Scientists have finally succeeded i

Scientists have finally succeeded in using cloning to create human embryonic stem cells, a step toward developing replacement tissue to treat diseases but one that might also hasten the day when it will be possible to create cloned babies.






The researchers, at Oregon Health and Science University, took skin cells from a baby with a genetic disease and fused them with donated human eggs to create human embryos that were genetically identical to the 8-month-old. They then extracted stem cells from those embryos.

The embryo-creation technique is essentially the same as that used to create Dolly the sheep and the many cloned animals that have followed. In those cases, the embryos were implanted in the wombs of surrogate mothers.

The Oregon researchers, led by Prof. Shoukhrat Mitalipov, did not implant their human embryos and said they had no intention of doing so. They say their technique, in any case, would not lead to the birth of a viable baby. The same technique, tried in monkeys for years, never resulted in the birth of a cloned monkey, they said.

Nonetheless, the fact that the scientists were able to get cloned human embryos to survive long enough for stem cell extraction is likely to be seen as a step on the way to human reproductive cloning.

The Conference of Catholic Bishops, for instance, said Wednesday that the research “will be taken up by those who want to produce cloned children as ‘copies’ of other people.”

Cardinal Sean O’Malley of Boston said human cloning was immoral, even if used for therapeutic purposes, because it “treats human being as products, manufactured to order to suit other people’s wishes.”

The Oregon researchers, who published a paper on their work in the journal Cell, say their goal is what has been called therapeutic cloning: making embryonic stem cells that are genetically identical to a particular patient.

Embryonic stem cells can turn into any type of cell in the body, like heart cells, muscles or neurons. That raises the hope that one day the cells will be turned into replacement tissue or even replacement organs to treat a host of diseases.

Human embryonic cells are now mainly derived from embryos created by fertilization in fertility clinics. But tissues created from those stem cells would not genetically match a patient, meaning steps might be needed to prevent rejection.

Scientists have been trying for more than 10 years to create human embryonic stem cells using the cloning method. Korean researchers made international headlines in 2005 when they claimed to have done this, but the claim turned out to be fraudulent.

Still, the demand for therapeutic cloning may be less now than it was a decade ago because scientists can now use adult skin cells to create a stem cell very similar to embryonic cells, but without the need for embryos. These are called induced pluripotent stem cells. The induced cells also sidestep the ethical issues of embryonic stem cells, which are often created by destroying embryos.

Attempts to use either type of cell for therapy remain at the early stages of research, so it is not clear which will turn out to be better. So-called adult stem cells, taken from blood, fat or other parts of the body, are another possible option.

Dr. Mitalipov and his colleagues created monkey stem cells through cloning in 2007 and since then have been trying to tweak the technique to work with human cells.

A drawback of therapeutic cloning is that there might never be enough human eggs available to treat all patients, should the therapy ever work. Egg donors can suffer serious side effects from the powerful hormones needed to generate multiple eggs.

Dr. Mitalipov said the technique was efficient enough that one donation — which can include multiple eggs — would probably be enough to generate a stem cell line, even accounting for failures.

