2.2. Content-based language activit

2.2. Content-based language activities
The course consists of 17 units; each of the units includes 7 parts aimed at development of all four language skills: reading, speaking, listening and writing. The content of the course exactly corresponds to the structure of the course of calculus: it starts with the short history of maths and birth of calculus; then, it describes the differentiation and integration notions; introduces limits and complex numbers; deals with multivariable calculus; pays attention on differential equations and, finally, discusses the applications of calculus in real life. Such order of the material is familiar to the students and it makes them feel free, comfortable and experience no stress being accustomed to the topics of the course book. Each unit begins with an epigraph related to the topic. For example, the very first unit opens with a quotation of mathematician Ian Stewart: “Numbers seem very simple and straightforward, but appearances are deceptive” (Stewart, 2008). It is an open exercise: the students are welcome to express their own opinion about the phrase, agree or disagree with it or just explain what the author meant to say. This kind of activity depends on the initial level of the group, their openness and allows the teacher to tune the group for further work. The first thing a teacher should do at the beginning of a class is a warm-up activity aimed at finding out what learners already know about the topic and what they know about the language of the topic (Dale & Tanner, 2012).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2.2. เนื้อหาภาษาที่ใช้กิจกรรมหลักสูตรประกอบด้วย 17 ชุด แต่ละหน่วยประกอบด้วย 7 parts มุ่งพัฒนาทักษะทั้งสี่ภาษา: การอ่าน การพูด การฟัง และการเขียน เนื้อหาของหลักสูตรว่าสอดคล้องกับโครงสร้างของหลักสูตรของแคลคูลัส: เริ่ม ด้วยประวัติย่อของคณิตศาสตร์และกำเนิดของแคลคูลัส จากนั้น มันอธิบายความแตกต่างและรวมความเข้าใจ แนะนำข้อจำกัดและจำนวนเชิงซ้อน กับ multivariable แคลคูลัส น้อในสมการ และ ในที่สุด กล่าวถึงการใช้งานของแคลคูลัสในชีวิตจริง ใบสั่งของวัสดุดังกล่าวมีความคุ้นเคยให้กับนักเรียน และช่วยให้พวกเขารู้สึกสะดวกสบาย ฟรี และพบความเครียดไม่ได้คุ้นเคยกับหัวข้อของหนังสือเรียน แต่ละหน่วยเริ่มต้น ด้วย epigraph เกี่ยวข้องกับหัวข้อ ตัวอย่างเช่น หน่วยแรกเปิด ด้วยใบเสนอราคาของนักคณิตศาสตร์เอียนสจ๊วต: "ตัวเลขที่ดูเหมือนง่ายมาก และตรงไปตรงมา แต่มีลักษณะเป็นหลอกลวง" (สจ๊วต 2008) มันเป็นการออกกำลังกายที่เปิด: นักเรียนจะแสดงความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับวลี เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยกับมัน หรือเพียงแค่อธิบายสิ่งที่ผู้เขียนหมายถึง การพูด กิจกรรมประเภทนี้ขึ้นอยู่กับระดับเริ่มต้นของกลุ่ม การเปิดกว้าง และช่วยให้ครูสามารถปรับกลุ่มสำหรับการทำงานเพิ่มเติม สิ่งแรกที่ครูควรทำที่จุดเริ่มต้นของคลาสที่เป็นกิจกรรมอุ่นเครื่องที่หาเรียนแล้วรู้อะไรเกี่ยวกับหัวข้อและสิ่งที่พวกเขารู้เกี่ยวกับภาษาของหัวข้อ (Dale และแทนเนอร์ 2012)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2.2 กิจกรรมภาษาตามเนื้อหา
หลักสูตรประกอบด้วย 17 หน่วย แต่ละหน่วยมี 7 ชิ้นส่วนที่มุ่งพัฒนาทุกทักษะสี่ภาษา: การอ่านการพูดการฟังและการเขียน เนื้อหาของหลักสูตรว่าสอดคล้องกับโครงสร้างของหลักสูตรของแคลคูลัส: มันเริ่มต้นด้วยประวัติสั้น ๆ ของคณิตศาสตร์และการเกิดของแคลคูลัส; แล้วก็อธิบายถึงความแตกต่างและบูรณาการความคิด; แนะนำข้อ จำกัด และตัวเลขที่ซับซ้อน ข้อตกลงกับแคลคูลัสหลายตัวแปร; ให้ความสำคัญในสมการเชิงอนุพันธ์และสุดท้ายกล่าวถึงการใช้งานของแคลคูลัสในชีวิตจริง คำสั่งดังกล่าวของวัสดุที่เป็นที่คุ้นเคยให้กับนักเรียนและมันทำให้พวกเขารู้สึกฟรีที่สะดวกสบายและสัมผัสกับความเครียดไม่ถูกคุ้นเคยกับหัวข้อของหนังสือเล่มนี้แน่นอน แต่ละหน่วยเริ่มต้นด้วยบทที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ ยกตัวอย่างเช่นหน่วยแรกที่เปิดขึ้นพร้อมกับคำพูดของนักคณิตศาสตร์เอียนสจ๊วต: "ตัวเลขดูเหมือนง่ายมากและตรงไปตรงมา แต่ปรากฏหลอกลวง" (สจ๊วต 2008) มันคือการออกกำลังกายแบบเปิด: นักเรียนจะยินดีที่จะแสดงความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับวลีที่ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับมันหรือเพียงแค่อธิบายสิ่งที่ผู้เขียนหมายถึงว่า ชนิดของกิจกรรมนี้ขึ้นอยู่กับระดับเริ่มต้นของกลุ่มการเปิดกว้างของพวกเขาและช่วยให้ครูที่จะปรับแต่งกลุ่มสำหรับการทำงานต่อไป สิ่งแรกที่ครูควรจะทำอย่างไรที่จุดเริ่มต้นของการเรียนที่เป็นกิจกรรมที่อบอุ่นขึ้นมุ่งเป้าไปที่การค้นหาสิ่งที่เรียนรู้อยู่แล้วว่าเกี่ยวกับหัวข้อและสิ่งที่พวกเขารู้เกี่ยวกับภาษาของหัวข้อ (Dale และแทนเนอร์, 2012)