บทคัดย่อ การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึก

บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงสำรวจแบบสอบถาม มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อพฤกับพฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศของนิสิตชายคณะแพทยศาสตร์ ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จังหวัดพะเยา มีกลุ่มตัวอย่างจำนวน 251 คน เก็บรวบรวมแบบสอบถามชนิดตอบด้วยตนเอง ในเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2558
ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างเกือบครึ่งมีพฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศอยู่ในระดับ (ร้อยละ 44.80) วิเคราะห์หาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศของนิสิตชายคณะแพทยศาสตร์ ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จังหวัดพะเยา โดยใช้การทดสอบ ไคว์-สแควร์ (chi-square test) พบว่า ปัจจัยส่วนบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศของนิสิตชายคณะแพทยศาสตร์ ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จังหวัดพะเยา ที่มีความสำคัญอย่างมีนัยทางสถิติ (P-volue

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อ การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงสำรวจแบบสอบถามมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อพฤกับพฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศของนิสิตชายคณะแพทยศาสตร์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งจังหวัดพะเยามีกลุ่มตัวอย่างจำนวน 251 คนเก็บรวบรวมแบบสอบถามชนิดตอบด้วยตนเองในเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2558 ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างเกือบครึ่งมีพฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศอยู่ในระดับ (ร้อยละ 44.80) วิเคราะห์หาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศของนิสิตชายคณะแพทยศาสตร์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งจังหวัดพะเยาโดยใช้การทดสอบไคว์สแควร์ (chi-square ทดสอบ) พบว่าปัจจัยส่วนบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศของนิสิตชายคณะแพทยศาสตร์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งจังหวัดพะเยาที่มีความสำคัญอย่างมีนัยทางสถิติ (P volue < 0.001) ได้แก่สาขาวิชา ผลการเรียนGPA การคบเพื่อนสนิทรสนิยมทางเพศและปัจจัยด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศของนิสิตชายคณะแพทยศาสตร์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งจังหวัดพะเยาที่มีความสำคัญอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P volue < 0.001) ได้แก่การรับรู้ข้อมูลด้านเบี่ยงเบนทางเพศจากสื่อมวลชนความสัมพันธ์กับบุคคลที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศคำสำคัญ​

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งจังหวัดพะเยามีกลุ่มตัวอย่างจำนวน 251 คน ในเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2558
ผลการศึกษาพบว่า (ร้อยละ 44.80) ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งจังหวัดพะเยาโดยใช้การทดสอบไคว์ - สแควร์ (ทดสอบไคสแควร์) พบว่า ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งจังหวัดพะเยาที่มีความสำคัญอย่างมีนัยทางสถิติ (P-volue <0.001) ได้แก่ สาขาวิชาผลการเรียนเกรดเฉลี่ยการคบเพื่อนสนิทรสนิยมทางเพศ จังหวัดพะเยา (P-volue <0.001) ได้แก่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงสำรวจแบบสอบถามมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อพฤกับพฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศของนิสิตชายคณะแพทยศาสตร์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งจังหวัดพะเยามีกลุ่มตัวอย่างจำนวนคนเก็บรวบรวมแบบสอบถามชนิดตอบด้วยตนเองในเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคมพ .ศ . 2558
ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างเกือบครึ่งมีพฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศอยู่ในระดับ ( ร้อยละ 4480 ) วิเคราะห์หาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศของนิสิตชายคณะแพทยศาสตร์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งจังหวัดพะเยาโดยใช้การทดสอบไคว์ - สแควร์ ( ไคสแควร์ ) พบว่าในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งจังหวัดพะเยาที่มีความสำคัญอย่างมีนัยทางสถิติ ( p-volue < 0001 ) ได้แก่สาขาวิชาผลการเรียน GPA การคบเพื่อนสนิทรสนิยมทางเพศและปัจจัยด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศของนิสิตชายคณะแพทยศาสตร์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งจังหวัดพะเยา( p-volue < 0001 ) ได้แก่การรับรู้ข้อมูลด้านเบี่ยงเบนทางเพศจากสื่อมวลชนความสัมพันธ์กับบุคคลที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ

​คำสำคัญ