In Thailand, there are 99 starch pl

In Thailand, there are 99 starch plants with total capacity of
34,141 ton starch/day. The average capacity of each plant is 350 ton
starch/day. This research collected the data from interviewing the
plant managers and engineers from 6 starch plants from all over
Thailand covering every region. Moreover, data from literature
(Chavalparit and Ongwandee, 2009) collected from 8 starch plants
in Thailand were also used for the analysis. All the data was
compiled and used to determine the average and range which will
be used in MFCA model. The calculation was based on 100 ton
cassava input for both factories for comparison. The results show
that productivity from different plants is similar (the range is ±7%
from the average), except for water use that has a high uncertainty
of about ±50%

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในประเทศไทยมี 99
โรงแป้งที่มีความจุรวมของแป้ง34,141 ตัน ​​/ วัน กำลังการผลิตเฉลี่ยของแต่ละโรงงานเป็น 350
ตันแป้ง/ วัน การวิจัยครั้งนี้เก็บรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้จัดการโรงงานและวิศวกรจาก 6 โรงแป้งจากทั่วทุกมุมของประเทศไทยที่ครอบคลุมทุกภูมิภาค นอกจากนี้ข้อมูลจากวรรณกรรม(Chavalparit และ Ongwandee 2009) ที่เก็บรวบรวมจาก 8 โรงแป้งในประเทศไทยนอกจากนี้ยังถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์ ข้อมูลทั้งหมดที่ถูกรวบรวมและใช้ในการกำหนดค่าเฉลี่ยและช่วงซึ่งจะนำไปใช้ในรูปแบบMFCA การคำนวณอยู่บนพื้นฐานของ 100 ตันการป้อนข้อมูลสำหรับโรงงานมันสำปะหลังทั้งสำหรับการเปรียบเทียบ ผลการศึกษาพบว่าการผลิตจากพืชที่แตกต่างกันมีความคล้ายคลึง (ช่วงเป็น± 7% จากค่าเฉลี่ย) ยกเว้นสำหรับการใช้น้ำที่มีความไม่แน่นอนสูงประมาณ± 50%

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในประเทศไทย มี 99 โรงแป้งมีความจุรวมของ
34141 ตันแป้งต่อวัน ความจุเฉลี่ยของแต่ละโรงงานเป็น 350 ตัน
แป้ง / วัน การวิจัยครั้งนี้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้บริหารและวิศวกรจากโรงงาน
6
แป้งพืชจากทั่วไทย ครอบคลุมทุกภาค นอกจากนี้ ข้อมูลจากวรรณคดี
( ชวาลภาฤทธิ์ และ มงคลพิลา , 2009 ) จำนวน 8 โรงแป้ง
ในไทยยังใช้สำหรับการวิเคราะห์ ข้อมูลทั้งหมดถูก
รวบรวมและใช้เพื่อหาค่าเฉลี่ยและช่วงซึ่งจะถูกใช้ในรูปแบบ mfca
. การคำนวณบนพื้นฐานของการป้อนข้อมูลทั้ง 100 ตัน
มันสำปะหลังโรงงานสำหรับการเปรียบเทียบ ผลการวิจัยพบว่าผลผลิตจากพืชที่แตกต่างกัน
เหมือนกัน ( ช่วงนั้น± 7 %
จากค่าเฉลี่ย ) ยกเว้นใช้น้ำที่มี
ความไม่แน่นอนสูงประมาณ 50 %
±