Exchange to Change. Too often, we b

Exchange to Change. Too often, we become complacent in the safety of our own classrooms and within the confines of our own subject. To shake things up a bit, and to foster more cross-pollination, I would set up an internal exchange programme to take place at regular intervals. This could be in the form of one teacher teaching another teacher’s classes within the same subject, or (even better) teaching a different subject. To my mind, this would give staff many fertile ideas for collaboration, as well as giving them a little more empathy with the challenges associated with teaching a different class or subject.

12. Dismissing Belittling. All teachers are aware of the scourge of students bullying one another. However, quite a few are not attuned to how subtle bullying can really be, and they allow it to happen right under their noses. But what’s worst is that some teachers still employ undisguised threats as a ‘motivational tactic’, as well as insidiously bullying their students. In line with the type of education I would want my school to offer, no teacher may consciously insult or belittle a student. Telling my students that bullying is unacceptable means nothing if teachers can get away with it.

13. Boys and Girls and Brains. I have addressed the issue of how schools are failing boys in a previous post. For me, it is perhaps one of the biggest (and least addressed) problems with our current schooling system. (See the full post here.) Most boys learn differently to most girls, and if they are not taught differently, their self-esteem suffers massively. This is not about gender stereotypes, it is about brains. There is a reason that boys generally do better than girls in only the practical subjects like IT and Science. In essence, the reason is that unless they are actively engaged, most male brains go into a sort of ‘screen-saver’ mode. And because many teachers only teach the way girls prefer, boys tend to under-perform and cannot understand why. They then are berated and encouraged to ‘try harder’. A disturbingly large number of boys simply cannot understand why they cannot achieve better, and so begin to internalise this failure. Sometimes with tragic consequences. To address this, I would create ‘girl-heavy’ and ‘boy-heavy’ classes in Grade 8 and 9, allowing for the fact that some students may not fit the trend. (How to do this without causing offense might be a matter to challenge my staff with solving.) I would require teachers to adapt their approaches to ensure that they cater specifically for the dominant brain-based learning preferences of their classes.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แลกเปลี่ยนการเปลี่ยนแปลง บ่อยเกินไป เราจะประมาทในความปลอดภัย ของห้องเรียนของเราเอง และในเรื่องของเราเอง เขย่าสิ่งบิต และ การส่งเสริมการผสมเกสรข้ามเพิ่มเติม ฉันจะตั้งค่าโปรแกรมแลกเปลี่ยนภายในการใช้สถานที่อย่างสม่ำเสมอ นี้อาจเป็นในรูปของอาจารย์สอนชั้นเรียนของครูอื่น ใน เรื่องเดียวกัน หรือ (ยิ่งขึ้น) สอนเรื่องอื่น ฉัน นี้จะให้พนักงานหลายไอเดียที่อุดมสมบูรณ์สำหรับทำงานร่วมกัน ตลอดจนให้ความเอาใจใส่กับความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับสอนชั้นอื่นหรือเรื่องการ12. ปิด Belittling ทั้งหมดครูรับทราบถึงการระบาดของนักเรียนกลั่นแกล้งคนอื่น อย่างไรก็ตาม ค่อนข้างน้อยจะไม่เพราะวิธีกลั่นแกล้งละเอียดจริง ๆ สามารถ และที่จะให้มันเกิดขึ้นภายใต้จมูกของพวกเขา แต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือ ครูบางคนใช้การยังคงคุกคาม undisguised เป็น 'กลยุทธ์สร้างแรงบันดาลใจ' ร้ายกาจกลั่นแกล้งนักศึกษา สอดคล้องกับชนิดของการศึกษาที่ต้องการให้โรงเรียนของฉัน ครูไม่รู้ตัวอาจดูหมิ่น หรือดูถูกนักเรียน บอกนักเรียนว่าแกล้งเป็นวิธีที่ยอมรับอะไรถ้าครูสามารถได้รับไปกับมัน13. ชาย และหญิง และสมอง