that are sexist will be both causes

that are sexist will be both causes and effects of sexism. When regarded as a result of past sexism, such institutions will then carryon a tradition oft say, exclud­ ing women from available high-paying work. Managers and others who carryon this tradition may, of course, overtly maintain extrinsic sexism. They may sincerely, but falsely, believe women to be incapable of carrying on this work. This intentional extrinsic sexism should be distinguished from what might be called individuated extrinsic sexism, which maintains that while women (as a group) are capable of carrying on this work, no individual woman is. In either case it will be extremely difficult to persuasively establish such trenchant attitudes as sexist. In the latter case though women in general are held to be able to do this work, the technique of holding that each one now applying cannot do the job will effect­ ively, if unintentionally, maintain the sexist tradition. Within that tradition such judgments are considered to be matters of keeping high standards, not sexism. As this practice requires an increasingly high degree of dubious judgment the longer it continues, over time it becomes correspondingly less reasonable to attribute to managers and others the sincere belief that women (as a group) are equally capable. In the case of intentional extrinsic sexism the fact that there are currently no or few women in the field contributes to the view that women cannot or do not want to do the work. The tradition of excluding women is, in this case, intentional, but is labeled by those who practice it "realism," not "sexism."
One important effect of the practice of excluding women in these ways is, of course, that women are made more dependent on others, usually men. By reducing the opportunities women have available to them, women are less able to clearly establish, both to themselves and to others, their general ability to accomplish high-paying (or high-status) tasks. Where these patterns are left unchallenged there is thus little to counter the claim that women are, by nature, more dependent. Moreover, these effects of sexist hiring practices are reinforced in a number of ways. They are re­ inforced by patterns of language which mark and delimit appropriate activities and attitudes on the basis of sex, and relegate the activities and attitudes of women to a lower status (l.e. sexist language). And they are reinforced by systems of education and enculturation which support, if not create and coerce, discrete proclivities for girls and boys, and relegate the proclivities of girls to a lower status. These social aspects of sexism are further mirrored in psychological dispositions, desires, and self­ concepts. Accepting the activities, attitudes, and proclivities which are typically asso­ ciated with men as "normal" or "standard" for human beings (l.e. the man standard) would render the activities, attitudes, and proclivities which are typically associated with women, when different, abnormal or substandard. For instance, women will appear "highly emotional" or "hysterical" when they display more emotion and concern than men, or "brooding" and "moody" when less. More pertinently, recog­ nition of the man standard enables us to make as much sense as one can of the characterization of pregnancy as a form of illness or a temporary disability.
We stated earlier that sexism involves systematic inequality. Our discussion to this point has attempted to elucidate this notion. On our view sexism is a system­ atic, pervasive, but often subtle, force that maintains the oppression of women, and that is at work through institutional structures, in interpersonal interactions and the attitudes that are expressed in them, and in the cognitive, linguistic, and emotional

