The most characteristic North Ameri

The most characteristic North American fashion trend from the 1930s to the end of World War II was attention at the arm, with butterfly sleeves and banjo sleeves, and exaggerated shoulder pads for both men and women by the 1940s. The period also saw the first widespread use of man-made fibers, especially rayon for dresses and viscose for linings and lingerie, and synthetic nylon stockings. The zipper became widely ignored. These essentially U.S. developments were echoed, in varying degrees, in Britain and Europe. Suntans (called at the time "sunburns"[citation needed]) became fashionable in the early 1930s, along with travel to the resorts along the Mediterranean, in the Bahamas, and on the east coast of Florida where one can acquire a tan, leading to new categories of clothes: white dinner jackets for men and beach pajamas, halter tops, and bare midriffs for women.[1][2]

Fashion trendsetters in the period included The Prince of Wales (King Edward VIII from January 1936 until his abdication that December) and his companion Wallis Simpson (the Duke and Duchess of Windsor from their marriage in June 1937), socialites like Nicolas de Gunzburg, Daisy Fellowes and Mona von Bismarck and such Hollywood movie stars as Fred Astaire, Carole Lombard and Joan Crawford.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนวโน้มแฟชั่นอเมริกาเหนือลักษณะส่วนใหญ่จากช่วงทศวรรษ 1930 การสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่สองมีความสนใจที่แขน แขนผีเสื้อแขนไวโอลิน และแผ่นรองไหล่ exaggerated สำหรับทั้งชายและหญิง โดยทศวรรษ 1940 โดย รอบระยะเวลายังเห็นแรกแพร่หลายใช้เส้นใยที่มนุษย์สร้างขึ้น เรยองโดยเฉพาะสำหรับชุดและ viscose linings ชุดชั้นใน และถุงน่องไนลอนสังเคราะห์ อย่างกว้างขวางกลายเป็นละเว้นซิป เหล่านี้เป็นหลักสหรัฐฯ พัฒนาก็ได้พูดย้ำ ในองศาที่แตกต่าง ในสหราชอาณาจักรและยุโรป Suntans (เรียกในเวลา "sunburns" [ต้องการอ้างอิง]) กลายเป็นแฟชั่นใน 1930 ต้น พร้อมเดินทางไปยังรีสอร์ทตามแนวเมดิเตอร์เรเนียน มาย และในภาคตะวันออก ชายฝั่งฟลอริดาซึ่งสามารถได้รับที่ตาล นำประเภทใหม่ของเสื้อผ้า: สีขาวเย็นเสื้อสำหรับผู้ชาย และชายหาดนอน ฟั่น midriffs ท็อปส์ และเปลือยสำหรับผู้หญิง [1] [2]Trendsetters แฟชั่นในรอบระยะเวลารวมปริ๊นซ์ออฟเวลส์ (คิงเอ็ดเวิร์ด VIII จาก 1936 มกราคมจนเขาวิกฤตการณ์สละราชสมบัติที่ธันวาคม) และสหายของเขาวาลลิซิมป์สัน (ดยุคและดัชเชสแห่งวินด์เซอร์จากการแต่งงานในเดือนมิถุนายนปีค.