The Price Level. Neither the demand

The Price Level.
Neither the demand for money, the supply of money, nor the two together completely
explain the price level. If the nominal quantity of money supplied equals the quantity demanded, equation (1)
summarizes the relationship among several variables. Those variables are the nominal quantity of money, the
price level, and real income as well as all of the other factors that affect the demand for money and are reflected
in the factor of proportionality, k.

If real income, y, were constant and factors reflected in k other than real income also were constant, equation
(1) would provide a direct relationship between the nominal quantity of money and the price level. An informative
way of rewriting equation (1) is

P = k–1(M/y). (2)

This equation highlights the relationship between the price level and factors that determine it.7 It also makes
clear that the nominal quantity of money is not the only factor affecting the price level.

If real income were constant and other factors did not affect the demand for money or were constant, then
there would be a proportional relationship between the price level and the nominal quantity of money relative
to real income. If the nominal quantity of money M changed, then P would change by the same proportion
because k and y were constant.

While patently unrealistic, this supposition is a useful starting point for thinking about what has to be true
for the nominal quantity of money and the price level to be proportionally related. Further analysis and assumptions
about what is more or less important create a proportional connection between the nominal quantity of
money and the price level.


First, consider real income. Real income changes over time and affects the demand for money. The factors
that determine real income, though, are largely if not entirely unrelated to the demand for money and the supply
of money, especially over longer periods.8 The major factors affecting the growth of real income over time are
growth of resources available to produce goods and services and technological change. Printing money does not
create more labor or real capital to produce goods and services or affect technological change. Hence, at least over
longer periods, real income is independent of the nominal quantity of money and the price level. As a result, changes
in real income do affect the price level, but there is a proportional relationship between the price level and the
nominal quantity of money relative to real income.

If variation in the demand for money for reasons other than real income, indicated by the k in equations
(1) and (2), is relatively unimportant, then equation (2) indicates that the price level and money relative to real
income are proportionally related. There need not be such a close relationship between the price level and the
nominal quantity of money relative to income. If variation in the demand for money for reasons other than real
income is substantially more important than variation in the money supply relative to real income, this variation in
the demand for money can result in no observable relationship between the price level and money relative to
real income.9 Changes in the price level will be associated with changes in the demand for money, k in equations
(1) and (2), and not money relative to real income. The relative importance of variation in the supply of money
and the demand for money for explaining the price level is therefore an empirical issue.

Money and Prices in the United States since 1953. Chart 1 shows the relationship between the price level
and money relative to real income for the United States from the first quarter of 1953 through the end of 1997.10
The vertical axis uses a proportional scale for the values of money relative to real income and the price level.
With a proportional scale, the proportional and percentage changes in the price level and in money relative to
income are represented by the slopes of the respective lines. The inflation rate is represented by the slope of
the line for the price level. The growth rate of money relative to real income is represented by the slope of the
line for money relative to real income.

The average values of the price level and of money relative to income are set to 100 in Chart 1. As a result, the
graph shows the percentage deviations of the price level from its average and the percentage deviations of money
relative to real income from its average. Nothing in the construction of the graph forces any coincidence of the
lines. A strictly proportional relationship would be indicated by the coincidence of the two lines. A positive but
less than perfectly proportional relationship is indicated by the two lines’ general agreement in terms of direction
and rate of change.11

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระดับราคา
ไม่ต้องการเงินอุปทานของเงินหรือทั้งสองร่วมกันอย่างสมบูรณ์
อธิบายระดับราคา ถ้าปริมาณเล็กน้อยของเงินให้เท่ากับปริมาณที่ต้องการสมการ (1)
สรุปความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรหลาย ตัวแปรเหล่านั้นมีปริมาณเล็กน้อยของเงิน
ระดับราคาและรายได้ที่แท้จริงเช่นเดียวกับปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้เงินและจะสะท้อนให้เห็น
ในปัจจัยของสัดส่วน, k.