Most patients who would want replacement tissues are likely to be old. The researchers must still show they can produce stem cells starting with skin cells from adults.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นักวิทยาศาสตร์ได้ประสบความสำเร็จในที่สุดการใช้โคลนเพื่อสร้างมนุษย์ของตัวอ่อนสเต็มเซลล์ ขั้นตอนการพัฒนาเนื้อเยื่อทดแทนในการรักษาโรคแต่ที่อาจยังเร่งวันเร่งเมื่อมันจะเป็นไปได้ในการสร้างทารกโคลนนักวิจัย โอเรกอนสุขภาพและวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัย เอาเซลล์ผิวจากลูกที่มีโรคทางพันธุกรรม และผสมผสานไปกับไข่มนุษย์บริจาคสร้าง embryos มนุษย์ที่มีพันธุกรรมเหมือนกับอายุ 8 เดือน นอกจากนี้พวกเขาแล้วแยกสเต็มเซลล์จาก embryos เหล่านั้นเทคนิคการสร้างตัวอ่อนเป็นหลักเหมือนกับที่ใช้ในการสร้างปลาดอรี่สมุนไพรแกะและสัตว์โคลนจำนวนมากที่ได้ปฏิบัติตาม ในกรณีดังกล่าว embryos ถูกฝังใน wombs ของตัวแทนมารดานักวิจัยโอเรกอน นำ โดยศาสตราจารย์ Shoukhrat Mitalipov ไม่ได้ประสาท embryos มนุษย์ของพวกเขา และกล่าวว่า พวกเขามีความตั้งใจที่ทำเช่นนั้น พวกเขากล่าวว่า เทคนิคของพวกเขา ในกรณีใด ๆ จะนำไปสู่การเกิดของทารกทำงานได้ เทคนิคเดียวกัน ลองลิงปี ไม่เคยส่งผลให้การเกิดของลิงโคลน พวกเขากล่าวว่ากระนั้น ความจริงที่ว่า นักวิทยาศาสตร์จะได้รับ embryos โคลนมนุษย์เพื่อความอยู่รอดนานพอที่การสกัดเซลล์ต้นกำเนิดมีแนวโน้มให้เห็นเป็นขั้นตอนวิธีการโคลนมนุษย์สืบพันธุ์การประชุมของบาทหลวงคาทอลิก เช่น กล่าวว่า วันพุธว่า การวิจัย "จะถูกนำขึ้น โดยผู้ที่ต้องการผลิตเด็กโคลนเป็น 'สำเนา' ของคนอื่น"พระคาร์ดินัล Sean O'Malley ของบอสตันกล่าวว่า การโคลนมนุษย์ศีลธรรม แม้ใช้สำหรับวัตถุประสงค์ในการรักษา ได้เนื่องจากมัน"มนุษย์เป็นผลิตภัณฑ์ ผลิตเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของคนอื่น"นักวิจัยโอเรกอน ผู้เผยแพร่กระดาษในการทำงานในสมุดรายวันเซลล์ บอกว่า เป้าหมายคือ อะไรถูกเรียกโคลนบำบัด: ทำสเต็มเซลล์ของตัวอ่อนที่มีพันธุกรรมเหมือนกับผู้ป่วยเฉพาะเซลล์ต้นกำเนิดของตัวอ่อนสามารถเปลี่ยนเป็นชนิดของเซลล์ในร่างกาย เซลล์หัวใจ กล้ามเนื้อ หรือเซลล์ประสาท ที่ทำให้เกิดความหวังว่า วันหนึ่งเซลล์จะเปลี่ยนเป็นเนื้อเยื่อทดแทนหรือแม้แต่การเปลี่ยนอวัยวะการรักษาของโรคเซลล์ของตัวอ่อนมนุษย์ส่วนใหญ่ตอนนี้ได้มาจาก embryos โดยปฏิสนธิในคลินิกความอุดมสมบูรณ์ แต่เนื้อเยื่อที่สร้างขึ้นจากเซลล์ต้นกำเนิดเหล่านั้นจะต้องตรงกับผู้ป่วยทางพันธุกรรม ความหมายขั้นตอนอาจจะจำเป็นเพื่อป้องกันการปฏิเสธนักวิทยาศาสตร์มีการพยายามมากกว่า 10 ปีในการสร้างมนุษย์สเต็มเซลล์ของตัวอ่อนโดยใช้วิธีการโคลน นักวิจัยเกาหลีทำพาดหัวนานาชาติในปี 2005 เมื่อพวกเขาอ้างว่า ทำสิ่งนี้ แต่การเรียกร้องกลายเป็นหลอกลวงยังคง ความต้องการสำหรับการบำบัดโคลนอาจจะน้อยกว่าตอนเป็นสิบ เพราะนักวิทยาศาสตร์สามารถใช้ผู้ใหญ่เซลล์เพื่อสร้างเซลล์ที่คล้ายกับของตัวอ่อนของเซลล์ต้นกำเนิด แต่ ไม่ต้อง embryos เหล่านี้จะเรียกว่าเซลล์ต้นกำเนิดเกิด pluripotent เซลล์ที่เกิดยัง sidestep ปัญหาจริยธรรมของตัวอ่อนสเต็มเซลล์ ซึ่งมักจะสร้างขึ้น โดยการทำลาย embryosความพยายามที่จะใช้ชนิดใดชนิดหนึ่งของเซลล์สำหรับการบำบัดอยู่ที่แรก ๆ ของการวิจัย ก็ยังไม่ชัดเจนซึ่งจะเปิดออกมาจะดีกว่า เรียกว่าผู้ใหญ่เซลล์ต้นกำเนิด ถ่ายเลือด ไขมัน หรือส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เป็นอีกตัวเลือกที่เป็นไปได้ดร. Mitalipov และเพื่อนร่วมงานของเขาสร้างลิงเซลล์ต้นกำเนิดผ่านโคลน ใน 2007 และตั้งแต่ นั้นได้พยายามที่จะปรับแต่งเทคนิคการทำงานกับเซลล์มนุษย์ข้อเสียเปรียบของโคลนบำบัดคือ อาจไม่เพียงพอไข่มนุษย์ที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยทั้งหมด ควรรักษาเคยทำ ผู้บริจาคไข่สามารถประสบผลข้างเคียงร้ายแรงจากฮอร์โมนที่จำเป็นในการสร้างไข่หลายดร. Mitalipov กล่าวว่า เทคนิคมีประสิทธิภาพพอที่บริจาคหนึ่ง — ซึ่งสามารถรวมไข่หลายซึ่งคงจะเพียงพอที่จะสร้างสเต็มเซลล์เส้น แม้บัญชีสำหรับความล้มเหลวได้ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ต้องการทดแทนเนื้อเยื่อน่าจะเก่า นักวิจัยยังคงต้องแสดงพวกเขาสามารถผลิตเซลล์ต้นกำเนิดที่เริ่มต้น ด้วยเซลล์ผิวหนังจากผู้ใหญ่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นักวิทยาศาสตร์ได้ประสบความสำเร็จในที่สุดโดยใช้การโคลนนิ่งในการสร้างเซลล์ต้นกำเนิดตัวอ่อนที่มีขั้นตอนที่มีต่อการพัฒนาเนื้อเยื่อทดแทนในการรักษาโรค แต่อย่างหนึ่งที่อาจเร่งวันที่มันจะเป็นไปได้ที่จะสร้างทารกโคลน. นักวิจัยที่โอเรกอนมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ เอาเซลล์ผิวจากทารกที่มีโรคทางพันธุกรรมและการหลอมรวมพวกเขาด้วยไข่มนุษย์บริจาคในการสร้างตัวอ่อนมนุษย์ที่มีพันธุกรรมเหมือนกันกับ 8 เดือนเก่า จากนั้นพวกเขาสกัดเซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อนเหล่านั้น. เทคนิคการสร้างตัวอ่อนเป็นหลักเช่นเดียวกับที่ใช้ในการสร้างตุ๊กตาแกะและสัตว์โคลนจำนวนมากที่ได้ปฏิบัติตาม ในกรณีที่ตัวอ่อนที่ถูกฝังอยู่ในครรภ์ของมารดาตัวแทน. โอเรกอนนักวิจัยนำโดยศ. Shoukhrat Mitalipov ไม่ได้ฝังตัวอ่อนมนุษย์ของพวกเขาและกล่าวว่าพวกเขามีความตั้งใจที่จะทำเช่นนั้นไม่ พวกเขากล่าวว่าเทคนิคของพวกเขาในกรณีใด ๆ จะไม่นำไปสู่การเกิดของทารกที่ทำงานได้ เทคนิคเดียวกันพยายามในลิงมานานหลายปีไม่เคยมีผลในการเกิดของลิงโคลนพวกเขากล่าวว่า. อย่างไรก็ตามความจริงที่ว่านักวิทยาศาสตร์ก็สามารถที่จะได้รับการโคลนตัวอ่อนของมนุษย์เพื่อความอยู่รอดนานพอสำหรับการสกัดเซลล์ต้นกำเนิดมีแนวโน้มที่จะมองเห็นได้ เป็นขั้นตอนเกี่ยวกับวิธีการโคลนสืบพันธุ์ของมนุษย์. สภาพระสังฆราชคาทอลิกเช่นพุธกล่าวว่าการวิจัย "จะถูกนำขึ้นโดยผู้ที่ต้องการที่จะผลิตเด็กโคลนเป็น 'สำเนา' ของคนอื่น ๆ ." พระคาร์ดินัลฌอนโอ 