อาลีบาบา...ชื่อนี้ทำอะไร?
อาลีบาบาดอทคอม (Alibaba.com) คือเว็บไซต์ขายส่งขนาดใหญ่ หากจะบอกว่าใหญ่ที่สุดในโลกก็คงจะว่าได้... เป็นเว็บไซต์สัญชาติจีน และยังกลายเป็นศูนย์รวมโรงงานในประเทศจีน ซึ่งถือเป็นทางออกในการรองรับการค้าขายที่เหมาะสมที่สุดช่องทางหนึ่ง เนื่องจากประเทศจีนเป็นฐานการผลิตสินค้าขนาดใหญ่ที่ทั่วโลกเลือกใช้ ซ้ำยังกลายเป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งสินค้าเหล่านั้นกระจายสู่ทั่วโลกอีกด้วย ภายใต้รูปแบบที่เรียกว่า Business to Business หรือ B2B นั่นเอง
"แจ็ค หม่า" บิดาแห่งอาลีบาบา
เว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซสัญชาติจีนนี้ จะไม่มีทางถือกำเนิดและมีชื่อเสียงได้เลย หากไร้ชื่อของ "แจ็ค หม่า" หรือ หม่าหยุน ในฐานะผู้ก่อตั้ง จากวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลประกอบกับความมุ่งมั่นอดทนของเขา ซึ่งฉายแววมาตั้งแต่สมัยเด็ก แม้จะมีพื้นฐานครอบครัวที่ค่อนข้างยากจน และทำให้เขาไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่กับความหรูหราฟุ่มเฟือยได้ แต่นั่นกลับกลายเป็นพลังผลักดันเขาก้าวสู่ความมุ่งมั่น ใฝ่ดี และได้รับผลตอบแทนที่ดีแก่ชีวิต
จากอาชีพครู สู่อันดับมหาเศรษฐี!
ในอดีต... ประวัติการทำงานของ แจ็ค หม่า เริ่มต้นจากการเป็นครูสอนภาษาที่มีรายได้ราว 15 เหรียญ หรือเพียง 500 บาทต่อเดือนเท่านั้น! แต่ปัจจุบันเขาคือชายชาวจีนที่มีฐานะร่ำรวยที่สุด และยังติดอันดับ 1 ใน 50 มหาเศรษฐีของโลกอีกด้วย
ใฝ่ดีเรียนรู้...
ตามประวัติของแจ็ค หม่า ในสมัยเด็กนั้น เขาไม่เก่งคณิตศาสตร์แต่กลับสนใจเรียนภาษาอังกฤษเป็นอย่างมาก ถึงขนาดขี่จักรยานนานกว่า 40 นาที เพื่อเดินทางไปเตร่อยู่แถวๆ โรงแรม เพื่อหานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นคู่สนทนา หรือเสนอตัวเป็นไกด์ให้แก่คู่สนทนาเหล่านั้นโดยถือเป็นการฝึกซ้อมภาษาอังกฤษ หลังจากนั้น เขาก็ได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยและมุ่งมั่นจะเป็นครูสอนภาษา แม้จะต้องใช้ความพยายามในการสอบมากกว่า 1 ครั้ง แต่ท้ายที่สุดเขาก็ทำได้!