ถ้ารายได้จริง, y เป็นค่าคงที่และปัจจัยที่สะท้อนให้เห็นใน k อื่นนอกเหนือจากรายได้ที่แท้จริงยังมี คงสม
(1) จะให้ความสัมพันธ์โดยตรงระหว่างปริมาณเล็กน้อยของเงินและระดับราคา ข้อมูล
วิธีการเขียนสมการ (1) เป็น

p = k-1 (m / y) (2)

สมการนี​​้ไฮไลท์ความสัมพันธ์ระหว่างระดับราคาและปัจจัยที่เป็นตัวกำหนด it.7 ก็ยังทำให้
ชัดเจนว่าปริมาณเล็กน้อยของเงินไม่ได้เป็นปัจจัยเดียวที่มีผลกระทบต่อระดับราคา.

ถ้ารายได้ที่แท้จริงได้อย่างต่อเนื่องและ ปัจจัยอื่น ๆ ที่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้เงินหรือได้คงที่แล้ว
จะมีสัดส่วนความสัมพันธ์ระหว่างระดับราคาและปริมาณที่ระบุของเงินญาติ
รายได้จริง ถ้าปริมาณเล็กน้อยของเงินเมตรเปลี่ยนแปลงแล้วพีจะเปลี่ยนตามสัดส่วนเดียวกัน
เพราะ k และ y เป็นค่าคงที่.

ในขณะที่ไม่สมจริงชัด, การคาดคะเนนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่มีประโยชน์สำหรับการคิดเกี่ยวกับสิ่งที่จะเป็นจริงมี
สำหรับปริมาณเล็กน้อยของเงินและระดับราคาจะเป็นสัดส่วนที่เกี่ยวข้อง วิเคราะห์ต่อไปและการตั้งสมมติฐาน
เกี่ยวกับสิ่งที่จะมากหรือน้อยที่สำคัญสร้างการเชื่อมต่อระหว่างสัดส่วนปริมาณน้อย
เงินและระดับราคา.


ครั้งแรกที่พิจารณารายได้ที่แท้จริง การเปลี่ยนแปลงของรายได้ที่แท้จริงในช่วงเวลาและส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้เงิน ปัจจัย
ที่กำหนดรายได้จริงแม้ว่าส่วนใหญ่ถ้าไม่ได้ทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับความต้องการใช้เงินและอุปทานของเงิน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงอีกต่อไป periods.8 ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของรายได้ที่แท้จริงในช่วงเวลาที่มีการเจริญเติบโตของ
ทรัพยากรที่มีอยู่ในการผลิตสินค้าและบริการและการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี การพิมพ์เงินไม่ได้
สร้างแรงงานมากหรือเงินทุนที่แท้จริงในการผลิตสินค้าและบริการหรือส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีส่วนใหญ่ถ้าไม่ได้ทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับความต้องการใช้เงินและอุปทานของเงิน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงอีกต่อไป periods.8 ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของรายได้ที่แท้จริงในช่วงเวลาที่มีการเจริญเติบโตของ
ทรัพยากรที่มีอยู่ในการผลิตสินค้าและบริการและการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี การพิมพ์เงินไม่ได้
สร้างแรงงานมากหรือเงินทุนที่แท้จริงในการผลิตสินค้าและบริการหรือส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีระบุโดย k ในสม
(1) และ (2) มีความสำคัญแล้วสมการ (2) แสดงให้เห็นว่าระดับราคาและค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับรายได้ที่แท้จริง
มีความสัมพันธ์สัดส่วน มีไม่จำเป็นต้องเป็นความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างระดับราคาและปริมาณ
เล็กน้อยของเงินเมื่อเทียบกับรายได้ ถ้าการเปลี่ยนแปลงในความต้องการเงินสำหรับเหตุผลอื่นนอกเหนือจากจริง
ดังนั้นอย่างน้อยในช่วงระยะเวลานาน
, รายได้ที่แท้จริงเป็นอิสระจากปริมาณเล็กน้อยของเงินและระดับราคา เป็นผลให้การเปลี่ยนแปลงใน
รายได้จริงทำส่งผลกระทบต่อระดับราคา แต่มีสัดส่วนความสัมพันธ์ระหว่างระดับราคาและปริมาณ
เล็กน้อยของเงินเมื่อเทียบกับรายได้ที่แท้จริง.

