Indonesia is currently ranked sixth

Indonesia is currently ranked sixth as a global trade partner with Thailand. In 2011, the trade value between Thailand and Indonesia was approximately 17 billion US dollars.[9] Indonesia is Thailand's third-largest trading partner in ASEAN, after Malaysia and Singapore,[2] and the trade volume between Thailand and Indonesia has grown over the years. Indonesia, with its large population, is a huge market for Thailand's agricultural products. Traditionally, Thailand is viewed as the supplier of food for Indonesia; for quite some times Indonesia have imported rice and fruits, especially durian, tamarind, custard apple, guava, pomelo, mango and longan.[2] On the other hand, Thailand's imports from Indonesia are dominated by energy commodities, such as coal, oil, and gas. However, the trade was unbalanced; Indonesia still recorded quite large[clarification needed] trade deficit over the years.[10] For most of the time, Thailand has enjoyed trade surpluses of US$1.2 billion in 2005, US$281 million in 2006 and US$1.2 billion in 2007. However, n September 2009, Indonesia had a trade surplus around US$62.7 million.[11]

Although both nations vow to increase trade volumes and open more trade opportunities between ASEAN members through ASEAN Free Trade Area, nevertheless each countries often applied trade regulations to protect each economic interest. For example Indonesian glass products in the form of glass blocks exported to Thailand are subjected to 30% trading protection duty for three years starting in 2011, in order to protect similar glass product of Thailand.[10][12]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อินโดนีเซียเป็นอันดับที่หกในฐานะหุ้นส่วนการค้าโลกกับประเทศไทย ในปี 2011 มูลค่าการค้าระหว่างไทยและอินโดนีเซียอยู่ที่ประมาณ 17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ. [9] อินโดนีเซียซื้อขายของไทยใหญ่เป็นอันดับสามพันธมิตรในอาเซียนหลังจากที่มาเลเซียและสิงคโปร์ [2] และปริมาณการค้าระหว่างไทยและอินโดนีเซียมีการเติบโตมากกว่า ปีที่ผ่านมา อินโดนีเซียมีประชากรขนาดใหญ่เป็นตลาดใหญ่สำหรับสินค้าเกษตรของไทย ประเพณีไทยถูกมองว่าเป็นผู้จัดจำหน่ายของอาหารสำหรับอินโดนีเซียนั้น สำหรับเวลาค่อนข้างบางอินโดนีเซียได้นำเข้าข้าวและผลไม้โดยเฉพาะทุเรียนมะขามน้อยหน่าฝรั่งส้มโอมะม่วงและลำไย. [2] ในทางตรงกันข้ามการนำเข้าของไทยจากประเทศอินโดนีเซียมีความโดดเด่นจากสินค้าโภคภัณฑ์พลังงานเช่นถ่านหินน้ำมัน และก๊าซ อย่างไรก็ตามการค้าก็ไม่สมดุล; อินโดนีเซียยังคงบันทึกขนาดใหญ่มาก [ชี้แจงจำเป็น] ขาดดุลการค้าในช่วงหลายปี. [10] สำหรับส่วนมากของเวลาที่ประเทศไทยมีความสุขเกินดุลการค้าของสหรัฐ 1200000000 $ ในปี 2005, US $ 281,000,000 ในปี 2006 และสหรัฐ 1200000000 $ ในปี 2007 อย่างไรก็ตาม n เดือนกันยายน 2009 อินโดนีเซียมียอดเกินดุลการค้าประมาณ US $ 62,700,000. [11] แม้ว่าทั้งสองประเทศให้คำมั่นว่าจะเพิ่มปริมาณการค้าและเปิดโอกาสทางการค้ามากขึ้นระหว่างสมาชิกอาเซียนอาเซียนเขตการค้าเสรี แต่แต่ละประเทศมักจะใช้กฎระเบียบทางการค้าเพื่อปกป้องเศรษฐกิจในแต่ละ ความสนใจ ตัวอย่างเช่นอินโดนีเซียผลิตภัณฑ์แก้วในรูปแบบของบล็อกแก้วส่งออกไปยังประเทศไทยที่อาจจะ 30% การปฏิบัติหน้าที่ป้องกันการซื้อขายเป็นเวลาสามปีที่เริ่มต้นในปี 2011 เพื่อที่จะปกป้องผลิตภัณฑ์แก้วที่คล้ายกันของประเทศไทย. [10] [12]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อินโดนีเซีย อยู่อันดับ 6 เป็นพันธมิตรด้านการค้ากับไทย ในปี 2554 มูลค่าการค้าระหว่างไทยและอินโดนีเซียอยู่ที่ประมาณ 17 พันล้านดอลลาร์ สรอ. . [ 9 ] อินโดนีเซียเป็นประเทศใหญ่เป็นอันดับสามของคู่ค้าในอาเซียน หลังจากมาเลเซียและสิงคโปร์ [ 2 ] และปริมาณการค้าระหว่างไทยและอินโดนีเซียมีการเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมา อินโดนีเซียที่มีประชากรขนาดใหญ่ของเป็นตลาดขนาดใหญ่สำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของประเทศไทย แต่เดิมประเทศไทยถูกมองว่าเป็นผู้ผลิตอาหารของอินโดนีเซีย สำหรับค่อนข้างบางเวลา อินโดนีเซียนำเข้าข้าว และผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียน น้อยหน่า ฝรั่ง มะขาม ส้มโอ มะม่วง และลำไย [ 2 ] ในมืออื่น ๆที่ไทยนำเข้าจากอินโดนีเซียเป็น dominated โดยสินค้าด้านพลังงาน เช่น ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ อย่างไรก็ตามการค้าคือสมดุล ; อินโดนีเซียยังคงบันทึกชี้แจงค่อนข้างใหญ่ [ จำเป็น ] ขาดดุลการค้าปี [ 10 ] สำหรับส่วนใหญ่ของเวลา , ไทยได้เพลิดเพลินกับการค้าเกินดุล US $ 1.2 พันล้านในปี 2005 US $ 281 ล้านบาทในปี 2549 และ US $ 1.2 ล้านใน 2007 อย่างไรก็ตาม ในเดือนกันยายน 2009 , อินโดนีเซียมีการเกินดุลการค้าประมาณสหรัฐอเมริกา $ 62.7 ล้าน [ 11 ]

แม้ว่าทั้งสองประเทศปฏิญาณเพื่อเพิ่มปริมาณการค้าและเปิดโอกาสทางการค้าระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนผ่านเขตการค้าเสรีอาเซียน อย่างไรก็ตามในแต่ละประเทศมักจะใช้กฎระเบียบทางการค้าเพื่อปกป้องแต่ละเศรษฐกิจดอกเบี้ย ตัวอย่างเช่นผลิตภัณฑ์แก้วอินโดนีเซียในรูปแบบของบล็อกแก้วส่งออกไทยภายใต้ 30% ป้องกันการซื้อขายหน้าที่ 3 ปีเริ่มต้นใน 2011เพื่อที่จะปกป้องกระจกผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกันแห่งประเทศไทย [ 10 ] [ 12 ]