Several studies have found a recipr

Several studies have found a reciprocal relationship in the prevalence
and severity of cigarette and marijuana use (Degenhardt et al.,
2001; Kandel & Yamaguchi, 1993; Korhonen et al., 2008; Lynskey
et al., 1998; Mathers et al., 2006; Patton et al., 2006). Cigarette users
are more likely to engage in subsequent marijuana use (Kandel &
Yamaguchi, 1993; Patton et al., 2006; Prince van Leeuwen et al., 2013;
Rigotti et al., 2000; Silins et al., 2013), and cigarette users who also use
marijuana are more likely to escalate cigarette use and develop nicotine
dependence (Agrawal, Madden, Bucholz, Heath, & Lynskey, 2008;
Patton, Coffey, Carlin, Sawyer, & Lynskey, 2005; Patton et al., 2006;
Timberlake et al., 2007; Tullis, Dupont, Frost-Pineda, & Gold, 2003).
Males are more likely to use marijuana and cigarettes, and they use
these substances in greater amounts than females (Johnston et al.,
2014; SAMSHA, 2013). However, few studies have examined gender
differences in marijuana and cigarette use over time. One recent
longitudinal study found that adolescent females were more likely to
use cigarettes thanmales, and while therewas no difference inmarijuana
use during early adolescence, males escalated their marijuana use
compared to females throughout adolescence (Mahalik et al., 2013).
Males also escalated their cigarette use throughout adolescence,
surpassing females' use, and remained heavier cigarette smokers in
young adulthood. Females “catch up” over time to males in marijuana
use, and gender differences in amount of use may diminish in young
adulthood (Mahalik et al., 2013).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลายการศึกษาพบความสัมพันธ์กันและในส่วนและความรุนแรงของการใช้บุหรี่และกัญชา (Degenhardt et al.,2001 Kandel และ Yamaguchi, 1993 Korhonen et al., 2008 Lynskeyและ al., 1998 Mathers et al., 2006 แพททันและ al., 2006) ผู้ใช้บุหรี่มีแนวโน้มในการใช้กัญชาต่อมา (Kandel &Yamaguchi, 1993 แพททันและ al., 2006 เจ้าชายแวน Leeuwen et al., 2013Rigotti et al., 2000 Silins et al., 2013), และผู้ใช้บุหรี่ที่ใช้กัญชามีแนวโน้มที่จะเลื่อนระดับใช้บุหรี่ และพัฒนานิโคตินพึ่งพา (Agrawal, Madden, Bucholz สุขภาพ และ Lynskey, 2008แพททัน Coffey, Carlin, Sawyer และ Lynskey, 2005 แพททันและ al., 2006ทิมเบอร์เลคและ al., 2007 Tullis ดูปองท์ Frost Pineda และ ทอง 2003)เพศชายมีแนวโน้มการใช้กัญชาบุหรี่ และใช้สารเหล่านี้ในปริมาณสูงกว่าหญิง (จอห์นสตัน et al.,2014 SAMSHA, 2013) อย่างไรก็ตาม บางการศึกษาได้ตรวจสอบเพศความแตกต่างในกัญชาบุหรี่ใช้เวลา หนึ่งล่าสุดการศึกษาระยะยาวพบว่า หญิงวัยรุ่นมีแนวโน้มที่จะใช้บุหรี่ thanmales และในขณะที่ therewas inmarijuana ไม่แตกต่างใช้ในช่วงวัยรุ่นตอนต้น ชายเลื่อนการใช้กัญชาเมื่อเทียบกับหญิงทั้งวัยรุ่น (Mahalik et al., 2013)ชายที่ใช้ก้นทั่ววัยรุ่น เลื่อนระดับsurpassing หญิงใช้ และยังคง บุหรี่ผู้สูบบุหรี่หนักในหนุ่มวุฒิ หญิง "ทัน" ช่วงเวลาเพื่อชายในกัญชาใช้งาน และความแตกต่างของเพศในการใช้อาจหรอยังวุฒิ (Mahalik et al., 2013)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