ถ้าการเปลี่ยนแปลงในความต้องการเงินสำหรับเหตุผลอื่นนอกเหนือจาก รายได้จริงรายได้เป็นอย่างมากมีความสำคัญมากกว่าการเปลี่ยนแปลงในปริมาณเงินเมื่อเทียบกับรายได้ที่แท้จริงการเปลี่ยนแปลงในความต้องการ
สำหรับเงินที่จะส่งผลให้ไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างติดตามระดับราคาและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลง
income.9 จริงในระดับราคานี้จะเป็น เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงในความต้องการสำหรับเงิน k ในสม
(1) และ (2) และไม่ได้เงินเมื่อเทียบกับรายได้ที่แท้จริงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในการจัดหาเงิน
และความต้องการเงินสำหรับการอธิบายระดับราคาจึงเป็นปัญหาเชิงประจักษ์.

เงินและราคาในประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ 1953 แผนภูมิที่ 1 แสดงความสัมพันธ์ระหว่างระดับราคา
และเงินเมื่อเทียบกับรายได้ที่แท้จริงของประเทศสหรัฐอเมริกาจากไตรมาสแรกของปี 1953 ผ่านปลาย 1,997.10
แกนตั้งใช้ขนาดสัดส่วนสำหรับค่าเงินเมื่อเทียบกับรายได้ที่แท้จริงและระดับราคา.
กับขนาดสัดส่วนการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนและร้อยละในระดับราคาและเงินเมื่อเทียบกับรายได้
จะถูกแทนด้วยเนินเขา สายตามลำดับ อัตราเงินเฟ้อจะถูกแทนด้วยความชันของเส้น
สำหรับระดับราคาอัตราการเติบโตของเงินเมื่อเทียบกับรายได้ที่แท้จริงเป็นตัวแทนจากความลาดเอียงของ
บรรทัดสำหรับเงินเมื่อเทียบกับรายได้ที่แท้จริง.

ค่าเฉลี่ยของระดับราคาและเงินเมื่อเทียบกับรายได้ที่มีการกำหนดที่ 100 ในแผนภูมิที่ 1 เป็นผลให้
กราฟแสดงให้เห็นถึงการเบี่ยงเบนเปอร์เซ็นต์ของระดับราคาจากค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนอัตราร้อยละของเงิน
เทียบกับรายได้ที่แท้จริงจากค่าเฉลี่ยของไม่มีอะไรในการก่อสร้างของกราฟบังคับบังเอิญ
สายใด ๆ สัดส่วนความสัมพันธ์อย่างเคร่งครัดจะได้รับการชี้ให้เห็นโดยบังเอิญของทั้งสองสาย บวก แต่
น้อยกว่าสัดส่วนความสัมพันธ์ที่สมบูรณ์แบบจะแสดงเป็นข้อตกลงสองบรรทัด 'ทั่วไปในแง่ของทิศทาง
และอัตราการ change.11

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ระดับราคาของ
ทั้งอุปสงค์สำหรับเงิน จ่ายเงิน หรือทั้งสองรวมกันทั้งหมด
อธิบายระดับราคา ถ้าปริมาณเงินที่ตั้งไว้ให้เท่ากับ ปริมาณแค่ สมการ (1)
สรุปความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่าง ๆ ตัวแปรที่สามารถระบุจำนวนเงิน
ราคาระดับระดับราคาของ
ทั้งอุปสงค์สำหรับเงิน จ่ายเงิน หรือทั้งสองรวมกันทั้งหมด
อธิบายระดับราคา ถ้าปริมาณเงินที่ตั้งไว้ให้เท่ากับ ปริมาณแค่ สมการ (1)
สรุปความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่าง ๆ ตัวแปรที่สามารถระบุจำนวนเงิน
ราคาระดับ และรายได้ที่แท้จริงรวมทั้งปัจจัยที่มีผลต่อความต้องการใช้เงิน และจะส่งผล
ในตัวของสัดส่วน คุณ

ถ้ารายได้จริง y ไม่คง และปัจจัยใน k ไม่ใช่รายได้จริงยังไม่คง equation
(1) จะมีความสัมพันธ์โดยตรงระหว่างระดับราคาและปริมาณที่ตั้งไว้ของเงิน มีข้อมูล
วิธีเขียนสมการ (1) คือ

P = k–1(M/y) (2)

