Hypertrophic cardiomyopathyIf systo

Hypertrophic cardiomyopathy
If systolic ventricular function is preserved, pregnancy is generally well tolerated as the vasodilatory
effects of pregnancy are beneficial in patients without significant left ventricular outflow obstruction
[11]. However, atrial arrhythmias may occur as a result of increased atrial stretch and should be treated
promptly as they are not well tolerated because of diastolic dysfunction. The incidence of ventricular
arrhythmias and sudden cardiac death is not increased by pregnancy. Patients with significant outflow
tract obstruction, a history of ventricular arrhythmias and severe hypertrophy are at an increased risk of decompensation. Beta blockers may be used to reduce outflowtract obstruction and in the management
of arrhythmias. Patients with implantable defibrillators may undergo pregnancy provided that the
ventricular arrhythmias are adequately controlled. The highest risk period is around the time of delivery
and the first 48 h post partum as the rapid fluid shifts may precipitate heart failure and arrhythmias.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Cardiomyopathy แรกถ้าฟังก์ชัน systolic หัวใจไว้ ตั้งครรภ์อยู่โดยทั่วไปยอมรับอย่างดีเป็นการ vasodilatoryผลของการตั้งครรภ์มีประโยชน์ในผู้ป่วยที่ไม่มีสิ่งกีดขวางสำคัญกระแสหัวใจห้องล่างซ้าย[11] . อย่างไรก็ตาม ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะอาจเกิดขึ้นเป็นผลหัวใจเต้นยืดเพิ่มขึ้น และควรรักษาทันทีที่พวกเขาจะไม่ยอมรับอย่างดีเนื่องจากความผิดปกติ diastolic อุบัติการณ์ของหัวใจภาวะและฉับพลันหัวใจตายจะเพิ่มขึ้น โดยการตั้งครรภ์ ผู้ป่วยที่ มีกระแสสำคัญกีดขวางทางเดิน ประวัติของภาวะหัวใจห้องล่างและ hypertrophy รุนแรงได้เพิ่มความเสี่ยงของ decompensation เบต้าบล็อกเกอร์อาจใช้เพื่อลดการอุดตัน outflowtract และ ในการบริหารจัดการของภาวะ ปรุงเครื่องช็อกไฟฟ้าผู้ป่วยอาจทำให้การตั้งครรภ์การภาวะที่หัวใจมีควบคุมอย่างเพียงพอ รอบระยะเวลาความเสี่ยงสูงสุดคือรอบเวลาการจัดส่งและ 48 ชั่วโมงแรกลงคลอดเป็นกะอย่างรวดเร็วของเหลวอาจตกตะกอนหัวใจล้มเหลวและภาวะหัวใจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

cardiomyopathy Hypertrophic
หากการทำงานของหัวใจ systolic ถูกเก็บรักษาไว้, การตั้งครรภ์โดยทั่วไปยอมรับอย่างดีในฐานะ vasodilatory
ผลกระทบของการตั้งครรภ์จะเป็นประโยชน์ในผู้ป่วยที่ไม่มีนัยสำคัญมีกระเป๋าหน้าท้องด้านซ้ายไหลออกอุดตัน
[11] อย่างไรก็ตามภาวะหัวใจห้องบนอาจเกิดขึ้นเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นยืดหัวใจห้องบนและควรได้รับการรักษา
ทันทีที่พวกเขาจะไม่ได้รับการยอมรับอย่างดีเพราะความผิดปกติของ diastolic อุบัติการณ์ของกระเป๋าหน้าท้อง
ภาวะและความตายอย่างกะทันหันของหัวใจไม่ได้เพิ่มขึ้นจากการตั้งครรภ์ ผู้ป่วยที่มีการรั่วไหลอย่างมีนัยสำคัญ
การอุดตันทางเดิน, ประวัติศาสตร์ของภาวะมีกระเป๋าหน้าท้องและยั่วยวนรุนแรงที่มีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของ decompensation เบต้าอัพอาจจะถูกใช้เพื่อลดการอุดตันและ outflowtract ในการจัดการ
ภาวะ ผู้ป่วยที่มีเครื่องช็อกไฟฟ้า implantable อาจได้รับการตั้งครรภ์โดยมีเงื่อนไขว่า
ภาวะกระเป๋าหน้าท้องจะถูกควบคุมอย่างเพียงพอ ช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดคือช่วงเวลาของการจัดส่ง
และเป็นครั้งแรก 48 ชั่วโมงหลังคลอดเป็นกะของเหลวอย่างรวดเร็วอาจก่อให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวและภาวะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Hypertrophic cardiomyopathyถ้าหัวใจห้องล่างบีบตัวฟังก์ชันจะถูกรักษาไว้ การตั้งครรภ์โดยทั่วไปก็ยอมรับเป็น vasodilatoryผลของการตั้งครรภ์เป็นประโยชน์ในผู้ป่วยโดยไม่พบหัวใจห้องล่างซ้าย ซึ่งขัดขวาง[ 11 ] อย่างไรก็ตาม หัวใจห้องบนเต้นผิดจังหวะอาจเกิดขึ้นเป็นผลมาจากการยืดหัวใจเพิ่มขึ้น และควรได้รับการรักษาทันที ในขณะที่พวกเขาจะไม่ช่วยเพราะคลายตัวผิดปกติ อุบัติการณ์ของหัวใจเต้นผิดจังหวะ และหัวใจวายเฉียบพลัน ไม่เพิ่มขึ้น โดยการตั้งครรภ์ ผู้ป่วยที่สำคัญ :ทางเดินปัสสาวะอุดตัน ประวัติของการเต้นผิดจังหวะรุนแรงและมีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการปรวนแปร . ยาต้านเบต้าอาจจะใช้เพื่อลดการอุดตัน และ outflowtract ในการจัดการของการเต้นผิดจังหวะ ผู้ป่วยที่มีเครื่องช็อกไฟฟ้า implantable อาจมีการตั้งครรภ์ให้ว่าหัวใจเต้นผิดจังหวะอย่างเพียงพอในการควบคุม ระยะเวลาที่เสี่ยงสูงสุด คือ รอบเวลาของการส่ง48 ชั่วโมงแรกหลังคลอดและหลังเป็นอย่างรวดเร็วของเหลวกะอาจตกตะกอนหัวใจวายและเต้นผิดจังหวะ