Figure 2. Density of CO2 (in g/cm3)

Figure 2. Density of CO2 (in g/cm3) as a function of pressure and temperature, shown in pressure−temperature space (A) and in depth-fraction of lithostatic pressure space (B). Hydrostatic and lithostatic pressure gradients shown in (A) assume a geothermal gradient of 25 °C/km. The shaded area represents the PT conditions technologically and economically accessible for CO2 storage in saline formations. Notice that A and B contain the same data presented on different axes.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รูปที่ 2 ความหนาแน่นของ CO2 (เป็น g/cm3) เป็นฟังก์ชันของความดันและอุณหภูมิ แสดงใน pressure−temperature พื้นที่ (A) และในส่วนลึกของความดัน lithostatic พื้นที่ (B) ไล่ระดับสีความดันหยุดนิ่งและ lithostatic ที่แสดงใน (A) ถือว่าไล่ความร้อนใต้พิภพ 25 ° C/กม. บริเวณที่แรเงาแสดงถึง PT เงื่อนไขสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี และประสิทธิภาพสำหรับเก็บ CO2 ใน saline ก่อตัว สังเกตว่า A และ B ประกอบด้วยข้อมูลเดียวกันบนแกนต่าง ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความหนาแน่นของรูปที่ 2. ของ CO2 (ใน g/cm3) เป็นหน้าที่ของความดันและอุณหภูมิที่แสดงในพื้นที่ความดันอุณหภูมิ (A) และในเชิงลึกในส่วนของพื้นที่ความดัน lithostatic (B) หยุดนิ่งและความดัน lithostatic การไล่ระดับสีที่แสดงใน (A) ถือว่าการไล่ระดับความร้อนใต้พิภพของ 25 ° C / กิโลเมตร ส่วนที่แรเงาแสดงให้เห็นถึงสภาพ PT เทคโนโลยีและเศรษฐกิจสามารถเข้าถึงได้สำหรับการจัดเก็บ CO2 ในการก่อน้ำเกลือ ขอให้สังเกตว่า A และ B มีข้อมูลเดียวกันที่นำเสนอบนแกนที่แตกต่างกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รูปที่ 2 ความหนาแน่นของคาร์บอนไดออกไซด์ ( กรัมต่อลิตร ) เป็นฟังก์ชันของความดันและอุณหภูมิที่แสดงในพื้นที่ความดันอุณหภูมิ− ( ) และในส่วนของพื้นที่ความลึก lithostatic ความดัน ( B ) และความดันไฮโดรสแตติก lithostatic ไล่ระดับสีที่แสดงใน ( ) สันนิษฐานว่า การไล่ระดับความร้อนใต้พิภพ 25 ° C / kmพื้นที่สีเทาแสดงถึงเงื่อนไขและสามารถเข้าถึงได้ใน PT มี CO2 ในการเก็บเกลือ สังเกตได้ว่า A และ B มีข้อมูลที่นำเสนอบนแกนเดียวกันแตกต่างกัน