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ที่เป็น sexist จะทั้งสาเหตุและผลกระทบของเพศนิยม เมื่อถือจากอดีตเพศนิยม สถาบันดังกล่าวจะ แล้ว carryon ประเพณี oft กล่าว ผู้หญิงกำลัง exclud งานจ่ายสูงมี ผู้จัดการและบุคคลอื่นที่ carryon ประเพณีนี้ แน่นอน อาจรักษา overtly เพศนิยมสึกหรอ พวกเขาอาจจริง แต่แอบ เชื่อว่าผู้หญิงเป็นหมันดำเนินงานนี้ เพศนิยมสึกหรอนี้มิควรแตกต่างจากอะไรอาจเรียกว่า individuated สึกหรอเพศนิยม ซึ่งรักษาผู้หญิง (เป็นกลุ่ม) มีความสามารถในการดำเนินงานนี้ ผู้หญิงละไม่ว่า ในกรณีอย่างใดอย่างหนึ่ง มันจะยากมากในการสร้างทัศนคติเช่น trenchant เป็น sexist persuasively ในกรณีหลัง แม้ว่าผู้หญิงโดยทั่วไปจะจัดขึ้นเพื่อให้สามารถทำงานนี้ เทคนิคของถือว่า แต่ละคนตอนนี้ใช้ไม่ทำงานจะมีผล ively ถ้าตั้งใจ รักษาประเพณี sexist ภายในที่ ประเพณีคำพิพากษาดังกล่าวจะถือเป็นเรื่องของการรักษามาตรฐานสูง ไม่เพศนิยม ตามแบบฝึกหัดนี้ต้องการระดับสูงขึ้นพิพากษานานสงสัย มันยังคง ช่วงเวลานั้นจำนวนน้อยเหมาะสมที่จะกำหนดให้กับผู้จัดการและอื่น ๆ ความจริงใจที่ผู้หญิง (เป็นกลุ่ม) มีความสามารถเท่า ๆ กัน กรณีเพศนิยมสึกหรอตก จริงที่ขณะนี้มีผู้หญิงไม่มี หรือไม่ในฟิลด์สนับสนุนมุมมองที่ผู้หญิงไม่สามารถ หรือไม่ต้องการทำงาน ประเพณีการรวมหญิง เป็น ในกรณีนี้ ตก แต่ชื่อผู้ฝึก "สัจนิยม ไม่"เพศนิยม"One important effect of the practice of excluding women in these ways is, of course, that women are made more dependent on others, usually men. By reducing the opportunities women have available to them, women are less able to clearly establish, both to themselves and to others, their general ability to accomplish high-paying (or high-status) tasks. Where these patterns are left unchallenged there is thus little to counter the claim that women are, by nature, more dependent. Moreover, these effects of sexist hiring practices are reinforced in a number of ways. They are re­ inforced by patterns of language which mark and delimit appropriate activities and attitudes on the basis of sex, and relegate the activities and attitudes of women to a lower status (l.e. sexist language). And they are reinforced by systems of education and enculturation which support, if not create and coerce, discrete proclivities for girls and boys, and relegate the proclivities of girls to a lower status. These social aspects of sexism are further mirrored in psychological dispositions, desires, and self­ concepts. Accepting the activities, attitudes, and proclivities which are typically asso­ ciated with men as "normal" or "standard" for human beings (l.e. the man standard) would render the activities, attitudes, and proclivities which are typically associated with women, when different, abnormal or substandard. For instance, women will appear "highly emotional" or "hysterical" when they display more emotion and concern than men, or "brooding" and "moody" when less. More pertinently, recog­ nition of the man standard enables us to make as much sense as one can of the characterization of pregnancy as a form of illness or a temporary disability.We stated earlier that sexism involves systematic inequality. Our discussion to this point has attempted to elucidate this notion. On our view sexism is a system­ atic, pervasive, but often subtle, force that maintains the oppression of women, and that is at work through institutional structures, in interpersonal interactions and the attitudes that are expressed in them, and in the cognitive, linguistic, and emotional

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่มีผู้หญิงจะมีทั้งสาเหตุและผลกระทบของการกีดกันทางเพศ เมื่อได้รับการยกย่องเป็นผลมาจากการกีดกันทางเพศที่ผ่านมาสถาบันดังกล่าวจะอบรมอาชีพประเพณีมักจะพูดว่าไอเอ็นจี exclud ผู้หญิงจากการทำงานที่มีอยู่สูงจ่าย ผู้จัดการและคนอื่น ๆ ที่อบรมอาชีพประเพณีนี้อาจแน่นอนเปิดเผยรักษากีดกันภายนอก พวกเขาอาจจะนับถือ แต่เท็จเชื่อว่าผู้หญิงที่จะเป็นความสามารถในการดำเนินการเกี่ยวกับงานนี้ เพศภายนอกนี้จงใจควรจะแตกต่างจากสิ่งที่อาจจะเรียกว่าการกีดกันทางเพศภายนอก individuated ซึ่งยืนยันว่าในขณะที่ผู้หญิง (เป็นกลุ่ม) มีความสามารถในการดำเนินการเกี่ยวกับงานนี้ไม่มีผู้หญิงคนแต่ละคนเป็น ในทั้งสองกรณีมันจะเป็นเรื่องยากมากที่จะเชิญชวนสร้างทัศนคติคมเช่นผู้หญิง ในกรณีหลังแม้ว่าผู้หญิงโดยทั่วไปจะมีขึ้นที่จะสามารถทำผลงานนี้ใช้เทคนิคของการถือครองที่แต่ละคนตอนนี้ใช้ไม่สามารถทำผลงานได้จะมีผล ively ถ้าไม่ตั้งใจรักษาประเพณีผู้หญิง ภายในประเพณีที่ตัดสินดังกล่าวจะถือว่าเป็นเรื่องของการรักษามาตรฐานที่สูงไม่กีดกัน ขณะที่การปฏิบัตินี้ต้องระดับสูงมากขึ้นของการตัดสินที่น่าสงสัยอีกต่อไปมันยังคงเมื่อเวลาผ่านไปมันจะกลายเป็นเหมือนกันที่เหมาะสมน้อยที่จะแอตทริบิวต์ให้กับผู้จัดการและคนอื่น ๆ ความเชื่ออย่างจริงใจว่าผู้หญิง (เป็นกลุ่ม) ที่มีความสามารถเท่าเทียมกัน ในกรณีที่มีการกีดกันทางเพศภายนอกเจตนาข้อเท็จจริงที่ว่ามีอยู่ในขณะนี้หรือไม่กี่ผู้หญิงในด้านก่อให้เกิดมุมมองที่ผู้หญิงไม่สามารถหรือไม่ต้องการที่จะทำผลงาน ประเพณีของผู้หญิงที่ไม่รวมอยู่ในกรณีนี้โดยเจตนา แต่จะมีป้ายโดยผู้ที่ปฏิบัติมัน "สมจริง" ไม่ใช่ "การกีดกันทางเพศ."
