Peer ReadingResearch shows that whe

Peer Reading
Research shows that when applied to reading, Reciprocal Learning can
play a major role in helping students read and summarize difficult passages
(Hashey & Connors, 2003). This application of the strategy is
called Peer Reading, and it is especially useful in helping students overcome
the reading challenges typically associated with textbooks and
dense nonfiction writing: too many details, difficulty in separating the
essential from the nonessential information, or no sense of the overall
structure of the text.
Peer Reading involves seven steps:
1. Select a reading and break it up into manageable sections.
2. For each section, create a question or a set of questions that will
require a pair of students (Reader A and Reader B) to summarize the section.
For example, 4th grade teacher Paul Costas developed this set of
questions for a reading called “Surviving Everest.”
∘ Section 1 Questions (for Reader A)
What factors make Mount Everest so dangerous to climb?
How do climbers survive with so little oxygen?
∘ Section 2 Question (for Reader B)
What are the effects of the jet stream on climbers who reach the
top of Mount Everest?

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เพื่อนอ่านจากการวิจัยพบว่า เมื่อใช้กับการอ่าน การเรียนรู้ซึ่งกันและกันสามารถมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้นักเรียนอ่าน และสรุปทางเดินยาก(Hashey & Connors, 2003) โปรแกรมประยุกต์นี้ของกลยุทธ์คือเรียกว่าเพียร์อ่าน และเป็นประโยชน์ในการช่วยนักเรียนที่เอาชนะความอ่านมักจะเกี่ยวข้องกับตำรา และเขียน nonfiction หนาแน่น: รายละเอียด ความยากลำบากในการแยกมากเกินไปสำคัญจากข้อมูลที่ไม่จำเป็น หรือไม่มีความรู้สึกโดยรวมโครงสร้างของข้อความขั้นตอนที่ 7 อ่านเพียร์ที่เกี่ยวข้องกับ:1. เลือกการอ่านหนังสือ และแบ่งว่าส่วนที่จัดการ2. สำหรับแต่ละส่วน สร้างคำถามหรือชุดของคำถามที่จะต้องเป็นคู่ของนักเรียน (อ่าน A และ B อ่าน) สรุปส่วนตัวอย่าง เกรด 4 อาจารย์ Paul Costas พัฒนาชุดนี้คำถามสำหรับการอ่านที่เรียกว่า "Surviving เอเวอเรสต์"คำถาม 1 ส่วน∘ (สำหรับอ่าน A)ปัจจัยอะไรทำให้เมาท์เอเวอเรสต์เป็นอันตรายเพื่อปีนวิธีทำไคล์มเบอร์สจึงรอด มีออกซิเจนน้อยมากคำถาม 2 ส่วน∘ (สำหรับอ่าน B)อะไรคือผลกระทบของกระแส jet บนไคล์มเบอร์สที่ถึงด้านบนของภูเขาเอเวอเรสต์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Peer อ่าน
วิจัยแสดงให้เห็นว่าเมื่อนำไปใช้กับการอ่านการเรียนรู้ซึ่งกันและกันสามารถ
มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้นักเรียนอ่านและสรุปทางเดินที่ยากลำบาก
(Hashey และคอนเนอร์ 2003) การใช้กลยุทธ์นี้จะ
เรียกว่าเพียร์อ่านและจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยให้นักเรียนเอาชนะ
ความท้าทายการอ่านมักจะเกี่ยวข้องกับตำราและ
การเขียนสารคดีหนาแน่น: รายละเอียดมากเกินไปความยากลำบากในการแยก
ที่สำคัญจากข้อมูลที่ไม่จำเป็นหรือความรู้สึกของความไม่ โดยรวม
. โครงสร้างของข้อความที่
เกี่ยวข้องกับการอ่าน Peer เจ็ดขั้นตอน:
1 เลือกอ่านและทำลายมันได้เป็นส่วนจัดการได้.
2 สำหรับแต่ละส่วนให้สร้างคำถามหรือตั้งคำถามที่จะ
ต้องมีคู่ของนักเรียน (อ่านและอ่าน B) เพื่อสรุปส่วน.
ยกตัวอย่างเช่นครูเกรด 4 พอล Costas พัฒนาชุดนี้
คำถามสำหรับการอ่านที่เรียกว่า "รอดตาย เอเวอร์เรส. "
∘มาตรา 1 คำถาม (สำหรับผู้อ่าน)
ปัจจัยอะไรที่ทำให้ภูเขาเอเวอร์เรดังนั้นอันตรายที่จะปีนขึ้นไป?
นักปีนเขาอยู่รอดอย่างไรกับออกซิเจนเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อ?
∘ส่วนที่ 2 คำถาม (สำหรับผู้อ่าน B)
อะไรคือผลกระทบของเจ็ตสตรีมในนักปีนเขา ที่เข้าถึง
ด้านบนของภูเขาเอเวอร์เรส?

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพื่อนอ่าน
การวิจัยแสดงให้เห็นว่าเมื่อใช้กับการอ่านการเรียนรู้ซึ่งกันและกันสามารถ
มีบทบาทในการช่วยให้นักเรียนอ่านและสรุปยากหัวข้อ
( hashey &คอนเนอร์ , 2003 ) โปรแกรมนี้ของกลยุทธ์นี้คือ
เรียกเพื่อนอ่านและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยให้คนเอาชนะความท้าทายที่โดยทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับการอ่าน

เขียนตำราและหนาแน่น : สารคดีรายละเอียดมากเกินไป ความยากในการแยก
สรุปจากข้อมูลที่ไม่จำเป็นหรือไร้สาระของโครงสร้างโดยรวม

เพื่อนของข้อความ อ่าน เกี่ยว กับ เจ็ดขั้นตอน :
1 เลือกอ่านหนังสือและทำลายมันลงในที่ง่ายส่วน .
2 สำหรับแต่ละส่วนสร้างคำถามหรือชุดของคำถามที่จะ
ต้องคู่ของนักเรียน ( อ่านและอ่าน B )
สรุปส่วนตัวอย่างเช่นครูเกรด 4 พอลค่า พัฒนาชุดของ
คำถามนี้สำหรับการอ่านที่เรียกว่า " รอดตาย เอเวอเรสต์ " คำถาม
∘มาตรา 1 ( สำหรับผู้อ่าน )
ปัจจัยอะไรทำให้ยอดเขาเอเวอเรสต์ที่อันตรายมากที่จะปีน ?
ทำไมเลื้อยรอดมีออกซิเจนน้อย ? ส่วน
∘ 2 คำถาม ( อ่าน B )
อะไรคือผลกระทบของเจ็ทสตรีมบนไม้เลื้อยที่เข้าถึง
ด้านบนของภูเขาเอเวอร์เรส ?