Asia-Pacific 'too dependent on expo

Asia-Pacific 'too dependent on exports'
Trade and investment growth is slow in the Asia-Pacific region because of an over-dependence on foreign demand for its exports, according to a United Nations report.

Published: 24/09/2014 at 04:06 PM
Newspaper section: breakingnews
While the Asia-Pacific region remains the most dynamic pole of the global economy, growth in trade and investment flow is yet to return to the strong levels prior to the global financial crisis, a new report by the UN Economic and Social Commission for Asia and the Pacific (Escap) released in Bangkok on Wednesday concluded.

According to the Asia-Pacific Trade and Investment Report 2014, total exports and imports from the region grew by only 2% in 2013 and were weak in the first half of 2014. Growth in 2015 is expected to increase to 7%, but whether it is achievable or not depends on global macro-economic prospects.

"The overarching message of this year’s report is that the lengthy shadows cast by the crisis highlight the need for economic rebalancing,” said Escap executive secretary Shamshad Akhtar.

“In part, this requires refocusing on domestic value addition of exports, rather than increasing gross exports alone,” she said.

“Regional economies also need to diversify away from dependence on traditional sources of export-demand in Europe and the United States, developing domestic demand and better integrating with other regional economies,” Ms Akhtar said.

The report shows consolidated intra-regional trade, with more than half of regional exports now directed to other Asia-Pacific countries.

Amongst the report’s findings, Northeast Asia alone was responsible for about 60% of both total regional merchandise exports and imports in 2013.

Similarly, 65% of all services exports from the Asia-Pacific region are attributable to just six economies: China, India, Japan, Korea, Singapore and Hong Kong, China.

This suggests that large gaps remain between countries in terms of their trade competitiveness and level of diversification, and that great potential remains still untapped, especially in the services sectors of many countries, according to the report.

Asia-Pacific attracted US$549 billion of foreign direct investment (FDI) in 2013, a rise of 6.6%, accounting for almost 38% of global inflows. However, this was still lower than the global increase and lagged behind other fast-growing regions such as Latin America.

On a more positive note, the report indicates a noticeable diversification in the destination of FDI within the region - with new locations and smaller players now attracting more foreign investors, and on a larger scale.

Intraregional FDI is also found to be expanding in importance, with inflows through mergers and acquisitions totalling more than $153 billion, accounting for almost one-third of total regional FDI inflows last year, and also flowing to a diverse range of destinations.

According to Esap, given the importance of foreign investment in transferring technology and generating jobs, this is a promising development and augurs well for deepening global value chains, stimulating higher returns and generating decent jobs.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เอเชีย-แปซิฟิก 'เกินไปพึ่งส่งออก'ทางการค้าและการลงทุนเติบโตได้ช้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเนื่องจากพึ่งมีมากเกินอุปสงค์ต่างประเทศสำหรับการส่งออก รายงานสหประชาชาติเผยแพร่: 24/09/2014 ที่ 04:06 PMส่วนหนังสือพิมพ์: breakingnewsในขณะภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกยังคง ขั้วที่สุดของเศรษฐกิจโลก การเจริญเติบโตในขั้นตอนการค้าและการลงทุนจะ ยังกลับแข็งแกร่งระดับก่อนวิกฤตการเงินโลก รายงานใหม่ โดยสหประชาชาติเศรษฐกิจและคณะกรรมการประกันสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (เอสแคป) ออกในกรุงเทพพุธที่สรุปตามการค้าเอเชีย-แปซิฟิกและ 2014 รายงานการลงทุน รวมการส่งออก และนำเข้าจากภูมิภาคเพิ่มขึ้นเพียง 2% ในปี 2013 และมีความอ่อนแอในช่วงครึ่งแรกปี 2557 คาดว่าจะเพิ่มเป็น 7% ใน 2015 แต่ไม่ว่าจะทำได้ หรือไม่ขึ้นอยู่กับแนวโน้มแมเศรษฐกิจทั่วโลก"คัดสรรข้อความของปีนี้อยู่ที่เงายาวโยนจากวิกฤติเน้นต้องปรับสมดุลทางเศรษฐกิจ กล่าวว่า เลขานุการผู้บริหารเอสแคป Shamshad Akhtar"ในส่วน ต้องเฉพาะ refocusing บนเพิ่มภายในประเทศค่าส่งออก แทนที่เพิ่มขึ้นรวมส่งออกเพียงอย่างเดียว เธอกล่าว"ภูมิภาคจำเป็นต้องมากมายจากการพึ่งพาแหล่งดั้งเดิมของอุปสงค์การส่งออกในยุโรปและสหรัฐอเมริกา พัฒนาอุปสงค์ภายในประเทศและดีรวมกับเศรษฐกิจภูมิภาคอื่น ๆ Ms Akhtar กล่าว รายงานจะแสดงรวมค้าสำนึก มีมากกว่าครึ่งหนึ่งของการส่งออกภูมิภาคตอนนี้ ส่งไปประเทศเอเชีย-แปซิฟิกท่ามกลางรายงานค้นพบ เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือเพียงอย่างเดียวรับผิดชอบประมาณ 60% ของการส่งออกสินค้ารวมภูมิภาคและนำเข้าในปี 2013ในทำนองเดียวกัน 65% ของบริการทั้งหมดที่ส่งออกจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างเพียงหกประเทศ: จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ และ Hong Kong จีน แนะนำว่า ยังคงมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างประเทศในการแข่งขันทางการค้าและระดับของการกระจาย และศักยภาพที่ดียังคงยังไม่ได้ใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคบริการของประเทศ รายงานการเอเชีย-แปซิฟิกดึงดูด 549 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยตรงลงทุนต่างประเทศ (FDI) ในปี 2013 เพิ่มขึ้น 6.6% บัญชีสำหรับเกือบ 38% ของกระแสโลกเข้า อย่างไรก็ตาม นี้ยังต่ำกว่าการเพิ่มขึ้นของโลก และ lagged หลังภูมิภาคอื่น ๆ เติบโตอย่างรวดเร็วเช่นละตินในหมายเหตุยิ่งบวก รายงานระบุวิสาหกิจอย่างเห็นได้ชัดในปลายทางของ FDI ในภูมิภาค - กับสถานใหม่และเครื่องเล่นขนาดเล็กตอนนี้ ดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น และขนาดใหญ่Intraregional FDI ยังพบจะได้ขยายความสำคัญ มีกระแสเข้าครอบงำและซื้อผลรวมมากกว่า $153 พันล้าน บัญชีสำหรับเกือบหนึ่งในสามของกระแสเข้า FDI ภูมิภาครวมปี และยัง ไหลไปสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ตาม Esap ให้ความสำคัญของการลงทุนต่างประเทศในการถ่ายโอนเทคโนโลยีและงานสร้าง นี้คือการ พัฒนาสัญญา และ augurs ดีลึกโซ่ค่าส่วนกลาง กระตุ้นกลับสูงขึ้น และสร้างงานที่ดี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เอเชีย แปซิฟิก ก็ขึ้นอยู่กับการส่งออก '
เจริญเติบโตทางการค้าและการลงทุนในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ที่ช้าเพราะเป็นมากกว่าการพึ่งพาความต้องการในต่างประเทศสำหรับการส่งออก ตามรายงานของสหประชาชาติ .

