเสียงในหู ( หูอื้อ )
ยากปิดตาข้างหนึ่ง
รู้สึกหมุนหรือเคลื่อนที่ ( vertigo )
เปลี่ยนรสนิยมการรับรู้หรือการสูญเสียรสชาติ
เมื่อเห็นหมอ

โทรแพทย์ของคุณถ้าคุณพบอาการอัมพาตใบหน้าหรืองูสวัดผื่นบนใบหน้าของคุณ การรักษาเริ่มต้นภายในเจ็ดวันของการเริ่มต้นของอาการที่อาจช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนระยะยาว
บริการค้นหาซินโดรมเกิดขึ้นในคนที่เคยมีอีสุกอีใสเมื่อคุณหายจากอีสุกอีใสที่ไวรัสสามารถนอนอยู่เฉยๆในร่างกายของคุณสำหรับปี - บางครั้งใหม่ในปีต่อมาเกิดงูสวัดผื่นเจ็บปวดกับของเหลวที่เต็มไปด้วยแผลพุพอง

บริการค้นหา syndrome เป็นงูสวัดระบาดที่มีผลต่อเส้นประสาทเฟเชียลใกล้หนึ่งของหู มันมักจะมีสาเหตุแตกต่างกันองศาของใบหน้าอัมพาตข้างเดียว

และการสูญเสียการได้ยินใครมีอีสุกอีใสสามารถพัฒนาบริการค้นหาซินโดรม แต่จะพบมากในผู้สูงอายุ มักจะมีผลต่อคนอายุมากกว่า 60 บริการค้นหาโรคที่หายากในเด็ก

บริการค้นหา โรคไม่ติดต่อ อย่างไรก็ตามสถานะของไวรัสงูสวัดทำให้เกิดอีสุกอีใสในคนที่มาติดต่อด้วยถ้ายังไม่เคยมีอีสุกอีใส หรือได้รับวัคซีนอีสุกอีใส . การติดเชื้อที่อาจจะร้ายแรงสำหรับผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง

จนกว่าผื่นแผลตกสะเก็ดแล้ว หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับ :

ใครยังไม่เคยเป็นอีสุกอีใส หรือ วัคซีนอีสุกอีใส
ใครมีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

ทารกภาวะแทรกซ้อนหญิง
ตั้งครรภ์ของบริการค้นหาอาการอาจรวมถึง :

ถาวรสูญเสียการได้ยินและใบหน้าอ่อน สำหรับคนส่วนใหญ่ , สูญเสียการได้ยินและอัมพาตใบหน้าที่เกี่ยวข้องกับบริการค้นหาอาการได้ชั่วคราว อย่างไรก็ตาม มันอาจจะกลายเป็นถาวรสำหรับบางคน .
ตาเสียหายบริการค้นหาจุดอ่อนของใบหน้าที่เกิดจากโรคอาจทำให้มันยากสำหรับคุณที่จะปิดเปลือกตาของคุณ ปิดเปลือกตาไม่สมบูรณ์อาจนำไปสู่ความเสียหายของโดมป้องกันเนื้อเยื่อใสกว่าหน้าตา ( กระจกตา ) ความเสียหายนี้จะทำให้ตาเจ็บ และตาพร่ามัว
postherpetic ประสาท . อาการเจ็บปวดนี้เกิดขึ้นเมื่อมีการติดเชื้องูสวัดความเสียหายของเส้นประสาท .ข้อความที่ถูกส่งโดยใยประสาทเหล่านี้กลายเป็นสับสน และโอ้อวด - ก่อให้เกิดความเจ็บปวดที่อาจคงอยู่นานหลังจากที่สัญญาณและอาการของโรคอื่น ๆบริการค้นหาร่วงโรย การรักษาและใช้ยา


พร้อมพนักงานโดย Mayo คลินิกรักษาบริการค้นหาซินโดรมสามารถบรรเทาอาการปวดและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนระยะยาว โรคอาจรวมถึง :

ยาต้านไวรัสโรคเช่นอะไซโคลเวียร์ ( โซวิแรกซ์ ) , famciclovir ( famvir ) หรือวาลาไซโคลเวียร์ ( ผ่าน ) เข้ามาช่วยในการต่อสู้กับไวรัสอีสุกอีใส .
ยาคลายกล้าม . ระบบการปกครองของยาสั้น Deltasone ปรากฏเพิ่มผลของยาต้านไวรัสในบริการค้นหา ซินโดรม
ยาป้องกันความวิตกกังวล ชอบยาไดอะซีแพม ( ยานอนหลับ ) สามารถช่วยบรรเทาอาการเวียนศีรษะ .
relievers ความเจ็บปวดความเจ็บปวดที่เกี่ยวข้องกับบริการค้นหา อาการจะรุนแรง ยาเสพติด - ปัญหายาเสพติด เช่น ผู้ที่มี oxycodone ( เพอร์โซเซต Oxycontin , อื่นๆ ) หรือไฮโดรโคโดน ( Vicodin lortab , อื่นๆ ) -

อาจจะต้องการ