credit standards (ii) credit term (

credit standards (ii) credit term (iii) collection period/policy.
The implication of the above policy are many, for instance, it will result to less bad debt
losses and cost of credit administration. But such a firm adopting the policy may not be able
to expend sales. That is, the profit sacrificed on lost sales may be more than the cost saved by
the firm on the contrary, if credit standards are loose, the firm may have large sales volume.
But the firm will have to carry large receivables (debtors). The cost of administering credit
and bad debts losses will also increase, thus, the choice of optimum credit standards involves
a trade-off between incremental return and incremental cost.Weston and Brigham (1986),
they enumerated the different types of cost associated with credit sales. Such as: (i) cost of
capital tied up in receivables (debtors), (ii) bad debts, (iii) higher investigation, (iv) collection
cost.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มาตรฐาน (ii) เครดิตระยะ (iii) คอลเลกชันรอบระยะเวลา/นโยบายเครดิตความหมายของนโยบายข้างต้นเป็นจำนวนมาก เช่น มันจะส่งผลให้หนี้เสียน้อยลงขาดทุนและต้นทุนของการบริหารเครดิต แต่บริษัทใช้นโยบายอาจไม่สามารถการใช้จ่ายการขาย นั่นคือ กำไรจากการขายสูญหายการเสียสละอาจมากกว่าต้นทุนที่บันทึกโดยบริษัทตรงกันข้าม ถ้ามาตรฐานเครดิตหลวม บริษัทได้ขายจำนวนมากแต่บริษัทจะต้องมีขนาดใหญ่ลูกหนี้ (ลูกหนี้) ต้นทุนการบริหารเครดิตและขาดทุนจากหนี้สูญจะเพิ่มขึ้น ดังนั้น ที่เกี่ยวข้องกับตัวเลือกมาตรฐานสินเชื่อที่เหมาะสมปิดระหว่างคืน และเพิ่มค่าใช้จ่าย Weston และบริกแฮมยัง (1986),จะระบุชนิดของต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับขายเครดิต เช่น: (i) ค่าใช้จ่ายของทุนผูกขึ้นในลูกหนี้ (ลูกหนี้), (iii) สูงสอบสวน หนี้สูญ (ii) เก็บ (iv)ต้นทุนนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มาตรฐานการให้สินเชื่อ (ii) เครดิตเทอม (iii) ระยะเวลาเก็บหนี้ / นโยบาย.
ความหมายของนโยบายดังกล่าวข้างต้นเป็นจำนวนมากเช่นนั้นจะส่งผลให้หนี้เสียน้อยกว่า
การสูญเสียและค่าใช้จ่ายในการบริหารเครดิต แต่เช่น บริษัท การนำนโยบายอาจจะไม่สามารถ
ที่จะใช้จ่ายการขาย นั่นคือกำไรเสียสละในการขายที่หายไปอาจจะมากกว่าค่าใช้จ่ายที่บันทึกไว้โดย
บริษัท ในทางตรงกันข้ามถ้ามาตรฐานการให้สินเชื่อจะหลวม บริษัท อาจจะมีปริมาณการขายที่มีขนาดใหญ่.
แต่ บริษัท จะต้องดำเนินการลูกหนี้ขนาดใหญ่ (ลูกหนี้) ค่าใช้จ่ายในการบริหารเครดิตที่
สูญเสียและหนี้สูญจะเพิ่มขึ้นดังนั้นทางเลือกของมาตรฐานการให้สินเชื่อที่เหมาะสมที่เกี่ยวข้องกับ
การค้าระหว่างผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นและ cost.Weston ที่เพิ่มขึ้นและบริกแฮม (1986)
พวกเขาแจกแจงชนิดที่แตกต่างของค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับบัตรเครดิต ขาย เช่น: (i) ค่าใช้จ่ายของ
เงินทุนที่ผูกขึ้นในลูกหนี้ (ลูกหนี้), (ii) หนี้สูญ (iii) การตรวจสอบที่สูงขึ้น (iv) การเก็บ
ค่าใช้จ่าย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มาตรฐานสินเชื่อ ( 2 ) สินเชื่อระยะยาว ( 3 ) ระยะเวลา / นโยบาย คอลเลกชันความหมายของนโยบายข้างต้นเป็นจํานวนมาก เช่น จะส่งผลให้หนี้ที่เลวน้อยกว่าความสูญเสียและต้นทุนของสินเชื่อ การบริหาร แต่บริษัทดังกล่าวใช้นโยบายที่อาจจะไม่สามารถที่จะใช้จ่ายการขาย นั่นคือ กำไรต้องขายเสียอาจจะมากกว่าต้นทุนที่บันทึกไว้โดยบริษัท ในทางตรงกันข้าม ถ้ามาตรฐานสินเชื่อจะหลวม บริษัทมีปริมาณการขายขนาดใหญ่แต่ บริษัท จะต้องแบกหนี้ขนาดใหญ่ ( ลูกหนี้ ) ต้นทุนของการบริหารสินเชื่อและขาดทุน bad หนี้สินจะเพิ่มขึ้น ดังนั้น การเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมกับมาตรฐานTrade-off ระหว่างผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เวสตัน และ Brigham ( 1986 )พวกเขา ระบุประเภทของค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการขายเครดิต เช่น : ( ฉัน ) ต้นทุนทุนผูกขึ้นในลูกหนี้ ( ลูกหนี้ ) , ( ii ) หนี้สูญ ( III ) สูงกว่าการสอบสวน ( IV ) คอลเลกชันต้นทุน