8.Welcome to WAT NA PHRAMEN Wat Na

8.Welcome to WAT NA PHRAMEN
Wat Na Phra Men , Wat Na Phra Men is located on the bank of Khlong Sra Bua opposite the ancient Grand Palace.
A majestic giant Buddha image, replete with royal adornments, rises up before you upon entering the nine-room-sized Ubosot of Wat Na Phra Men. This particular Buddha image is known as “Phra Phuttha Nimit Wichit Man Moli Si Sanphet Borom Trai Lokkanat” and hails from the late- Ayutthaya period. Judging by its elaborate decorations, it was presumably built during the reign of King Prasatthong.
The legend goes that Phra Ong In, during the reign of King Rama Thibodi II, ordered the construction of the temple, giving it the name “Wat Phra Men Rachikaram”. It is commonly called “Wat Na Phra Men”. The name supposedly comes from the fact that in the past there was a small temple at the rear called “Wat Khok Phraya”. It was believed to be the area of execution of royalty and a cremation ground. Thus, it was given the name “Wat Na Phra Men”, or “the temple in front of the cremation ground”.
There are many fascinating things located in the temple’s Ubosot. Today, the large building still resonates with the architecture of the mid-Ayutthaya period, combined with the art from the era of King Rama III. Throughout its history, the temple has undergone continuous restorations until the Rattanakosin era. There are no large windows, only balustrade windows crafted into the shape of angular floral balusters. These are works of ancient craftsmanship found at ancient monuments from the Sukhothai period.
Before bidding farewell to the principal Buddha image, take a moment to raise your eyes to enjoy the beautiful stars delicately crafted into the ceiling. Another stop that should not be missed is the crafted wooden gable covered with lacquer and gilt and decorated with glass mosaics, depicting God Vishnu riding on the Garuda who is standing over the head of the Giant Serpent, supported by the Rahu face.
From the Ubosot, stop by the small image hall “Wihan Noi” to pay respect to Phra Khanthararat, a giant stone Buddha image from the Dvaravati period (9th-9th century A.D.). Somdet Krom Phraya Damrong Rajanuphab believed that the Buddha image was moved from Wat Na Phra Men in Nakhon Pathom.
Though many temples were burnt during the second fall of Ayutthaya, this temple was spared because at the time it was a base for the Burmese army. As a result, many things have survived to be admired. Additionally, prior to the first fall of Ayutthaya, this is the site where the King of Ayutthaya (Phra Maha Chakkraphat) and the King of Burma (King Bayinnong) agreed on the peace treaty following the White Elephant war in 1563.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

8.ยินดีต้อนรับสู่วัดนา PHRAMEN วัดหน้าพระเมรุ วัดหน้าพระเมรุตั้งอยู่บนฝั่งคลองสระบัวตรงข้ามพระราชวังโบราณ มาเจสติกยักษ์พระพุทธรูป เปี่ยมไป ด้วยพระยาว เพิ่มมากขึ้นก่อนที่จะเข้าเก้าห้องขนาดอุโบสถของวัดนาพระผู้ชาย พระพุทธรูปนี้โดยเฉพาะเรียกว่า "พระพุทธนิมิตรตำบลวิชิตคน Moli ศรีสรรเพชญ์บรมไตร Lokkanat" และจากปลายอยุธยา ตัดสิน โดยการตกแต่งอย่างประณีต สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในรัชสมัยของกษัตริย์ Prasatthong ตำนานไปที่พระองค์ใน รัชกาลที่ Thibodi ราม การก่อสร้างวัด สั่งให้มันชื่อ "วัดพระ Rachikaram ผู้ชาย" โดยทั่วไปเรียกว่า "วัดหน้าพระเมรุ" ชื่อคาดว่ามาจากความจริงที่ว่าในอดีตมีวัดเล็ก ๆ อยู่ด้านหลังเรียกว่า "วัดโคกพระยา" เชื่อจะเป็นพื้นที่ของการดำเนินการของพระบรมวงศานุวงศ์และพื้นดินเผาศพ ดังนั้น มันได้รับชื่อว่า "วัดหน้าพระเมรุ" หรือ "วัดหน้าศพที่พื้นดิน" มีหลายสิ่งที่น่าสนใจอยู่ในอุโบสถของวัด วันนี้ อาคารขนาดใหญ่ยังคงสะท้อนกับสถาปัตยกรรมของกลางอยุธยา รวมกับศิลปะจากยุคของสมเด็จ ตลอดประวัติศาสตร์ วัดได้รับการบูรณะอย่างต่อเนื่องจนถึงยุครัตนโกสินทร์ ไม่มีหน้าต่างขนาดใหญ่ เฉพาะลูกกรง windows สร้างขึ้นในรูปทรงของ balusters ดอกไม้เชิงมุมได้ เหล่านี้เป็นงานของช่างฝีมือโบราณที่พบที่โบราณสถานสุโขทัย ก่อนอำลาประมูลพระประธาน ใช้เวลายกตากับดวงดาวสวยงามประณีตออกแบบเพดาน หยุดอีกที่ไม่ควรพลาดคือ ช่อฟ้าไม้ออกแบบมาเพื่อปกคลุม ด้วยแล็กเกอร์ และทอง และตกแต่ง ด้วยกระเบื้องโมเสกแก้ว ภาพวาดพระนารายณ์ขี่ครุฑที่ยืนอยู่บนหัวของงูยักษ์ โดยหน้าราหู จากอุโบสถ หยุด โดยหอภาพเล็ก "วิหารน้อย" ไปไหว้พระ Khanthararat พระพุทธรูปยุคทวารวดี (ศตวรรษที่ 9-9 ประจำพ.ศ.) หินยักษ์ สมเด็จกรมพระยารงค์ Rajanuphab เชื่อกันว่า พระพุทธรูปถูกย้ายจากวัดหน้าพระเมรุนครปฐม แม้ว่าวัดหลายแห่งถูกเผาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงสองของอยุธยา วัดถูก spared เนื่องจากเวลา เป็นฐานสำหรับกองทัพพม่า เป็นผล สิ่งที่มีชีวิตรอดไปรอบ ๆ นอกจากนี้ ก่อนตกแรกของอยุธยา นี้เป็นสถานที่ที่กษัตริย์อยุธยา (พระมหาจักราพัฒน์) และกษัตริย์พม่า (King Bayinnong) ตกลงในสนธิสัญญาสันติภาพหลังสงครามช้างเผือกใน 1563

