Tomatoes are often considered a veg

Tomatoes are often considered a vegetable, though in actuality they are a citrus fruit. Tomatoes are an incredibly versatile food. They are delicious eaten raw, in salads or on sandwiches, and take on a wonderful sweetness when cooked. Their high acid content makes them a perfect food for canning. Tomatoes are such an important part of the American diet that it’s hard to believe that they were once considered toxic. It wasn’t until the mid 1800’s that they became a staple food in the U.S.

One medium whole tomato contains around 22 calories, 0 grams of fat, 5 grams of carbohydrates, 1 gram of dietary fiber, 1 gram of protein and 6 milligrams of sodium. It also provides 40 percent of the recommended daily allowance of vitamin C, 20 percent of the RDA of vitamin A, 2 percent of the RDA of iron, and 1 percent of the RDA of calcium. Here are some of the health benefits of tomatoes.

 Ward off CancerNumerous studies have concluded that the more tomatoes people eat the lower their risks of certain cancers, especially lung, stomach and prostate cancers.  A substance called lycopene, which is responsible for tomatoes red color, is thought to be the reason for this cancer protective effect. Processed tomatoes contain even more lycopene than raw ones. The process of cooking breaks down the cell walls, helping to release the lycopene. Eating tomatoes with a little bit of fat, such as olive oil, helps lycopene to be better absorbed by the body.

 Prevent DNA DamageTomatoes are high in important antioxidants such as vitamin C and Vitamin A. These vitamins work to fend of DNA damage from free radicals. Consequently, tomatoes may help to ward off age related diseases such as atherosclerosis and diabetes.

 Reduce the Risk of Heart DiseaseTomatoes contain important nutrients, such as niacin, folate and vitamin B6, that have associated with the reduction of heart disease risk. One study found that women who ate 7 to 10 servings of tomato products per week had a 29 percent lower risk of cardiovascular disease than women who consumed less than a serving and a half of tomato products each week. Results were even more impressive when the women ate oil-rich tomato products.

  Protect Against ThrombosisAnother study showed that drinking 8 ounces of tomato juice daily reduced platelet aggregation significantly, among study subjects. Those drinking a placebo showed no benefit. It’s important to drink low-sodium tomato juice if you are trying to protect against thrombosis (blood clots in the blood vessel) , as high sodium levels can causenegative effects for this type of disease.

 Ward off InflammationA double blind study found that drinking a glass of tomato juice a day can reduce blood levels of TNF-alpha by 34 percent. TNF-alpha causes inflammation. High levelshave been found in individuals with most chronic, degenerative diseases such as heart disease, cancer, osteoporosis and Alzheimer’s.

 

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มะเขือเทศมักจะถือว่าผัก แม้ใน actuality มีผลไม้ส้ม มะเขือเทศเป็นอาหารหลากหลายอย่างเหลือเชื่อ จะอร่อยกินดิบ สลัด หรือแซนวิช และใช้ในความหวานหอมวิเศษเมื่อหุงสุก เนื้อหาของกรดสูงทำให้พวกเขาอาหารที่สมบูรณ์แบบสำหรับกระป๋อง มะเขือเทศดังกล่าวเป็นส่วนสำคัญของอาหารอเมริกันซึ่งยากที่จะเชื่อว่า พวกเขาได้เมื่อถือเป็นพิษ ได้ มันไม่ได้จนถึง 1800's กลางว่า จะกลายเป็นอาหารหลักในสหรัฐอเมริกามะเขือเทศทั้งกลางหนึ่งประกอบด้วยประมาณ 22 แคลอรี่ 0 กรัมของไขมัน 5 กรัมของคาร์โบไฮเดรต กากใย 1 กรัม ของโปรตีน และ milligrams 6 ของโซเดียม 1 กรัม มันยังมีร้อย ละ 40 ของเบี้ยเลี้ยงประจำวันการแนะนำของวิตามินซี ร้อย ละ 20 ของ RDA ของวิตามิน A, 2 ร้อยละของ RDA ของเหล็ก และ 1 เปอร์เซ็นต์ของ RDA ของแคลเซียม นี่คือบางส่วนของประโยชน์ต่อสุขภาพของมะเขือเทศ จากการศึกษา CancerNumerous ได้สรุปว่า คนมะเขือเทศมากกินที่ต่ำกว่าความเสี่ยงของโรคมะเร็งบาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปอด กระเพาะอาหาร และมะเร็งต่อมลูกหมาก สารที่เรียกว่า lycopene ซึ่งรับผิดชอบสีแดงมะเขือเทศ เป็นความคิดเป็น เหตุผลสำหรับการนี้มีผลป้องกันโรคมะเร็ง ประมวลผลมะเขือเทศประกอบด้วย lycopene ยิ่งกว่าคนดิบ การปรุงอาหารแบ่งผนังเซลล์ ช่วยปล่อย lycopene กินมะเขือเทศเล็กของไขมัน เช่นน้ำมันมะกอก ช่วย lycopene เพื่อจะดูดซึม โดยร่างกายดีขึ้น ป้องกันไม่ให้ DamageTomatoes ดีเอ็นเอเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญเช่นวิตามินซีและวิตามินเอสูง วิตามินเหล่านี้ทำงานเพื่อปัดเป่าความเสียหายของ DNA จากอนุมูลอิสระ ดังนั้น มะเขือเทศอาจช่วยไล่อายุที่เกี่ยวข้องกับโรคหลอดเลือดและโรคเบาหวานได้ ลดความเสี่ยงของหัวใจ DiseaseTomatoes ประกอบด้วยสารอาหารสำคัญ ไนอาซิน โฟเลต และวิตามินบี 6 ที่ได้เชื่อมโยงกับการลดความเสี่ยงโรคหัวใจ การศึกษาหนึ่งพบว่า ผู้หญิงที่กิน 7-10 กระปุกของมะเขือเทศต่อสัปดาห์ มี 29 เปอร์เซ็นต์ต่ำเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดมากกว่าผู้หญิงที่บริโภคน้อยกว่าการให้บริการและครึ่งของมะเขือเทศแต่ละสัปดาห์ ผลลัพธ์น่าประทับใจมากยิ่งขึ้นเมื่อผู้หญิงกินผลิตภัณฑ์มะเขือเทศอุดมไปด้วยน้ำมัน การศึกษาปกป้องกับ ThrombosisAnother พบว่า ออนซ์ 8 ดื่มของมะเขือเทศน้ำรวมเกล็ดเลือดลดลงทุกวันอย่างมีนัยสำคัญ ผู้ศึกษาวิชา ผู้ที่ดื่มยาหลอกพบว่าไม่มีประโยชน์ จึงควรดื่มน้ำมะเขือเทศโซเดียมต่ำถ้าคุณพยายามที่จะป้องกันเลือด (เลือด clots ในเส้นเลือด), ระดับโซเดียมสูงสามารถลักษณะพิเศษ causenegative สำหรับชนิดของโรค ไล่คนตาบอดสอง InflammationA ที่ศึกษาพบว่า ดื่มแก้วน้ำมะเขือเทศวันสามารถลดระดับเลือดของ TNF-อัลฟา 34 เปอร์เซ็นต์ TNF alpha ทำให้อักเสบ Levelshave สูงถูกพบในบุคคลที่มีโรคเรื้อรังมากที่สุด เสื่อมเช่นโรคหัวใจ มะเร็ง โรคกระดูกพรุน และการ เสื่อมของ 