งานวิจัยหลายชิ้นพบว่ามีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันในความชุกและความรุนแรงของการใช้บุหรี่และกัญชา (Degenhardt, et al. 2001; Kandel และยามากูชิ, 1993; Korhonen et al, 2008;. Lynskey, et al, 1998;.. Mathers, et al, 2006. แพ็ตตัน, et al, 2006) ผู้ใช้บุหรี่มีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมในการใช้กัญชาที่ตามมา (Kandel และยามากูชิ, 1993. แพ็ตตัน, et al, 2006; เจ้าชายฟอนลีเฟน, et al, 2013;. Rigotti et al, 2000;. Silins et al, 2013.) และ ผู้ใช้บุหรี่ที่ยังใช้กัญชามีแนวโน้มที่จะขยายการใช้บุหรี่และพัฒนานิโคตินพึ่งพา(Agrawal, หัวเสีย Bucholz ป่าและ Lynskey 2008; แพ็ตตัน, เบนจามินคาร์, เลื่อยและ Lynskey 2005. แพ็ตตัน, et al, 2006 ; ทิมเบอร์เลค, et al, 2007;. Tullis, ดูปองต์ฟรอสต์-Pineda และทอง, 2003). เพศผู้มีแนวโน้มที่จะใช้กัญชาและบุหรี่และพวกเขาใช้สารเหล่านี้ในปริมาณที่สูงกว่าเพศหญิง (จอห์นสัน, et al. 2014; SAMSHA 2013) อย่างไรก็ตามการศึกษาไม่กี่มีการตรวจสอบเพศแตกต่างในการใช้กัญชาและบุหรี่ในช่วงเวลา หนึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้การศึกษาระยะยาวพบว่าหญิงวัยรุ่นมีแนวโน้มที่จะใช้thanmales บุหรี่และในขณะที่ therewas ไม่แตกต่างกัน inmarijuana ใช้ในช่วงวัยรุ่นตอนต้นเพศชายเพิ่มขึ้นใช้กัญชาของพวกเขาเมื่อเทียบกับหญิงตลอดวัยรุ่น (Mahalik et al., 2013). เพศยังเพิ่มขึ้นของพวกเขา ใช้บุหรี่ทั่ววัยรุ่นที่เหนือกว่าการใช้หญิง'และยังคงหนักสูบบุหรี่ในวัยผู้ใหญ่ตอนต้น ผู้หญิง "จับ" ช่วงเวลาที่จะอยู่ในเพศกัญชาใช้งานและความแตกต่างทางเพศในปริมาณที่ใช้อาจจะลดน้อยลงในหนุ่มสาววัย(Mahalik et al., 2013)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลายการศึกษาพบความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันในความชุก
และความรุนแรงของบุหรี่และใช้กัญชา ( degenhardt et al . ,
2001 ; แคนเดิล& Yamaguchi , 1993 ; korhonen et al . , 2008 ; ลินสคีย์
et al . , 1998 ; การ et al . , 2006 ; Patton et al . , 2006 ) ผู้ใช้บุหรี่
มีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมในการใช้กัญชาที่ตามมา ( แคนเดิล&
Yamaguchi , 1993 ; Patton et al . , 2006 ;องค์ชายแวน leeuwen et al . , 2013 ;
ริกอตติ et al . , 2000 ; silins et al . , 2013 ) และผู้ใช้บุหรี่ที่ยังใช้
กัญชามีแนวโน้มที่จะขยายและพัฒนาการใช้บุหรี่นิโคติน
( Agrawal Madden bucholz Heath , , , &ลินสคีย์ , 2008 ;
แพตตัน , คอฟฟี่ , คาร์ลอน ซอว์เยอร์ &ลินสคีย์ , 2005 ; Patton et al . , 2006 ;
ทิมเบอร์เลค et al . , 2007 ; tullis DuPont , Frost Pineda , &ทอง , 2003 ) .
ผู้ชายมีแนวโน้มที่จะใช้กัญชา บุหรี่ และพวกเขาใช้
สารเหล่านี้ในปริมาณที่มากกว่าเพศหญิง ( Johnston et al . ,
2014 ; samsha 2013 ) อย่างไรก็ตาม มีการศึกษาน้อยตรวจสอบความแตกต่างทางเพศ
ในกัญชาบุหรี่ใช้ตลอดเวลา การศึกษาระยะยาวหนึ่งล่าสุด
พบว่าวัยรุ่นเพศหญิงมีแนวโน้มที่จะใช้บุหรี่ thanmales
,และในขณะที่ไม่มีความแตกต่าง inmarijuana
ใช้ในช่วงวัยรุ่นตอนต้น , ชายที่เพิ่มขึ้นการใช้กัญชาของพวกเขา
เมื่อเทียบกับเพศหญิงตลอดวัยรุ่น ( mahalik et al . , 2013 ) .
ผู้ชายยังใช้บุหรี่เพิ่มขึ้นตลอดช่วงวัยรุ่น
เหนือกว่าผู้หญิงใช้ และยังคงหนักบุหรี่การสูบบุหรี่ใน
หนุ่ม adulthood หญิง " จับขึ้น " กว่าเวลาที่ผู้ชายใช้กัญชา
,และความแตกต่างทางเพศในปริมาณที่ใช้อาจทำให้อินยอง
ผู้ใหญ่ ( mahalik et al . , 2013 )