เผยแพร่ : 24 / 09 / 2010 ที่ 04 : 06 PM หัวข้อ : breakingnews

พิมพ์ในขณะที่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังคง เสาแบบไดนามิกมากที่สุดของเศรษฐกิจโลกการเจริญเติบโตในการค้าและการลงทุนยังกลับไประดับที่แข็งแกร่งก่อนวิกฤตการเงินโลก , รายงานใหม่โดยคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก ( เอสแคป ) ออกกรุงเทพฯในวันพุธได้

ตามภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกการค้าและการลงทุนรายงาน 2014 ,การส่งออกและนำเข้าจากภูมิภาคขยายตัวเพียง 2% ในปี 2013 และอ่อนแอในช่วงครึ่งแรกของปี 2014 ในปี 2015 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 7 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่ว่าจะได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคทั่วโลก

" ครอบคลุมข้อความของรายงานในปีนี้คือ ยาวเงาโยนโดยวิกฤตที่ต้องปรับสมดุลทางเศรษฐกิจ" บอกว่าแคปเลขานุการชัมชาด Akhtar

" ในส่วนนี้ต้อง refocusing ในมูลค่าในการส่งออกที่เพิ่มขึ้นมากกว่ามูลค่าการส่งออกเพียงอย่างเดียว เธอ

" ภูมิภาคของประเทศยังต้องกระจายออกไปจากการพึ่งพาแหล่งที่มาดั้งเดิมของอุปสงค์การส่งออกในยุโรปและสหรัฐอเมริกาการพัฒนาความต้องการภายในประเทศ และการบูรณาการกับประเทศในภูมิภาคอื่น ๆดีขึ้น " นางสาว Akhtar กล่าวว่า

รายงานแสดงการค้าภายในภูมิภาค รวมที่มีมากกว่าครึ่งหนึ่งของการส่งออกไปยังประเทศในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก แล้วกำกับอื่น ๆ .

ในหมู่ค้นพบของรายงาน , เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือคนเดียวเป็นผู้รับผิดชอบประมาณ 60% ของยอดส่งออกสินค้าทั้งระดับภูมิภาคและนำเข้าใน 2013 .

ในทํานองเดียวกัน65% ของการบริการทั้งหมดของการส่งออกจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะเหลือเพียง 6 ประเทศ ได้แก่ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ และ ฮ่องกง จีน

แสดงว่าช่องว่างขนาดใหญ่อยู่ระหว่าง ประเทศ ในแง่ของการแข่งขันทางการค้า และระดับของการกระจายของพวกเขาและที่ยังไม่ได้ใช้ศักยภาพที่ดีอยู่ โดยเฉพาะในภาคบริการของหลายประเทศตามรายงาน .

เอเชียแปซิฟิกดึงดูดเรา $ 549 ล้านของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ( FDI ) ในปี 2013 เพิ่มขึ้น 6.6% , การบัญชีสำหรับเกือบ 38% ของบริษัทฯ . แต่นี้ยังต่ำกว่าที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกและล้าหลังภูมิภาคที่เติบโตอย่างรวดเร็วอื่น ๆ เช่น ละตินอเมริกา

เมื่อทราบในเชิงบวกมากขึ้นรายงานระบุว่า วิสาหกิจที่เห็นได้ชัดในปลายทางของการลงทุนภายในภูมิภาค - กับสถานที่ใหม่ และผู้เล่นที่มีขนาดเล็กในขณะนี้ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น และในระดับขนาดใหญ่

ภายในภูมิภาค FDI ยังพบว่ามีการขยายในความสำคัญ กับกระแสที่ผ่านการควบรวมกิจการรวมมากกว่า $ 153 ล้านบาทการบัญชีสำหรับเกือบหนึ่งในสามของ FDI ไหลเข้าภูมิภาคทั้งหมดเมื่อปีที่แล้ว และยังไหลสู่ความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยว

ตาม esap ให้ความสำคัญของการลงทุนจากต่างประเทศในการถ่ายทอดเทคโนโลยี และการสร้างงาน นี่คือการพัฒนาสัญญา และโหราจารย์ดีลึกโซ่คุณค่าระดับโลก กระตุ้นการสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น และงานที่เหมาะสม