Residual symptoms that athletes com

Residual symptoms that athletes complained of
resulted from previous ankle sprains and are presented
in Figure 6. Of the athletes, 30.2% complained
about pain in their injured ankle which was the major
complaint. The second most common complaint was
the sense of ankle instability (20.4% of athletes),
followed by crepitus of ankle joints (18.2% of
athletes) and weakness (16.5% of athletes) in the
injured ankles.
The injured or sprained ankles were further
divided into three subgroups for analysis of various
residual symptoms in relation to the frequency of
recurrence: group 1 - 149 ankles that had only been
sprained once; group 2 - 290 ankles sprained two to
four times; and group 3 - 124 ankles sprained five or
more times.
Results showed that for any specific ankle there
was a trend towards an increase in complaint of
residual symptoms with an increase in the number of
sprains (Figure 7). For example, only 9.4% of ankles
in group 1 had symptoms of residual instability, but
instability was complained of for 37.9% of ankles

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ส่วนที่เหลืออาการที่แนะนำนักกีฬาของ
เป็นผลมาจากเคล็ดขัดยอกข้อเท้าก่อนหน้า และมีแสดง
ในรูปที่ 6 ของนักกีฬา เปด 30.2%
เกี่ยวกับปวดข้อเท้าบาดเจ็บของพวกเขาซึ่งเป็นวิชา
ร้องเรียน ถูกร้องเรียนมากที่สุดสอง
ความข้อเท้าขาดเสถียรภาพ (ยัง 20.4% ของนักกีฬา),
ตาม crepitus ของข้อต่อข้อเท้า (18.2%
นักกีฬา) และอ่อนแอ (16.5% ของนักกีฬา) ในการ
รับบาดเจ็บเท้า
เท้าบาดเจ็บ หรือ sprained ถูกเพิ่มเติม
แบ่งออกเป็นสามกลุ่มย่อยสำหรับการวิเคราะห์ต่าง ๆ
เหลืออาการเกี่ยวกับความถี่ของ
เกิด: กลุ่มเท้า 1 149 ที่เท่านั้นได้
เคล็ดครั้ง กลุ่มที่ 2-290 เท้าเคล็ดไปสอง
4 ครั้ง และกลุ่ม 3-124 เท้าเคล็ดห้า หรือ
เพิ่มเติมเวลา
ผลลัพธ์พบว่าสำหรับข้อเท้าเฉพาะใด ๆ มี
มีแนวโน้มต่อการเพิ่มขึ้นในการร้องเรียนของ
เหลืออาการ ด้วยการเพิ่มจำนวน
เคล็ดขัดยอก (รูปที่ 7) ตัวอย่างเช่น เพียง 9.4% ของเท้า
กลุ่ม 1 มีอาการของความไม่เสถียรของเหลือ แต่
ความไม่แน่นอนถูกเปดของ 37.9% ของเท้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อาการที่เหลือว่านักกีฬาบ่นว่า
เกิดจากการเคล็ดขัดยอกข้อเท้าก่อนหน้านี้และจะนำเสนอ
ในรูปที่ 6 ของนักกีฬา, 30.2% บ่น
เกี่ยวกับอาการปวดข้อเท้าที่ได้รับบาดเจ็บของพวกเขาซึ่งเป็นที่สำคัญ
การร้องเรียน สองร้องเรียนที่พบมากที่สุดคือ
ความรู้สึกของความไม่แน่นอนข้อเท้า (20.4% ของนักกีฬา),
ตามด้วย Crepitus ของข้อต่อข้อเท้า (18.2% ของ
นักกีฬา) และความอ่อนแอ (16.5% ของนักกีฬา) ใน
ข้อเท้าได้รับบาดเจ็บ
ข้อเท้าที่ได้รับบาดเจ็บหรือมีเคล็ดต่อไป
แบ่งออกเป็นสามกลุ่มย่อยสำหรับการวิเคราะห์ต่างๆ
อาการที่เหลืออยู่ในความสัมพันธ์กับความถี่ของการ
เกิดซ้ำ: กลุ่ม 1 - 149 ข้อเท้าที่ได้รับเพียง
ครั้งเดียวแพลง; กลุ่ม 2-290 ข้อเท้าแพลงสองถึง
สี่ครั้ง; และกลุ่ม 3-124 ข้อเท้าแพลงห้าหรือ
มากกว่าครั้ง
ผลการศึกษาพบว่าข้อเท้าที่เฉพาะเจาะจงใด ๆ ที่มี
แนวโน้มไปสู่การเพิ่มขึ้นในการร้องเรียนของ
อาการที่เหลือกับการเพิ่มจำนวนของ
เคล็ดขัดยอก (รูปที่ 7) ตัวอย่างเช่นเพียง 9.4% ของข้อเท้า
ในกลุ่มที่ 1 มีอาการของความไม่แน่นอนที่เหลือ แต่
ความไม่แน่นอนก็บ่นว่าสำหรับ 37.9% ของข้อเท้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อาการที่นักกีฬาบ่น
เนื่องมาจากก่อนหน้าข้อเท้าเคล็ดขัดยอกและเสนอ
ในรูปที่ 6 ของนักกีฬา , 30.2 % บ่น
เกี่ยวกับความเจ็บปวดในข้อเท้าบาดเจ็บซึ่งถูกร้องเรียนสาขา

การร้องเรียนที่พบมากที่สุดที่สองคือ
ความรู้สึกของข้อเท้าไม่มั่นคง ( 20.4 % ของนักกีฬา )
ตามด้วยปลาทูแขกหางเหลืองของข้อต่อข้อเท้า ( 18.2 %
นักกีฬา ) และจุดอ่อน ( 16.5% ของนักกีฬา )
ข้อเท้าได้รับบาดเจ็บ บาดเจ็บข้อเท้าเคล็ด

ได้แบ่งออกเป็นสามกลุ่มย่อยเพื่อการวิเคราะห์อาการต่างๆ

ในความสัมพันธ์กับความถี่ของการ : กลุ่ม 1 - 149 ข้อเท้าที่ได้รับเฉพาะ
เคล็ดครั้ง กลุ่มที่ 2 - 290 ข้อเท้าเคล็ด 2
4 ครั้ง และกลุ่มที่ 3 - 124 ข้อเท้าเคล็ด หรือ

5 ครั้ง พบว่าข้อเท้ามี
เฉพาะใด ๆเป็นแนวโน้มต่อเพิ่มในการร้องเรียนของ
อาการด้วยการเพิ่มจํานวนของ
เคล็ดขัดยอก ( รูปที่ 7 ) ตัวอย่างเช่นเพียง 9.4% ของข้อเท้า
ในกลุ่มที่ 1 มีอาการตกค้าง แต่ความไม่แน่นอนคือความไม่แน่นอน ,
บ่นสำหรับ 37.9 % ของข้อเท้า