Pathogenesis: Pathogenesis Encysted

Pathogenesis:
Pathogenesis Encysted larval stages generally do not cause clinical disease in domestic livestock as they are often confined to visceral tissues. However, significant pathological changes occur in humans when the slowly-growing cysts put pressure on surrounding tissues and produce chronic space-occupying lesions Cysts may grow around 1 mm per month and can become extremely large, up to 30cm in diameter with litres of fluid containing thousands of protoscoleces . Organ enlargement may be accompanied by a variety of clinical signs depending on the size and location of the cysts.
Compression of liver may result in jaundice, portal hypertension and abdominal distention. Cysts in the lung may cause haemoptysis (coughing up blood), dyspnoea (difficulty breathing) and chest pain. Cysts in the brain or spinal cord can provoke acute inflammatory responses and numerous neurological sequalae , including epilepsy and blindness. Cyst rupture has been associated with acute clinical signs (such as peritonitis and pneumothorax ), and the sudden release of hydatid fluid may cause severe allergic reactions (such as asthma and anaphylactic shock). Protoscoleces released from ruptured cysts can regress and form new hydatid cysts throughout the body.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พยาธิกำเนิด: ระยะ larval Encysted พยาธิกำเนิดโดยทั่วไปไม่ทำให้คลินิกโรคในปศุสัตว์ในประเทศพวกเขามักจะขังให้เนื้อเยื่ออวัยวะภาย อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงทางพยาธิวิทยาที่สำคัญเกิดขึ้นในมนุษย์เมื่อซีสต์เติบโตช้าทำให้ความดันในเนื้อเยื่อโดยรอบ และผลิตเรื้อรังมีพื้นที่ได้ซีสต์อาจเติบโตประมาณ 1 มม.ต่อเดือน และสามารถกลายเป็นขนาดใหญ่มาก สูง 30 ซม.เส้นผ่านศูนย์กลางกับลิตรของน้ำมันที่ประกอบด้วย protoscoleces พัน ขยายขนาดอวัยวะอาจจะมาพร้อมกับความหลากหลายของอาการทางคลินิกขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งของซีสต์ การบีบอัดของตับอาจทำ jaundice เดชพอร์ทัล และ distention ท้อง ซีสต์ที่ปอดอาจทำให้เกิด haemoptysis (ไอค่าเลือด), dyspnoea (การหายใจยาก) และเจ็บหน้าอก ซีสต์ในสมองหรือสันหลังสามารถกระตุ้นการตอบสนองการอักเสบเฉียบพลันและมาย sequalae ระบบประสาท โรคลมชักและตาบอด ถุงแตกแล้วสัมพันธ์กับอาการทางคลินิกเฉียบพลัน (เช่น peritonitis และ pneumothorax), และปล่อยของเหลว hydatid ฉับพลันอาจทำให้แพ้รุนแรง (เช่นโรคหอบหืดและช็อก anaphylactic) Protoscoleces ออกจากซีสต์พุ่งกระฉูดสามารถถดถอย และฟอร์มใหม่ hydatid ซีสต์ทั่วร่างกาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทำให้เกิดโรค:
โรค encysted ขั้นตอนตัวอ่อนมักจะไม่ก่อให้เกิดโรคทางคลินิกในสัตว์ในประเทศที่พวกเขามักจะถูกคุมขังไปยังเนื้อเยื่ออวัยวะภายใน อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญทางพยาธิสภาพที่เกิดขึ้นในมนุษย์เมื่อซีสต์ที่เติบโตอย่างช้า ๆ สร้างแรงกดดันต่อเนื้อเยื่อรอบและผลิตพื้นที่ครอบครองเรื้อรัง Cysts แผลอาจเติบโตประมาณ 1 มิลลิเมตรต่อเดือนและจะกลายเป็นขนาดใหญ่มากถึง 30 ซมเส้นผ่าศูนย์กลางลิตรของของเหลวที่มี พัน protoscoleces อวัยวะขยายตัวอาจจะมาพร้อมกับความหลากหลายของอาการขึ้นอยู่กับขนาดและที่ตั้งของซีสต์
อัดของตับอาจส่งผลให้โรคดีซ่านพอร์ทัลดันโลหิตสูงและอาการท้องอืด ซีสต์ในปอดอาจทำให้เกิด haemoptysis (ไอเลือดขึ้นไป), หายใจลำบาก (หายใจลำบาก) และอาการเจ็บหน้าอก ซีสต์ในสายสมองหรือไขสันหลังสามารถกระตุ้นการตอบสนองการอักเสบเฉียบพลันและ sequalae ระบบประสาทรวมทั้งโรคลมชักและตาบอด ถุงแตกมีความเกี่ยวข้องกับอาการเฉียบพลัน (เช่นเยื่อบุช่องท้องและ pneumothorax) และปล่อยฉับพลันของของเหลว hydatid อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้อย่างรุนแรง (เช่นโรคหอบหืดและช็อก) Protoscoleces ปล่อยออกมาจากซีสต์แตกสามารถถอยหลังและรูปแบบซีสต์ hydatid ใหม่ทั่วร่างกาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พยาธิกำเนิดพยาธิสภาพ พระเวสสันดร :
ตัวอ่อนระยะโดยทั่วไปจะไม่ก่อให้เกิดโรคทางคลินิกในปศุสัตว์ในประเทศที่พวกเขาจะมักจะถูกคุมขังไปยังเนื้อเยื่อกระปี้กระเป่า อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงทางพยาธิวิทยาที่สำคัญเกิดขึ้นในมนุษย์เมื่อเติบโตช้าซีสต์กดดันเนื้อเยื่อรอบและเรื้อรังพื้นที่ครอบครองแผลซีสต์อาจเติบโตประมาณ 1 มิลลิเมตรต่อเดือนและสามารถกลายเป็นที่มีขนาดใหญ่ถึง 30 ซม. ในเส้นผ่าศูนย์กลางกับลิตรของของเหลวที่มีหลายพัน protoscoleces . ขยายอวัยวะอาจจะมาพร้อมกับความหลากหลายของอาการทางคลินิกขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งของการขจัดเชื้อจุลินทรีย์ได้
อัดตับอาจทำให้เกิดดีซ่าน ความดันโลหิตสูงพอร์ทัลและอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ซีสต์ในปอด อาจทำให้ประเทศสาธารณรัฐมาดากัสการ์ ( ไอเป็นเลือด )ทำเป็นเล่น ( หายใจลำบาก ) และเจ็บหน้าอก ซีสต์ในสมองหรือไขสันหลังสามารถกระตุ้นการตอบสนองการอักเสบเฉียบพลันและระบบประสาท sequalae มากมายรวมทั้งโรคลมชัก และตาบอด ซีสต์แตก มีความสัมพันธ์กับอาการทางคลินิก ( เช่น ปอดอักเสบ และสัญญาณ )และปล่อยอย่างฉับพลันของ hydatid ของเหลวที่อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้รุนแรง เช่น โรคหืด และช็อก anaphylactic ) protoscoleces ออกจากซีสต์แตกสามารถถอยหลังและฟอร์มซีสต์ hydatid ใหม่ตลอดร่างกาย .