ฉันได้รับปัญหาของวิธีโรงเรียนไม่ชายในภายหลัง สำหรับฉัน ก็อาจเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ที่สุด (และจ่าน้อย) กับระบบการศึกษาปัจจุบัน (ดูโพสต์เต็มที่นี่) เด็กส่วนใหญ่เรียนผู้หญิงส่วนใหญ่แตกต่างกัน และถ้าพวกเขาจะไม่สอนแตกต่างกัน ความนับถือตนเองของพวกเขาทนทุกข์ทรมานอย่างหนาแน่น ไม่เกี่ยวกับเพศตน มันเป็นเรื่องของสมอง มีเหตุผลที่เด็กผู้ชายทั่วไปทำดีกว่าสาว ๆ ในเฉพาะวิชาปฏิบัติและวิทยาศาสตร์ สำคัญ เหตุผลคือ ว่า จนกว่าพวกเขาอย่างแข็งขัน สมองชายใหญ่ไปของโหมด 'โปรแกรมรักษาหน้าจอ' และเนื่องจากครูหลายคนสอนวิธีสาวต้องการเท่านั้น เด็กชายมักจะ ทำ ภายใต้ และไม่เข้าใจว่าทำไม แล้ว berated และส่งเสริมให้ 'พยายามหนัก' จำนวนมาก disturbingly ของเด็กก็ไม่เข้าใจทำไมพวกเขาไม่สามารถให้ และดังนั้น เริ่มที่จะ internalise ความล้มเหลวนี้ บางครั้งก็ มีผลกระทบที่น่าเศร้า เม ฉันจะสร้าง 'สาวหนัก' และ 'เด็กหนัก' เรียนเกรด 8 และ 9 สำหรับความจริงที่ว่า นักเรียนบางคนอาจไม่พอดีแนวโน้ม (วิธีการนี้ไม่ก่อให้เกิดการกระทำความผิดอาจจะเป็นเรื่องที่พนักงานของฉันการแก้) ฉันจะต้องมีครูปรับเปลี่ยนวิธีการเพื่อให้แน่ใจว่า จะรองรับโดยเฉพาะสำหรับการกำหนดลักษณะหลักสมองเรียนของชั้นเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Exchange เพื่อเปลี่ยน บ่อยครั้งที่เราจะกลายเป็นที่พึงพอใจในความปลอดภัยของห้องเรียนของเราเองและอยู่ในขอบเขตของเรื่องของเราเอง จะเขย่าบิตและเพื่อส่งเสริมให้เกิดมากขึ้นการผสมเกสรข้ามผมจะตั้งค่าโครงการแลกเปลี่ยนภายในจะใช้สถานที่ในช่วงเวลาปกติ ซึ่งอาจเป็นในรูปแบบของครูคนเดียวเรียนการสอนของครูอื่นในเรื่องเดียวกันหรือ (ดียิ่งขึ้น) การเรียนการสอนเป็นเรื่องที่แตกต่างกัน ในใจของฉันนี้จะให้ความคิดที่อุดมสมบูรณ์หลายพนักงานสำหรับการทำงานร่วมกันเช่นเดียวกับการให้พวกเขาเอาใจใส่เล็ก ๆ น้อย ๆ กับความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนระดับที่แตกต่างหรือเรื่อง. 12 ยกฟ้องดูแคลน ครูทุกคนมีความตระหนักในการระบาดของนักเรียนกลั่นแกล้งอีกคนหนึ่ง แต่ค่อนข้างน้อยไม่ได้ปรับตัวให้เข้ากับวิธีการข่มขู่ที่ลึกซึ้งจริงๆสามารถและพวกเขาก็ให้มันเกิดขึ้นใต้จมูกของพวกเขา แต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือการที่ครูบางคนยังคงจ้างภัยคุกคามออกนอกหน้าเป็น 'สร้างแรงบันดาลใจชั้นเชิง' เช่นเดียวกับร้ายกาจข่มขู่นักเรียนของพวกเขา สอดคล้องกับประเภทของการศึกษาที่ฉันต้องการที่โรงเรียนของฉันที่จะนำเสนอครูไม่มีสติอาจดูถูกดูแคลนหรือนักเรียน บอกนักเรียนของฉันว่าการข่มขู่ที่ยอมรับไม่ได้หมายความว่าไม่มีอะไรถ้าครูสามารถรับไปกับมัน. 13 เด็กชายและเด็กหญิงและสมอง ฉันได้รับการแก้ไขปัญหาของเด็กผู้ชายว่าโรงเรียนมีความล้มเหลวในการโพสต์ก่อนหน้านี้ สำหรับผมมันอาจจะเป็นหนึ่งในที่ใหญ่ที่สุด (และอย่างน้อยจ่าหน้า) ปัญหาเกี่ยวกับระบบการศึกษาของเราในปัจจุบัน (ดูโพสต์เต็มรูปแบบที่นี่.) ชายส่วนใหญ่เรียนรู้ที่แตกต่างกันกับสาวมากที่สุดและถ้าพวกเขาไม่ได้สอนที่แตกต่างกันภาคภูมิใจในตนเองของพวกเขาทนทุกข์ทรมานอย่างหนาแน่น นี้ไม่เกี่ยวกับแบบแผนเพศมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับสมอง มีเหตุผลที่ผู้ชายมักจะดีกว่าสาว ๆ เฉพาะในวิชาปฏิบัติชอบและวิทยาศาสตร์เป็น ในสาระสำคัญเหตุผลก็คือจนกว่าพวกเขาจะทำงานอย่างแข็งขันส่วนใหญ่สมองชายไปสู่การจัดเรียงของ 'ในโหมดโปรแกรมรักษาหน้าจอ' a และเนื่องจากครูจำนวนมากเพียง แต่สอนวิธีการที่สาว ๆ ต้องการเด็กผู้ชายมีแนวโน้มที่จะอยู่ภายใต้การดำเนินการและไม่เข้าใจว่าทำไม จากนั้นพวกเขาจะถูกตำหนิและเป็นกำลังใจให้กับ "พยายามให้หนักขึ้น ' จำนวนมากรำคาญเด็กก็ไม่สามารถเข้าใจว่าทำไมพวกเขาไม่สามารถบรรลุได้ดีขึ้นและเพื่อให้เริ่มต้นที่จะ internalize ความล้มเหลวนี้ บางครั้งก็มีผลกระทบที่น่าเศร้า จะอยู่ที่นี่ฉันจะสร้าง 'สาวหนัก' และ 'เด็กหนัก' ชั้นเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 8 และ 9 เพื่อให้ความจริงที่ว่านักเรียนบางคนอาจไม่พอดีกับแนวโน้ม (วิธีการทำเช่นนี้ไม่ก่อให้เกิดการกระทำผิดกฎหมายอาจจะเป็นเรื่องที่จะท้าทายพนักงานของฉันกับการแก้.) ฉันจะต้องมีครูที่จะปรับตัวเข้ากับวิธีการของพวกเขาเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาให้ความสำคัญมาโดยเฉพาะสำหรับการตั้งค่าการเรียนรู้ของสมองตามที่โดดเด่นของการเรียนของพวกเขา