ผลประการหนึ่งที่สำคัญของการปฏิบัติของผู้หญิงไม่รวมในวิธีการเหล่านี้เป็นที่แน่นอนว่าผู้หญิงเป็น ทำขึ้นอยู่กับคนอื่น ๆ คนมักจะมากขึ้น โดยการลดโอกาสที่ผู้หญิงมีที่มีให้ผู้หญิงมีน้อยสามารถที่จะสร้างได้อย่างชัดเจนทั้งตัวเองและคนอื่น ๆ ความสามารถทั่วไปของพวกเขาที่จะบรรลุจ่ายสูง (หรือสถานะสูง) งาน ที่รูปแบบเหล่านี้จะเหลือไม่มีใครทักท้วงมีน้อยจึงจะตอบโต้อ้างว่าผู้หญิงมีโดยธรรมชาติขึ้นอยู่มากขึ้น นอกจากนี้ผลกระทบเหล่านี้ของการปฏิบัติที่การจ้างงานผู้หญิงจะเสริมในหลายวิธี พวกเขาจะกำลัง inforced โดยรูปแบบของภาษาซึ่งทำเครื่องหมายและคั่นกิจกรรมที่เหมาะสมและทัศนคติบนพื้นฐานของการมีเพศสัมพันธ์และผลักไสกิจกรรมและทัศนคติของผู้หญิงที่จะสถานะที่ต่ำกว่า (le ภาษาผู้หญิง) และพวกเขาจะเสริมด้วยระบบการศึกษาและการเรียนรู้วัฒนธรรมที่สนับสนุนหากไม่ได้สร้างและบีบบังคับ, นิสัยไม่ต่อเนื่องสำหรับเด็กหญิงและเด็กชายและผลักไสนิสัยของสาว ๆ ที่จะมีฐานะต่ำกว่า เหล่านี้ด้านสังคมของเพศสะท้อนต่อไปในการแสดงออกทางด้านจิตใจความปรารถนาและแนวความคิดของตัวเอง กิจกรรมรับทัศนคติและนิสัยที่มักจะร ciated กับผู้ชายเป็น "ปกติ" หรือ "มาตรฐาน" สำหรับมนุษย์ (le คนมาตรฐาน) จะทำให้กิจกรรมทัศนคติและนิสัยที่เกี่ยวข้องโดยทั่วไปกับผู้หญิงที่แตกต่างกันเมื่อ ผิดปกติหรือต่ำกว่ามาตรฐาน ยกตัวอย่างเช่นผู้หญิงจะปรากฏ "สูงทางอารมณ์" หรือ "ตีโพยตีพาย" เมื่อพวกเขาแสดงอารมณ์มากขึ้นและความกังวลมากกว่าผู้ชายหรือ "ครุ่นคิด" และ "อารมณ์" เมื่อน้อย เพิ่มเติมอย่างเข้าเรื่อง, nition สูตของมนุษย์มาตรฐานช่วยให้เราสามารถทำให้ความรู้สึกมากที่สุดเท่าที่หนึ่งสามารถของลักษณะของการตั้งครรภ์เป็นรูปแบบของการเจ็บป่วยหรือความพิการชั่วคราว.
