Saint Kitts and Nevis is a twin-isl

Saint Kitts and Nevis is a twin-island federation whose economy is characterised by its dominant tourism, agriculture and light manufacturing industries. Sugar was the primary export from the 1940s on, but rising production costs, low world market prices, and the government's efforts to reduce dependence on it have led to a growing diversification of the agricultural sector. In 2005, the government decided to close down the state-owned sugar company, which had experienced losses and was a significant contributor to the fiscal deficit.

Former sugar plantations still dominate the St. Kitts landscape, however many of the cane fields are being burned to make room for land development, especially on the northern side of the island, in the parishes of Saint John Capisterre and Christchurch. The agricultural, tourism, export-oriented manufacturing, and offshore-banking sectors are being developed and are now taking larger roles in the country's economy. The growth of the tourism sector has become the main foreign exchange earner for Saint Kitts and Nevis. The country has also developed a successful apparel assembly industry and one of the largest electronics assembly industries in the Caribbean.

St. Kitts is dependent on tourism to drive its economy. Tourism to the island has been expanding since 1978. In 2009 there were 587,479 arrivals to Saint Kitts compared to 379,473 in 2007. This growth represents an increase of just under 40% in a two-year period. As tourism grows the demand for vacation property increases in conjunction.

In hopes of expanding tourism, the country hosts its annual St. Kitts Music Festival.

St Kitts & Nevis also acquires foreign direct investment from their citizenship by investment program, outlined in their Citizenship Act of 1984. Interested parties can acquire citizenship if they pass the government's background checks and make an investment into an approved real estate development.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เซนต์คิตส์และเนวิสเป็นสภาคู่เกาะเป็นเศรษฐกิจมีประสบการ์ท่องเที่ยวหลักของ เกษตร และอุตสาหกรรมการผลิตไฟ น้ำตาลส่งออกหลักจากทศวรรษ 1940 โดยบน แต่ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ราคาตลาดโลกต่ำ และความพยายามของรัฐบาลเพื่อลดการพึ่งพาจะได้นำไปสู่วิสาหกิจเติบโตของภาคการเกษตร ในปี 2005 รัฐบาลตัดสินใจปิดบริษัทรัฐน้ำตาล ที่มีประสบการณ์ขาดทุน และสำคัญผู้บริจาคบัญชีดุล

อดีตน้ำตาลไร่ครองเซนต์คิตส์ภูมิทัศน์ ให้ยังคงแต่หลายฟิลด์เท้าที่จะเขียนเพื่อให้ห้องพักในที่ดินพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านเหนือของเกาะ ใน parishes Capisterre เซนต์จอห์นและไครสต์เชิร์ช การเกษตร ท่องเที่ยว ส่งออกภาคการผลิต และ ธนาคารต่างประเทศกำลังพัฒนา และตอนนี้จะมีบทบาทใหญ่ในเศรษฐกิจของประเทศ การเติบโตของภาคการท่องเที่ยวได้กลายเป็น earner แลกเปลี่ยนเงินตราหลักในเซนต์คิตส์และเนวิส ประเทศยังมีพัฒนาวงการแอสเซมบลีประสบความสำเร็จและหนึ่งในอุตสาหกรรมการประกอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในคาริเบียน

เซนต์คิตส์จะขึ้นอยู่กับการท่องเที่ยวขับเศรษฐกิจของประเทศ ท่องเที่ยวไปยังเกาะได้รับการขยายตั้งแต่ 1978 ในปี 2552 มีผู้มา 587,479 เพื่อเปรียบเทียบกับ 379,473 ในปี 2007 เซนต์คิตส์ เจริญเติบโตนี้แสดงถึงการเพิ่มขึ้นราว 40% ในระยะเวลา 2 ปี เป็นการท่องเที่ยวเติบโตความต้องการเพิ่มคุณสมบัติหยุดในร่วม

ไปขยายการท่องเที่ยว ประเทศโฮสต์ของปีเซนต์คิตส์เพลงเทศกาล

เซนต์คิตส์&เนวิสยังได้ฝึกฝนต่างประเทศลงทุนโดยตรงจากสัญชาติของพวกเขาลงทุนโปรแกรม ระบุไว้ในพระราชบัญญัติสัญชาติของ 1984 ผู้สนใจสามารถได้รับสัญชาติถ้าพวกเขาผ่านการตรวจสอบเบื้องหลังของรัฐบาล และทำให้การลงทุนในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้รับอนุมัติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เซนต์คิตส์และเนวิสเป็นคู่เกาะสหพันธ์ซึ่งมีเศรษฐกิจที่เป็นลักษณะของเด่น การท่องเที่ยว การเกษตร และอุตสาหกรรม การผลิตแสง น้ำตาลเป็นส่งออกหลักจากอังกฤษ แต่ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น ราคาตลาดโลกต่ำ และความพยายามของรัฐบาลที่จะลดการพึ่งพามันได้นำไปสู่การเติบโตของภาคการเกษตร ใน ปี 2005รัฐบาลตัดสินใจปิดบริษัทน้ำตาลของรัฐซึ่งมีประสบการณ์การสูญเสียและเป็นผู้สนับสนุนที่สำคัญเพื่อการขาดดุลการคลัง

อดีตสวนตาลยังครองภูมิทัศน์เซนต์คิตส์ , อย่างไรก็ตามหลายสาขามีการเผาอ้อยเพื่อให้ห้องพักสำหรับการพัฒนาที่ดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านเหนือของเกาะในตำบลของเขตเซนต์จอห์นกาปิสแตร์ และไครสต์เชิร์ช . การเกษตร , การท่องเที่ยว , การผลิตที่มุ่งเน้นการส่งออกและภาคการธนาคารในต่างประเทศมีการพัฒนาและนำเอาบทบาทขนาดใหญ่ในระบบเศรษฐกิจของประเทศ การเติบโตของภาคการท่องเที่ยวได้กลายเป็นรายได้แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศหลักของเซนต์คิตส์และเนวิส .ประเทศที่มีการพัฒนาอุตสาหกรรมประกอบเครื่องแต่งกายที่ประสบความสำเร็จและหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ประกอบในแคริบเบียน .

เซนต์คิตส์จะขึ้นอยู่กับการท่องเที่ยวทำให้เศรษฐกิจของ การท่องเที่ยวเกาะมีการขยายตัวตั้งแต่ปี 1978 ในปี 2009 มี 587479 ขาเข้าประเทศเซนต์คิตส์ 379473 เมื่อเทียบกับปี 2550การเติบโตเพิ่มขึ้นถึงเพียงภายใต้ 40 % ในช่วงระยะเวลาสองปี ในขณะที่การท่องเที่ยวเติบโตความต้องการสำหรับคุณสมบัติวันหยุดพักผ่อนเพิ่มขึ้นควบคู่

ในหวังของการขยายการท่องเที่ยว ประเทศเจ้าภาพปีเทศกาลดนตรีเซนต์คิตส์และเนวิสเซนต์คิตส์&

ยังได้รับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศจากการเป็นสมาชิก โดยการลงทุนที่ระบุไว้ในโปรแกรมของการกระทำของ 1984บุคคลที่สนใจสามารถได้รับสัญชาติถ้าพวกเขาผ่านการตรวจสอบพื้นหลังของรัฐบาล และทำให้การลงทุนในการรับพัฒนาอสังหาริมทรัพย์