การกลั่นน้ำมันดิบ เป็นวิธีการกลั่นล

การกลั่นน้ำมันดิบ เป็นวิธีการกลั่นลำดับส่วนที่อาศัยหลักการว่า สารประกอบไฮโดรคาร์บอนชนิดต่าง ๆ ที่ผสมปนอยู่ในน้ำมันดิบ จะมีจุดเดือดที่แตกต่างกันไปตามจำนวนคาร์บอนภายในโมเลกุล (สารที่มีจำนวนคาร์บอนมากจะยิ่งมีจุดเดือดสูง) ดังนั้นเมื่อส่งน้ำมันดิบเข้าไปสู่หอกลั่นที่มีอุณหภูมิสูง 400 องศาเซลเซียส น้ำมันดิบจะเดือดแล้วระเหยกลายเป็นไอลอยขึ้นไปส่วนบนของหอกลั่นซึ่งมีอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเดือดของสาร สารนั้นก็จะควบแน่นกลับมาเป็นของเหลวเหมือนเดิมได้ ด้วยเหตุนี้จึงสามารถแยกสารต่าง ๆ ที่ผสมกันอยู่ในน้ำมันดิบออกจากกันได้ โดยสารที่มีจุดเดือดสูง (จำนวนคาร์บอนมาก) จะมีการควบแน่นออกมาก่อน ส่วนสารที่มีจุดเดือดต่ำ (จำนวนคาร์บอนน้อย) จะมีการควบแน่นออกมาทีหลังตามลำดับ

Refining crude oil Is a distillation of that principle. the sequence is that the various types of mixed hydrocarbon compounds in the crude oil will have a boiling point varies according to the number of internal carbon molecules (substances that contain a number of carbon will have a high boiling point), when crude oil into the tray at a temperature of 400 ° C oil to boil and evaporate rise to the top of the tower, and then float to the terrain on the upper part of the Javelin release to which temperature is lower than the boiling point of a substance. It will eventually condense into the liquid. For this reason, it can be a combination of the various substances present in crude oil. Passengers have high boiling point (carbon) will have condensation. The section is of low boiling points (the amount of carbon, at least) will have condensation coming out later, respectively.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การกลั่นน้ำมันดิบเป็นวิธีการกลั่นลำดับส่วนที่อาศัยหลักการว่าสารประกอบไฮโดรคาร์บอนชนิดต่างๆ ที่ผสมปนอยู่ในน้ำมันดิบจะมีจุดเดือดที่แตกต่างกันไปตามจำนวนคาร์บอนภายในโมเลกุล (สารที่มีจำนวนคาร์บอนมากจะยิ่งมีจุดเดือดสูง) ดังนั้นเมื่อส่งน้ำมันดิบเข้าไปสู่หอกลั่นที่มีอุณหภูมิสูง 400 องศาเซลเซียสน้ำมันดิบจะเดือดแล้วระเหยกลายเป็นไอลอยขึ้นไปส่วนบนของหอกลั่นซึ่งมีอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเดือดของสารสารนั้นก็จะควบแน่นกลับมาเป็นของเหลวเหมือนเดิมได้ด้วยเหตุนี้จึงสามารถแยกสารต่างๆ ที่ผสมกันอยู่ในน้ำมันดิบออกจากกันได้โดยสารที่มีจุดเดือดสูง (จำนวนคาร์บอนมาก) จะมีการควบแน่นออกมาก่อนส่วนสารที่มีจุดเดือดต่ำ (จำนวนคาร์บอนน้อย) จะมีการควบแน่นออกมาทีหลังตามลำดับการกลั่นน้ำมันดิบกลั่นของหลักการที่ เป็นลำดับว่า ประเภทต่าง ๆ ของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่ผสมในน้ำมันดิบจะมีจุดเดือดแตกต่างกันตามจำนวนของคาร์บอนภายในโมเลกุล (สารที่ประกอบด้วยจำนวนคาร์บอนจะมีจุดเดือดสูง), เมื่อน้ำมันดิบลงในถาดที่อุณหภูมิ 400 ° C น้ำมันเดือด และระเหยขึ้นไปด้านบนของหอ แล้ว ลอยในพื้นที่ส่วนบนออกหอกที่อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเดือดของสาร นอกจากนี้มันก็จะควบแน่นเป็นของเหลว ด้วยเหตุนี้ มันอาจเป็นการรวมกันของสารต่าง ๆ ที่อยู่ในน้ำมันดิบ ผู้โดยสารมีสูงจุดเดือด (คาร์บอน) จะมีการควบแน่น ส่วนมีจุดเดือดต่ำ (จำนวนคาร์บอน น้อย) จะมีการควบแน่นออกมาในภายหลัง ตามลำดับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การกลั่นน้ำมันดิบเป็นวิธีการกลั่นลำดับ ส่วนที่อาศัยหลักการว่าสารประกอบไฮโดรคาร์บอนชนิดต่าง ๆ ที่ผสมปนอยู่ในน้ำมันดิบจะมีจุดเดือดที่แตกต่างกันไปตามจำนวนคาร์บอนภายในโมเลกุล (สารที่มีจำนวนคาร์บอนมากจะยิ่ง มีจุดเดือดสูง ) ดังนั้นเมื่อส่งน้ำมันดิบเข้าไปสู่หอกลั่น ที่มีอุณหภูมิสูง 400 องศาเซลเซียสน้ำมันดิบจะเดือดแล้วระเหยกลาย เป็นไอลอยขึ้นไปส่วนบนของหอกลั่นซึ่งมีอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเดือดของสารสารนั้นก็จะควบแน่นกลับมาเป็นของเหลวเหมือน เดิมได้ด้วยเหตุนี้จึงสามารถแยก สารต่าง ๆ ที่ผสมกันอยู่ในน้ำมันดิบออกจากกันได้โดยสารที่มีจุดเดือดสูง (จำนวนคาร์บอนมาก) จะมีการควบแน่นออกมาก่อนส่วน สารที่มีจุดเดือดต่ำ (จำนวนคาร์บอนน้อย) จะ มีการควบแน่นออกมาทีหลังตามลำดับ