สมการนี้เน้นความสัมพันธ์ระหว่างระดับราคาและปัจจัยที่กำหนดเป็น it.7
ชัดเจนจำนวนเงินระบุว่าไม่ตัวเดียวที่มีผลต่อระดับราคา

ถ้ารายได้จริงได้คง และปัจจัยอื่น ๆ ได้ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้เงิน หรือไม่คง แล้ว
จะมีความสัมพันธ์เป็นสัดส่วนระหว่างระดับราคาและปริมาณที่ตั้งไว้ของเงินญาติ
ที่รายได้ที่แท้จริง การเปลี่ยนแปลงปริมาณเงิน M ที่ตั้งไว้ ถ้า P จะเปลี่ยนแปลงตามสัดส่วนเดียวกัน
เนื่องจาก k และ y มีค่าคง

ขณะเหตุไม่ หลักนี้เป็นจุดเริ่มต้นเป็นประโยชน์สำหรับการคิดเกี่ยวกับสิ่งที่มีจริง
สำหรับปริมาณเงินและระดับราคาเกี่ยวข้องตามสัดส่วนที่ตั้งไว้ เพิ่มเติมวิเคราะห์และสมมติฐาน
เกี่ยวกับอะไรสำคัญมากน้อยคือสร้างการเชื่อมต่อที่เป็นสัดส่วนระหว่างปริมาณที่ตั้งไว้ของ
เงินและระดับราคา


ก่อน พิจารณารายได้ที่แท้จริง รายได้จริงเปลี่ยนเวลา และส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้เงิน ปัจจัย
ที่กำหนดรายได้ที่แท้จริง แต่ เป็นส่วนใหญ่ถ้า ไม่ทั้งหมดเห็นความต้องการใช้เงินและการจัดหาวัสดุ
เงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่าน periods.8 อีก ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของรายได้แท้จริงเวลามี
เจริญเติบโตของทรัพยากรในการผลิตสินค้า และบริการ และการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีการ ไม่มีเงินพิมพ์
สร้างแรงงานหรือทุนจริงเพื่อผลิตสินค้าและบริการ หรือส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น น้อยกว่า
นาน รายได้จริงจะขึ้นอยู่กับปริมาณเงินและระดับราคาที่ตั้งไว้ เปลี่ยนแปลงเป็นผล
รายได้จริงส่งผลต่อระดับราคา แต่มีความสัมพันธ์เป็นสัดส่วนระหว่างระดับราคาและ
ระบุจำนวนเงินที่สัมพันธ์กับรายได้จริง

ถ้าความผันแปรในความต้องการใช้เงินสำหรับเหตุผลอื่นที่ไม่ใช่รายได้จริง ระบุ โดย k equations
(1) และ (2) มีความสำคัญค่อนข้าง จากสมการ (2) หมายถึงระดับราคาการเงินสัมพันธ์กับจริง
รายได้สัดส่วนเกี่ยวข้อง ต้องไม่มีสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างระดับราคาและ
ปริมาณเงินเมื่อเทียบกับรายได้ที่ตั้งไว้ ถ้าความผันแปรในความต้องการใช้เงินสำหรับเหตุผลอื่นที่ไม่ใช่จริง
รายได้เป็นสำคัญมากยิ่งกว่าการเปลี่ยนแปลงในอุปทานเงินสัมพันธ์กับรายได้จริง การเปลี่ยนแปลงใน
ความต้องการใช้เงินอาจทำให้ความสัมพันธ์ไม่ observable ระหว่างระดับราคาการเงินสัมพันธ์กับ
income.9 จริงการเปลี่ยนแปลงในระดับราคาจะเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงในความต้องการใช้เงิน k equations
(1) และ (2), และเงินไม่สัมพันธ์กับรายได้ที่แท้จริงได้ ความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงอุปทานของเงิน
และความต้องการสำหรับอธิบายระดับราคาได้ดังนั้นการประจักษ์ออก

เงินและราคาในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปีค.ศ. 1953 แผนภูมิที่ 1 แสดงความสัมพันธ์ระหว่างระดับราคา
เงินสัมพันธ์กับรายได้จริงสำหรับสหรัฐอเมริกาจากไตรมาสแรกของปีค.ศ. 1953 จนถึงสิ้น 1997.10
แกนตั้งใช้มาตราส่วนเป็นสัดส่วนสำหรับค่าเงินเมื่อเทียบกับรายได้จริงและระดับราคา
เป็นสัดส่วนขนาด สัดส่วน และเปอร์เซ็นต์แปลง ในระดับราคา และเงินกับ
รายได้จะแสดง โดยลาดของบรรทัดเกี่ยวข้อง อัตราเงินเฟ้อจะแสดงลาด
บรรทัดสำหรับระดับราคา ไม่มีอะไรในก่อสร้างกราฟบังคับใด ๆ เรื่องบังเอิญของการ
บรรทัด จะระบุความสัมพันธ์เป็นสัดส่วนอย่างเคร่งครัด โดยบังเอิญของบรรทัดสอง แต่บวก
ความสัมพันธ์น้อยกว่าสัดส่วนสมบูรณ์ตามข้อตกลงทั่วไปของบรรทัดสองในทิศทาง
และอัตราของ change.11
อัตราการเติบโตของเงินเมื่อเทียบกับรายได้ที่แท้จริงจะถูกแสดง ด้วยความชันของการ
บรรทัดคุ้มเมื่อเทียบกับรายได้จริง

100 ในแผนภูมิที่ 1 กำหนดค่าเฉลี่ย ของระดับราคา และ การเงินสัมพันธ์กับรายได้ ดังนั้น
กราฟแสดงความแตกต่างของเปอร์เซ็นต์ของระดับราคาจากค่าเฉลี่ยของความเบี่ยงเบนของเปอร์เซ็นต์ของเงิน
เมื่อเทียบกับรายได้เฉลี่ยแท้จริง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ราคาในระดับที่.
ไม่ใช่ความต้องการสำหรับเงินพาวเวอร์ซัพพลายของเงินหรือทั้งสองอย่างสมบรูณ์แบบด้วยกัน
ซึ่งจะช่วยอธิบายถึงระดับราคา. หากจำนวนไม่มากนักของเงินให้มาเท่ากับจำนวนที่ต้องการสมการ( 1 )
สรุปความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรหลายประการ ตัวแปรที่มีจำนวนไม่มากนักที่ออกโดยสถาบันการเงินระดับ
ราคาราคาในระดับที่.
ไม่ใช่ความต้องการสำหรับเงินพาวเวอร์ซัพพลายของเงินหรือทั้งสองอย่างสมบรูณ์แบบด้วยกัน
ซึ่งจะช่วยอธิบายถึงระดับราคา. หากจำนวนไม่มากนักของเงินให้มาเท่ากับจำนวนที่ต้องการสมการ( 1 )
สรุปความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรหลายประการ ตัวแปรที่มีจำนวนไม่มากนักที่ออกโดยสถาบันการเงินระดับ
ราคาและรายได้อย่างแท้จริงและปัจจัยอื่นๆที่มีผลกระทบต่อความต้องการสำหรับเงินและมีทั้งหมดสะท้อนถึง
ซึ่งจะช่วยในโครงเครื่องของ proportionality K .

ถ้ารายได้แบบเรียลไทม์ Y เป็นปัจจัยและคงที่สะท้อนอยู่ใน K อื่นๆมากกว่ารายได้จริงนอกจากนี้ยังมีอย่างต่อเนื่องสมการ
( 1 )จะให้ความสัมพันธ์โดยตรงระหว่างจำนวนไม่มากนักที่ของเงินและระดับราคา ให้ข้อมูลความรู้ตอบแทน
และรายได้อย่างแท้จริงและปัจจัยอื่นๆที่มีผลกระทบต่อความต้องการสำหรับเงินและมีทั้งหมดสะท้อนถึง
ซึ่งจะช่วยในโครงเครื่องของ proportionality K .