'Malley บอสตันกล่าวว่าการโคลนนิ่งมนุษย์เป็นศีลธรรมแม้ว่าใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการรักษาเพราะมัน "ถือว่ามนุษย์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในการสั่งซื้อเพื่อให้เหมาะกับความปรารถนาของคนอื่น ๆ ." โอเรกอนนักวิจัยที่ตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับการทำงานของพวกเขาในวารสาร มือถือกล่าวว่าเป้าหมายของพวกเขาคือสิ่งที่ได้รับการเรียกโคลนการรักษา:. ทำให้เซลล์ต้นกำเนิดตัวอ่อนที่มีลักษณะทางพันธุกรรมเหมือนกันกับผู้ป่วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเซลล์ต้นกำเนิดตัวอ่อนสามารถเปลี่ยนเป็นประเภทใด ๆ ของเซลล์ในร่างกายเช่นเซลล์หัวใจกล้ามเนื้อหรือเซลล์ประสาท ที่เพิ่มความหวังว่าวันหนึ่งเซลล์จะกลายเป็นเนื้อเยื่อทดแทนหรือแม้กระทั่งอวัยวะทดแทนการรักษาโฮสต์ของโรค. เซลล์ตัวอ่อนมนุษย์อยู่ในขณะนี้ส่วนใหญ่ได้มาจากตัวอ่อนที่สร้างขึ้นโดยการปฏิสนธิในคลินิกความอุดมสมบูรณ์ แต่เนื้อเยื่อที่สร้างขึ้นจากเซลล์ต้นกำเนิดเหล่านั้นจะไม่ตรงกับผู้ป่วยพันธุกรรมหมายถึงขั้นตอนอาจจะจำเป็นเพื่อป้องกันไม่ให้การปฏิเสธ. นักวิทยาศาสตร์ได้พยายามมานานกว่า 10 ปีในการสร้างเซลล์ต้นกำเนิดตัวอ่อนโดยใช้วิธีการโคลน นักวิจัยเกาหลีทำข่าวต่างประเทศในปี 2005 เมื่อพวกเขาอ้างว่าได้กระทำเช่นนี้ แต่การเรียกร้องเปิดออกมาเป็นฉ้อโกง. ยังคงความต้องการสำหรับการโคลนการรักษาอาจจะน้อยกว่านี้ก็ทศวรรษที่ผ่านมาเพราะขณะนี้นักวิทยาศาสตร์สามารถใช้เซลล์ผิวผู้ใหญ่ สร้างเซลล์ต้นกำเนิดคล้ายกับเซลล์ตัวอ่อน แต่ไม่ต้องใช้ตัวอ่อน เหล่านี้เรียกว่า induced pluripotent เซลล์ต้นกำเนิด เซลล์เหนี่ยวนำยังหลีกเลี่ยงประเด็นด้านจริยธรรมของเซลล์ต้นกำเนิดตัวอ่อนซึ่งมักจะถูกสร้างขึ้นโดยตัวอ่อนทำลาย. พยายามที่จะใช้ชนิดของเซลล์สำหรับการรักษาทั้งสองยังคงอยู่ในขั้นเริ่มต้นของการวิจัยจึงเป็นสิ่งที่ไม่ชัดเจนซึ่งจะเปิดออกเพื่อจะดีขึ้น . ที่เรียกว่าเซลล์ต้นกำเนิดมาจากเลือดไขมันหรือส่วนอื่น ๆ ของร่างกายเป็นอีกตัวเลือกที่เป็นไปได้. ดร. Mitalipov และเพื่อนร่วมงานของเขาสร้างเซลล์ลิงลำต้นผ่านโคลนในปี 2007 และตั้งแต่นั้นมาได้พยายามที่จะปรับแต่งเทคนิคในการทำงานกับเซลล์ของมนุษย์. ข้อเสียเปรียบของการโคลนการรักษาคือว่ามีไม่อาจจะเป็นไข่ของมนุษย์เพียงพอที่จะรักษาผู้ป่วยทั้งหมดที่ควร การรักษาด้วยการที่เคยทำงาน ผู้บริจาคไข่สามารถประสบผลข้างเคียงร้ายแรงจากฮอร์โมนที่มีประสิทธิภาพที่จำเป็นในการสร้างไข่หลาย. ดร. Mitalipov กล่าวว่าเทคนิคมีประสิทธิภาพพอที่จะทำให้หนึ่งในการบริจาค - ซึ่งอาจรวมถึงไข่หลาย -. อาจจะเพียงพอที่จะสร้างสายพันธุ์ของเซลล์ต้นกำเนิดแม้การบัญชีสำหรับความล้มเหลวของผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ต้องการเนื้อเยื่อทดแทนมีแนวโน้มที่จะเก่า นักวิจัยยังคงต้องแสดงให้พวกเขาสามารถผลิตเซลล์ต้นกำเนิดที่เริ่มต้นด้วยเซลล์ผิวจากผู้ใหญ่