การกลั่นน้ำมันดิบคือการกลั่นของหลักการที่ว่า ลำดับที่ประเภทต่างๆของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนผสมในน้ำมันดิบจะมีจุดเดือดแตกต่างกันไปตามจำนวนของโมเลกุลคาร์บอนภายใน (สารที่มีจำนวนคาร์บอนจะมีจุดเดือดสูง) เมื่อน้ำมันดิบลงใน ถาดที่อุณหภูมิ 400 ° C ถึงน้ำมันเดือดและระเหยขึ้นไปด้านบนของหอแล้วลอยไปภูมิประเทศที่ส่วนบนของรุ่นโตมรที่อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเดือดของสาร ในที่สุดมันก็จะบีบลงในของเหลว ด้วยเหตุนี้มันจะเป็นการรวมกันของสารต่าง ๆ ที่มีอยู่ในน้ำมันดิบ ผู้โดยสารที่มีจุดเดือดสูง (คาร์บอน) จะมีการควบแน่น ส่วนที่เป็นของจุดเดือดต่ำ (จำนวนคาร์บอนอย่างน้อย) จะมีการควบแน่นออกมาต่อมาตามลำดับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การกลั่นน้ำมันดิบเป็นวิธีการกลั่นลำดับส่วนที่อาศัยหลักการว่าสารประกอบไฮโดรคาร์บอนชนิดต่างจะที่ผสมปนอยู่ในน้ำมันดิบจะมีจุดเดือดที่แตกต่างกันไปตามจำนวนคาร์บอนภายในโมเลกุล ( สารที่มีจำนวนคาร์บอนมากจะยิ่งมีจุดเดือดสูง ) ดังนั้นเมื่อส่งน้ำมันดิบเข้าไปสู่หอกล ั่นที่มีอุณหภูมิสูง 400 องศาเซลเซียสน้ำมันดิบจะเดือดแล้วระเหยกลายเป็นไอลอยขึ้นไปส่วนบนของหอกลั่นซึ่งมีอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเดือดของสารสารนั้นก็จะควบแน่นกลับมาเป็นของเหลวเหมือนเดิมได้ด้วยเหตุนี้จึงสามารถแยกสารต่างจะที่ผสมกันอยู่ในน้ำมันดิบออกจากกันได้โดยสา รที่มีจุดเดือดสูง ( จำนวนคาร์บอนมาก ) จะมีการควบแน่นออกมาก่อนส่วนสารที่มีจุดเดือดต่ำ ( จำนวนคาร์บอนน้อย ) จะมีการควบแน่นออกมาทีหลังตามลำดับน้ำมันกลั่นดิบคือการกลั่นของหลักการที่ว่า ลําดับที่ผสมสารประกอบไฮโดรคาร์บอนชนิดต่าง ๆในน้ำมันดิบจะมีจุดเดือดแตกต่างกันไปตามจำนวนของโมเลกุลคาร์บอนภายใน ( สารที่ประกอบด้วยตัวเลขของคาร์บอน จะมีสูง จุดเดือด เมื่อน้ำมันลงในถาดที่อุณหภูมิ 400 องศา C น้ำมันเดือดและระเหยขึ้น ไปด้านบนของหอ แล้วลอยไปภูมิประเทศบนส่วนบนของอาวุธปล่อยที่อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเดือดของสสาร ในที่สุดมันก็จะควบแน่นกลายเป็นของเหลว ด้วยเหตุผลนี้ มันสามารถรวมกันของสารต่างๆที่มีอยู่ในน้ำมันดิบ ผู้โดยสารมีจุดเดือดสูง ( คาร์บอน ) จะควบแน่น ส่วนมีจุดเดือดต่ำ ( มีปริมาณน้อย ) จะควบแน่นออกมาทีหลัง )