อดทนและแข็งขัน จนเข้าใกล้ความสำเร็จ
หลังจากเรียนจบ... แจ็ค หม่า ใช้เวลากว่า 5 ปี ในการสวมบทบาทเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ กับเงินเดือนอันน้อยนิดที่เขาได้รับ แต่โอกาสเริ่มต้นขึ้นในปี 2538 ที่เขาได้เดินทางไปเยี่ยมเพื่อนที่ซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา ซึ่งเขาได้มีโอกาสลองใช้อินเทอร์เน็ต และลองค้นหาคำว่าเบียร์ (Beer) ทำให้พบว่าไม่มีผลการค้นหาใดๆ ที่มาจากจีน
เริ่มต้นไม่หรูหรา แต่พยายามเดินตามฝัน
หลังจากนั้น เขาได้ก่อตั้งเว็บไซต์ "China Pages" ซึ่งยังไม่ประสบความสำเร็จในช่วงแรก จนกระทั่งปี 2542 เขาได้รวมกลุ่มกับเพื่อน และก่อตั้งธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในนาม "อาลีบาบา" ด้วยเงินทุนประมาณ 2 ล้านบาท โดยชื่อดังกล่าวนั้นเขาเป็นคนตั้งขึ้น เนื่องจากเป็นคำที่เลือกแล้วว่าคนทุกชาติทุกภาษาจะสามารถออกเสียงได้โดยง่าย
หาเป้าหมาย... ให้เหมาะสม
แจ็ค หม่า เคยกล่าวไว้เมื่อปี 2542 กับพนักงานของเขาว่า เป้าหมายของอาลีบาบาคือการแข่งขันกับบริษัทในซิลิคอนวัลเล่ย์ อาลีบาบาจะต้องแข่งขันกับบริษัทในระดับโลกไม่ใช่แค่ในประเทศจีน พนักงานจำเป็นต้องพัฒนาตนเองด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ และเทียบเท่าพนักงานในบริษัทไอทีที่ซิลิคอนวัลเล่ย์ ส่วนคู่แข่งด้านอี-คอมเมิร์ซอย่างอีเบย์นั้นเปรียบเป็นฉลาม ส่วนอาลีบาบาเปรียบเป็นจระเข้ ซึ่งสัตว์ทั้ง 2 ประเภทมีถิ่นฐานที่อาศัยแตกต่างกัน นั่นจึงสื่อได้ถึงความถนัดและตลาดที่แตกต่างกันของทั้ง 2 บริษัท
ยอมรับความผิดพลาดและเรียนรู้
เขาเป็นผู้ที่พร้อมจะยอมรับความผิดพลาด ซึ่งเขาเคยกล่าวว่าอยากเขียนหนังสือชื่อ 1001 ความผิดพลาดของอาลีบาบา อันเนื่องมาจากการขยายธุรกิจเร็วเกินไป จนทำให้ต้องปลดพนักงานเป็นจำนวนมาก ในช่วงปี 2545 อาลีบาบาเคยเหลือเงินสดที่พอจ่ายเงินเดือนแก่พนักงานอีกแค่ 18 เดือน จากเหตุเพราะมีแต่คนใช้บริการฟรี ทำให้บริษัทไม่มีรายได้เพียงพอ
ความสำเร็จที่กำลังพุ่งทะยาน!
ปัจจุบัน อาลีบาบามีสมาชิกเกือบ 30 ล้านคน สามารถสร้างให้เกิดการซื้อขายได้กว่า 200 ประเทศ จากจำนวนสินค้าเกือบ 6,000 รายการ
สยายปีก... สู่ธุรกิจอื่น
นอกจากการดำเนินธุรกิจในชื่อ อาลีบาบา ยังมีเว็บไซต์ลูกและธุรกิจรูปแบบอื่นอีกหลากหลาย ซึ่งล้วนแต่มีชื่อเสียงในระดับโลก เช่น Taobao.com , Aliexpress.com , 1688.com , Aliyun.com , Alipay.com เป็นต้น
อย่ายืดติดเงินทองเพียงอย่างเดียว!
หลังจากประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น รวมถึงความสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและการศึกษาแล้ว แจ็ค หม่า ยังหันมาทำประโยชน์ต่อสังคมในภาพรวมแทนการทำกำไรให้ธุรกิจแต่เพียงอย่างเดียว! โดยเฉพาะปัญหามลภาวะและสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งของจีน
คุณได้เรียนรู้อะไรจากวิถีชีวิตของ แจ็ค หม่า และการเดินทางของเว็บอาลีบาบา บ้างหรือไม่? ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นจากก้าวเดินที่ยิ่งใหญ่และเส้นทางที่สวยงาม จงเรียนรู้กับความยากลำบาก อดทน และพยายามอย่างหนัก เพื่อต้อนรับความสำเร็จในอนาคต...!