ศ. 1937), อีกเช่น Nicolas de Gunzburg, Fellowes เดซี่ และโมฟอนบิสมาร์ค และดาวเช่นภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดแอ สแตร์ Fred ลอมบาร์ ด Carole และโจนครอฟอร์ด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ลักษณะแนวโน้มแฟชั่นมากที่สุดในอเมริกาเหนือจากช่วงทศวรรษที่ 1930 การสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่สองเป็นความสนใจที่แขนแขนผีเสื้อและแขนแบนโจและโอ้อวดไหล่สำหรับทั้งชายและหญิงโดยปี 1940 ระยะเวลาที่ยังเห็นการใช้อย่างแพร่หลายแรกของเส้นใยที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับชุดเรยอนและเหนียวสำหรับวัสดุบุผิวและชุดชั้นในและถุงน่องไนลอนสังเคราะห์ ซิปกลายเป็นไม่สนใจกันอย่างแพร่หลาย เหล่านี้เป็นหลักการพัฒนาสหรัฐถูกสะท้อนในองศาที่แตกต่างในสหราชอาณาจักรและยุโรป Suntans (เรียกว่าในเวลา "sunburns" [อ้างจำเป็น]) กลายเป็นแฟชั่นในช่วงทศวรรษที่ 1930 ต้นพร้อมกับการเดินทางไปยังรีสอร์ทริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในบาฮามาสและบนชายฝั่งตะวันออกของฟลอริด้าที่หนึ่งสามารถได้รับน้ำตาลที่นำ ประเภทใหม่ของเสื้อผ้า:. แจ็คเก็ตอาหารค่ำสีขาวสำหรับผู้ชายและชุดนอนชายหาด, ท็อปส์ซูเชือกแขวนคอและ midriffs เปลือยสำหรับผู้หญิง [1] [2] แฟชั่นเทรนด์ในช่วงเวลารวมเจ้าชายแห่งเวลส์ (King Edward VIII จากมกราคม 1936 จนถึงการสละราชสมบัติของเขา ที่ธันวาคม) และสหายของเขาวาลลิสซิมป์สัน (ดยุคและดัชเชสแห่งวินด์เซอร์ของพวกเขาจากการแต่งงานในเดือนมิถุนายน 1937) socialites เหมือนนิโคลัสเดอ Gunzburg, เฟลเดซี่และโมนาฟอนบิสมาร์กและดาราหนังฮอลลีวู้ดเช่นเฟร็ดแอสแตร์แคโรลลอมบาร์ดและโจแอนนาครอว์ฟ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มากที่สุดลักษณะของอเมริกาเหนือเทรนด์แฟชั่นจากปี 1930 ถึงการสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่สองคือความสนใจที่แขน แขนผีเสื้อ แขน แบนโจ และแผ่นรองไหล่ที่พูดเกินจริงสำหรับทั้งชายและหญิง โดยอังกฤษ ระยะเวลายังเห็นการใช้อย่างแพร่หลายของเส้นใยที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับชุดและ viscose เรยอง linings สำหรับและ ชุดชั้นในและถุงน่องไนลอนสังเคราะห์ซิปก็ไม่สนใจอย่างกว้างขวาง การพัฒนาหลักของเหล่านี้ถูกสะท้อนในองศาที่แตกต่าง ในอังกฤษและยุโรป suntans ( เรียกในเวลา " sunburns " [ อ้างอิงที่จำเป็น ] ) กลายเป็นแฟชั่นในทศวรรษ 1930 พร้อมกับเดินทางไปรีสอร์ทริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ในบาฮามาส และบนชายฝั่งตะวันออกของรัฐฟลอริดาที่หนึ่งสามารถได้รับ Tan ไปสู่ประเภทใหม่ของเสื้อผ้า :เสื้อแจ็คเก็ตสีขาวอาหารเย็นสำหรับผู้ชายและหาดชุดนอนตัวท่อน และกะบังลมเปลือยสำหรับผู้หญิง [ 1 ] [ 2 ]

แฟชั่นเทรนด์ในช่วงรวมเจ้าชายแห่งเวลส์ ( King Edward VIII จากมกราคม 2479 จนกว่าการสละราชบัลลังก์ที่ธันวาคม ) และสหายของเขา วอลลิส ซิมป์สัน ( ดยุคและดัชเชสแห่งวินด์เซอร์จากการแต่งงานของพวกเขา ในมิถุนายน 2480 ) เช่น Nicolas de Gunzburg socialites ,เดซี่เฟลโลว์สโมนาฟอนบิสมาร์คและเช่นภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดดาว เช่น เฟรด แอสแตร์ แคโรลลอมบาร์ดและ โจนครอว์ฟอร์ด