Transparency คือการที่แสงไปตกกระทบกับพื้นที่ผิว เมื่อ....มีพื้นที่ผิวที่แตกต่างกัน Crystalline การจัดเรียงตัวที่เป็นระเบียบมากกว่าจึงทำให้ไม่ค่อยมีช่องว่างมาก ดังนั้นแสงจึงไม่ค่อยตกกระทบจึงทำให้ไม่โปร่งแสง ส่วน Amorphous มีการจัดเรียงตัวที่ไม่เป็นระเบียบจึงทำให้แสงตกกระทบได้มากจึงทำให้โปร่งแสง
Opacity คือการที่แสงไปตกกระทบกับพื้นที่ผิว เมื่อ....มีพื้นที่ผิวที่แตกต่างกัน Crystalline การจัดเรียงตัวที่เป็นระเบียบมากกว่าจึงทำให้ไม่ค่อยมีช่องว่างมาก ดังนั้นแสงจึงไม่ค่อยตกกระทบจึงทำให้เกิดการทึบของแสง ส่วน Amorphous มีการจัดเรียงตัวที่ไม่เป็นระเบียบจึงทำให้แสงตกกระทบได้มากจึงทำให้ไม่เกิดการทึบของแสง
Gloss correlate คือการที่แสงเกิดการสะท้อนและเกิดการหักเห เมื่อ....มีพื้นที่ผิวที่แตกต่างกัน Crystalline การจัดเรียงตัวที่เป็นระเบียบมากกว่าจึงทำให้ไม่ค่อยมีช่องว่างมาก ดังนั้นแสงจึงไม่ค่อยตกกระทบจึงทำให้เกิดความทึบของแสง เนื่องจากไม่มีพื้นที่ในการสะท้อนจึงทำให้ไม่เกิดความมันวาว ส่วน Amorphous มีการจัดเรียงตัวที่ไม่เป็นระเบียบจึงทำให้แสงตกกระทบได้มากจึงทำให้เกิดความโปร่งใสของแสงจึงทำให้เกิดความมันวาว