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

8.Welcome ไปวัดหน้าพระเมรุ
วัดนาชายพระวัดหน้าพระเมรุตั้งอยู่ริมฝั่งคลองสระบัวตรงข้ามโบราณพระบรมมหาราชวัง.
พระพุทธรูปยักษ์ตระหง่านประกอบไปด้วยเครื่องประดับพระราชลุกขึ้นก่อนที่คุณจะเข้าเก้า -room ขนาดพระอุโบสถของวัดหน้าพระเมรุ พระพุทธรูปนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่รู้จักกันว่า "พระพุทธนิมิตวิชิตผู้ชาย Moli ศรีสรรเพชญ์บรมไตร Lokkanat" และจากฟากฟ้าสมัยอยุธยา late- ตัดสินโดยการตกแต่งอย่างประณีตของมันก็ถูกสร้างขึ้นสันนิษฐานว่าในช่วงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระ Prasatthong ได้.
ตำนานไปว่าพระองค์ในระหว่างรัชสมัยของรัชกาลที่ Thibodi ครั้งที่สองสั่งการก่อสร้างของวัดให้มันชื่อ "วัดพระเมรุ Rachikaram " มันเป็นเรื่องปกติที่เรียกว่า "วัดหน้าพระเมรุ" ชื่อที่คาดคะเนมาจากความจริงที่ว่าในอดีตที่ผ่านมามีวัดเล็ก ๆ ที่ด้านหลังเรียกว่า "วัดโคกพระยา" มันก็เชื่อว่าจะเป็นพื้นที่ของการดำเนินการของพระบรมวงศานุวงศ์และพื้นดินที่เผาศพ ดังนั้นจึงได้รับการตั้งชื่อว่า "วัดหน้าพระเมรุ" หรือ "วัดในด้านหน้าของพื้นดินเผาศพ".
มีสิ่งที่น่าสนใจมากมายที่ตั้งอยู่ในวัดมีพระอุโบสถ วันนี้ที่อาคารขนาดใหญ่ยังคงสะท้อนกับสถาปัตยกรรมของยุคกลางอยุธยารวมกับศิลปะจากยุคของรัชกาลที่สามที่ ตลอดประวัติศาสตร์ของวัดได้รับการบูรณะอย่างต่อเนื่องจนถึงยุครัตนโกสินทร์ ไม่มีหน้าต่างบานใหญ่เพียงหน้าต่างลูกกรงที่สร้างขึ้นเป็นรูปดอกไม้ balusters เชิงมุมที่มี เหล่านี้เป็นผลงานของช่างฝีมือโบราณที่พบในโบราณสถานจากสมัยสุโขทัย.
ก่อนการเสนอราคาอำลาเป็นพระพุทธรูปใช้เวลาสักครู่เพื่อยกระดับสายตาของคุณจะเพลิดเพลินไปกับดาวที่สวยงามฝีมือประณีตเข้าไปในเพดาน ครบวงจรที่ไม่ควรพลาดก็คือการสร้างขึ้นมาจั่วไม้ปกคลุมด้วยแล็กเกอร์และทองและตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสคแก้วภาพวาดพระเจ้าพระนารายณ์ขี่ครุฑที่ยืนอยู่เหนือหัวของยักษ์งูโดยการสนับสนุนจากใบหน้าของพระราหู.
จากพระอุโบสถ หยุดโดยฮอลล์ภาพเล็ก "วิหารน้อย" เพื่อไหว้พระ Khanthararat หินพระพุทธรูปยักษ์จากสมัยทวาราวดี (ศตวรรษที่ 9-9 AD) สมเด็จกรมพระยาดำรง Rajanuphab ที่เชื่อกันว่าพระพุทธรูปถูกย้ายจากวัดหน้าพระชายในจ. นครปฐม
แม้ว่าหลายวัดถูกไฟไหม้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่สองของอยุธยาวัดนี้รอดเพราะในช่วงเวลานั้นมันเป็นฐานสำหรับกองทัพพม่า เป็นผลให้หลายสิ่งมีชีวิตรอดที่จะชื่นชม นอกจากนี้ก่อนที่จะมีการล่มสลายของกรุงศรีอยุธยาครั้งแรกนี้เป็นเว็บไซต์ที่พระมหากษัตริย์ของอยุธยา (พระมหาจักรพรรดิ) และพระมหากษัตริย์ของพม่า (กษัตริย์ Bayinnong) ตกลงในสนธิสัญญาสันติภาพต่อไปนี้สงครามช้างเผือกใน 1563