ถ้ารายได้แบบเรียลไทม์ Y เป็นปัจจัยและคงที่สะท้อนอยู่ใน K อื่นๆมากกว่ารายได้จริงนอกจากนี้ยังมีอย่างต่อเนื่องสมการ
( 1 )จะให้ความสัมพันธ์โดยตรงระหว่างจำนวนไม่มากนักที่ของเงินและระดับราคา ให้ข้อมูลความรู้ตอบแทน
จะต้องมีความสัมพันธ์กับสัดส่วนระหว่างระดับราคาและปริมาณไม่มากนักที่มีเงินมีความสัมพันธ์กัน
ซึ่งจะช่วยให้รายได้แบบเรียลไทม์ หากจำนวนไม่มากนักของม.เงินเปลี่ยนแปลงไป P จะเปลี่ยนแปลงตามสัดส่วนเหมือนกับที่
เนื่องจาก Y และกม.ก็คงที่.

อิสรเสรีในขณะที่เร่ร่อนด้อยโอกาสนี้เป็นจุดเริ่มที่เป็นประโยชน์สำหรับความคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ได้จะเป็นเรื่องจริง
จะต้องมีความสัมพันธ์กับสัดส่วนระหว่างระดับราคาและปริมาณไม่มากนักที่มีเงินมีความสัมพันธ์กัน
ซึ่งจะช่วยให้รายได้แบบเรียลไทม์ หากจำนวนไม่มากนักของม.เงินเปลี่ยนแปลงไป P จะเปลี่ยนแปลงตามสัดส่วนเหมือนกับที่
เนื่องจาก Y และกม.ก็คงที่.

อิสรเสรีในขณะที่เร่ร่อนด้อยโอกาสนี้เป็นจุดเริ่มที่เป็นประโยชน์สำหรับความคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ได้จะเป็นเรื่องจริง
การเขียนสมการ( 1 )คือ

P = K - 1 (ม./ Y ) ( 2 )

นี้สมการความโดดเด่นที่ความสัมพันธ์ระหว่างที่ราคาในระดับและปัจจัยที่ใช้ในการพิจารณาว่ามัน* 7 และยังช่วยให้
ชัดเจนว่าที่ไม่มากนักจำนวนเงินไม่ใช่ปัจจัยเดียวเท่านั้นที่ส่งผลกระทบต่อราคาในระดับ.

ถ้าจริงก็คงที่และรายได้อื่นๆปัจจัยก็ไม่มีผลต่อความต้องการสำหรับเงินหรือเป็นอย่างต่อเนื่องแล้ว
การเขียนสมการ( 1 )คือ

P = K - 1 (ม./ Y ) ( 2 )

นี้สมการความโดดเด่นที่ความสัมพันธ์ระหว่างที่ราคาในระดับและปัจจัยที่ใช้ในการพิจารณาว่ามัน* 7 และยังช่วยให้
ชัดเจนว่าที่ไม่มากนักจำนวนเงินไม่ใช่ปัจจัยเดียวเท่านั้นที่ส่งผลกระทบต่อราคาในระดับ.

ถ้าจริงก็คงที่และรายได้อื่นๆปัจจัยก็ไม่มีผลต่อความต้องการสำหรับเงินหรือเป็นอย่างต่อเนื่องแล้ว
สำหรับจำนวนไม่มากนักที่ของเงินและระดับราคาที่จะตามตัวที่เกี่ยวข้อง การวิเคราะห์เพิ่มเติมและสมมติฐาน
เกี่ยวกับสิ่งมีมากหรือน้อยกว่าที่สำคัญสร้างการเชื่อมต่อสัดส่วนระหว่างจำนวนไม่มากนักของ
เงินและระดับราคาที่


ครั้งแรกพิจารณารายได้แบบเรียลไทม์ รายได้จริงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาและส่งผลต่อความต้องการสำหรับเงิน ปัจจัยที่
ที่กำหนดรายได้อย่างแท้จริงแม้ว่าระบุโดย K ในสม
( 1 )และ( 2 )ไม่ใช่สิ่งสำคัญเป็นอย่างมากจากนั้นสมการ( 2 )ระบุว่าเงินและระดับราคาที่แท้จริงเมื่อเทียบกับรายได้นั้น
ตามสัดส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่จำเป็นต้องมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างจำนวนไม่มากนักที่
และระดับราคาที่มีเงินมีความสัมพันธ์กันในรายได้ หากการเปลี่ยนแปลงความต้องการสำหรับเงินที่ได้จ่ายไปสำหรับเหตุผลอื่นๆมากกว่าจริงๆ
ความสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการเปลี่ยนแปลงในพาวเวอร์ซัพพลายของเงิน
และและความต้องการสำหรับเงินที่ได้จ่ายไปสำหรับอธิบายถึงระดับราคาที่มีปัญหาดังนั้นในเชิงประจักษ์.

เงินและราคาในประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 1953 แผน ภาพ ที่ 1 แสดงความสัมพันธ์ระหว่างระดับราคาที่
และเงินเมื่อเทียบกับรายได้จริงๆสำหรับประเทศสหรัฐอเมริกาที่จากไตรมาสแรกของปี 1953 ไปจนถึงช่วงสิ้น 1997.10
ส่วนใหญ่เป็นหากไม่ได้โดยสิ้นเชิงไม่เกี่ยวข้องกับความต้องการสำหรับเงินและพาวเวอร์ซัพพลายที่
ของเงินโดยเฉพาะปัจจัยอีกต่อไป periods. 8 หลักที่มีผลกระทบต่อการเติบโตของรายได้จากความจริงมากกว่าเวลามี
การขยายตัวของทรัพยากรที่มีอยู่ให้การผลิตสินค้าและบริการและการเปลี่ยนเทคโนโลยี เงินการพิมพ์ไม่
ซึ่งจะช่วยสร้างแรงงานมากขึ้นหรือเงินทุนอย่างแท้จริงในการผลิตสินค้าและบริการหรือมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีดังนั้นอย่างน้อยกว่าช่วง
ซึ่งจะช่วยได้อีกรายได้อย่างแท้จริงเป็นอิสระจากจำนวนไม่มากนักที่ออกโดยสถาบันการเงินและระดับราคา เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลง
ในรายได้จริงหรือไม่มีผลต่อระดับราคานี้มีแต่ความสัมพันธ์ระหว่างสัดส่วนที่ราคาในระดับและ
จำนวนไม่มากนักเมื่อเทียบกับเงินรายได้แบบเรียลไทม์.

หากการเปลี่ยนแปลงความต้องการสำหรับเงินที่ได้จ่ายไปสำหรับเหตุผลอื่นมากกว่ารายได้แบบเรียลไทม์รายได้มีความสำคัญมากขึ้นกว่าการเปลี่ยนแปลงในปริมาณเงินเมื่อเทียบกับรายได้อย่างแท้จริงซึ่งการเปลี่ยนแปลงใน
ซึ่งจะช่วยให้ความต้องการสำหรับเงินสามารถส่งผลให้ไม่มีเห็นได้ความสัมพันธ์ระหว่างที่ราคาในระดับและเงินเมื่อเทียบกับ
จริงแบบขั้นต่ำ 9 การเปลี่ยนแปลงในราคาในระดับจะมีการเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงในความต้องการสำหรับเงิน, K ในสม
( 1 )และ( 2 ),และเงินไม่ใช่เมื่อเทียบกับรายได้อย่างแท้จริง.แกนแนวตั้งที่ใช้เครื่องชั่งตามสัดส่วนที่ค่าของเงินเมื่อเทียบกับรายได้แบบเรียลไทม์และระดับราคาที่
พร้อมด้วยขนาดตามสัดส่วนที่การเปลี่ยนแปลงสัดส่วนและเปอร์เซ็นต์ที่อยู่ในระดับราคาที่สูงและในเมื่อเทียบกับเงินรายได้
ซึ่งจะช่วยจะแสดงเป็นเนินเขาของสายที่เกี่ยวข้อง อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคือการแสดงออกด้วยความชันของสาย
ซึ่งจะช่วยให้อยู่ในระดับราคาที่ไม่มีอะไรในการก่อสร้างของกราฟที่กองกำลังบังเอิญใดๆของ
บรรทัด ความสัมพันธ์กับสัดส่วนอย่างเคร่งครัดซึ่งจะมีการแสดงโดยบังเอิญที่ของสองสายได้ ความสัมพันธ์ในทางบวกต่อแต่
น้อยกว่าอย่างสมบรูณ์แบบตามสัดส่วนที่มีการระบุในสัญญาโดยทั่วไปของสองคู่สายไว้ในข้อกำหนดของทิศทาง
และอัตราดอกเบี้ยของ change. 11