เราระบุไว้ก่อนหน้าการกีดกันทางเพศที่เกี่ยวข้องกับความไม่เท่าเทียมกันอย่างเป็นระบบ การสนทนาของเรามาถึงจุดนี้ได้พยายามที่จะอธิบายความคิดนี้ ในมุมมองของเรากีดกัน Atic เป็นระบบที่แพร่หลาย แต่มักจะบอบบางแรงที่ยังคงกดขี่ผู้หญิงและที่เป็นที่ทำงานผ่านโครงสร้างของสถาบันในการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและทัศนคติที่จะแสดงในพวกเขาและในองค์ความรู้ทางภาษา และอารมณ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ที่ดูเซ็กซี่จะเป็นทั้งสาเหตุและผลกระทบของการแบ่งแยกเพศ . เมื่อถือว่าเป็นผลของอดีตเพศนิยม เช่นสถาบันจะ carryon ประเพณีบ่อยๆว่า exclud องผู้หญิงจากไอเอ็นจีที่มีอยู่สูงจ่ายงาน ผู้จัดการและผู้ที่ carryon ประเพณีนี้อาจแน่นอนอย่างเปิดเผยรักษาภายนอกเพศนิยม . พวกเขาอาจจะจริงใจ แต่เป็นความเท็จเชื่อว่าผู้หญิงจะไม่สามารถดำเนินการงานนี้เพศนิยมภายนอกนี้จงใจจะแตกต่างจากสิ่งที่อาจจะเรียกว่าความ individuated เพศนิยม ซึ่งยืนยันว่าในขณะที่ผู้หญิง ( 1 ) มีความสามารถในการดําเนินงานนี้ไม่มีผู้หญิงแต่ละคนเป็น ในทั้งสองกรณีจะเป็นเรื่องยากมากที่จะเชิญชวนให้สร้างเช่นโดยทัศนคติที่เซ็กซี่ในกรณีหลังนี้ถึงแม้ว่าผู้หญิงทั่วไปจะจัดขึ้นเพื่อให้สามารถทํางานนี้ เทคนิคของแต่ละคน ตอนนี้ใช้ไม่ได้ ถือว่าทำงานได้ผล ively อง ถ้า ตั้งใจ รักษาประเพณี เซ็กซี่ ในประเพณีคำตัดสินดังกล่าวถือเป็นเรื่องของการรักษามาตรฐานสูง ไม่มีการแบ่งแยกเพศ .การปฏิบัตินี้ต้องการระดับสูงขึ้นของการตัดสินที่น่าสงสัยอีกต่อไปมันต่อไป เมื่อเวลาผ่านไปมันกลายเป็นดับน้อยที่เหมาะสมกับคุณลักษณะของผู้จัดการและคนอื่น ๆจริงใจ ความเชื่อที่ว่าผู้หญิง ( 1 ) มีความสามารถเท่าเทียมกันในกรณีของเจตนาภายนอกเพศนิยม ที่ว่า ขณะนี้มีไม่ หรือผู้หญิงที่ไม่กี่ในด้านก่อให้เกิดมุมมองที่ผู้หญิงไม่สามารถหรือไม่ต้องการทำงาน ประเพณีของผู้หญิง คือ ยกเว้น ในกรณีนี้ เจตนา แต่เป็นข้อความที่ผู้ปฏิบัติ " สัจนิยม " ไม่ใช่ " แอสกี " ผลที่สำคัญอันหนึ่งของการปฏิบัติที่ไม่รวมผู้หญิงด้วยวิธีเหล่านี้ แน่นอนผู้หญิงที่ถูกสร้างขึ้นขึ้นอยู่กับคนอื่น มักจะเป็นผู้ชาย โดยการลดโอกาสที่ผู้หญิงมีพวกเขา ผู้หญิงจะสร้างน้อยลงอย่างชัดเจน ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ความสามารถทั่วไปของพวกเขาเพื่อให้บรรลุสูงจ่าย ( หรือสถานภาพสูง ) งาน ซึ่งรูปแบบนี้มีซ้ายมีปานเล็กๆไม่มีใครทักท้วงโต้อ้างว่าผู้หญิงโดยธรรมชาติมากกว่า ขึ้นอยู่กับนอกจากนี้ผลของการเหยียด การเสริมในหลายวิธี พวกเขาจะ re องความสวยโดยรูปแบบภาษามาร์คที่เหมาะสมและทัศนคติและคั่นกิจกรรมบนพื้นฐานของเพศและจัดอยู่ในกลุ่มของกิจกรรม และ ทัศนคติของผู้หญิงระดับล่าง ( l.e. กีดกันทางเพศภาษา ) และพวกเขาจะเสริมด้วยระบบการศึกษาและการเรียนรู้ สนับสนุน ซึ่งถ้าไม่สร้าง และบีบบังคับให้ความเบี่ยงเบนไม่ต่อเนื่อง , เด็กผู้หญิง และเด็กผู้ชาย และขับไล่พวกความเบี่ยงเบนของผู้หญิงที่จะมีสถานะต่ำกว่า เหล่านี้ด้านสังคมของเพศนิยมเพิ่มเติม mirrored ในอุปนิสัย จิตใจ และแนวความคิดองตนเอง ตอบรับกิจกรรม เจตคติและความเบี่ยงเบน ซึ่งมักจะ รศอง ciated กับผู้ชายเป็น " ปกติ " หรือ " มาตรฐาน " สำหรับมนุษย์ ( l.e.มาตรฐานผู้ชาย ) จะแสดงกิจกรรมต่างๆ ทัศนคติและความเบี่ยงเบนซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับผู้หญิงที่แตกต่างกัน ที่ผิดปกติ หรือต่ำกว่ามาตรฐาน . ตัวอย่างเช่น ผู้หญิงจะปรากฏทางอารมณ์ " สูง " หรือ " ฮิสทีเรีย " เมื่อพวกเขาแสดงอารมณ์ และกังวลมากกว่าผู้ชาย หรือ " กก " และ " อารมณ์ " เมื่อน้อย pertinently มากขึ้น ,