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มะเขือเทศมักจะคิดว่าผัก แต่ในความเป็นจริงพวกเขาเป็นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว มะเขือเทศเป็นอาหารได้หลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อ พวกเขาจะอร่อยรับประทานดิบในสลัดหรือแซนวิชและใช้เวลาในความหวานที่ยอดเยี่ยมเมื่อสุก ปริมาณกรดสูงของพวกเขาทำให้พวกเขาเป็นอาหารที่สมบูรณ์แบบสำหรับการบรรจุกระป๋อง มะเขือเทศเป็นเช่นเป็นส่วนสำคัญของอาหารอเมริกันว่ามันยากที่จะเชื่อว่าพวกเขากำลังพิจารณาครั้งเป็นพิษ มันไม่ได้จนกว่ากลางปี ​​1800 ที่พวกเขากลายเป็นอาหารหลักในสหรัฐอเมริกาหนึ่งมะเขือเทศขนาดกลางทั้งหมดมีประมาณ 22 แคลอรี่ 0 กรัมไขมัน 5 กรัมของคาร์โบไฮเดรต 1 กรัมใยอาหาร 1 กรัมของโปรตีนและ 6 มิลลิกรัม โซเดียม นอกจากนี้ยังมี 40 เปอร์เซ็นต์ของเบี้ยเลี้ยงแนะนำของวิตามิน C, ร้อยละ 20 ของ RDA ของวิตามิน A, ร้อยละ 2 ของ RDA ของเหล็กและร้อยละ 1 ของ RDA ของแคลเซียม นี่คือบางส่วนของประโยชน์ต่อสุขภาพของมะเขือเทศ.  ปัด CancerNumerous ศึกษาได้ข้อสรุปว่ามะเขือเทศผู้คนมากขึ้นกินที่ต่ำกว่าความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิดปอดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระเพาะอาหารและมะเร็งต่อมลูกหมาก สารที่เรียกว่าไลโคปีนซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับมะเขือเทศสีแดงคิดว่าจะเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งนี้ผลการป้องกัน มะเขือเทศมีไลโคปีนการประมวลผลมากยิ่งขึ้นกว่าคนดิบ กระบวนการของการปรุงอาหารแบ่งลงผนังเซลล์เพื่อช่วยปล่อยไลโคปีน การรับประทานมะเขือเทศที่มีนิด ๆ หน่อย ๆ ของไขมันเช่นน้ำมันมะกอกจะช่วยให้ไลโคปีนจะถูกดูดซึมได้ดีขึ้นโดยร่างกาย.  DamageTomatoes ป้องกันดีเอ็นเอมีความสูงในสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญเช่นวิตามินซีและวิตามินเอวิตามินเหล่านี้ทำงานเพื่อป้องกันความเสียหายของดีเอ็นเอจากฟรี อนุมูล ดังนั้นมะเขือเทศอาจช่วยปัดโรคที่เกี่ยวข้องกับอายุเช่นหลอดเลือดและโรคเบาหวาน.  ลดความเสี่ยงของ DiseaseTomatoes หัวใจมีสารอาหารที่สำคัญเช่นไนอาซินโฟเลตและวิตามินบี 6 ที่มีความสัมพันธ์กับการลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ การศึกษาพบว่าผู้หญิงที่กิน 7-10 เสิร์ฟของผลิตภัณฑ์มะเขือเทศต่อสัปดาห์มีความเสี่ยงร้อยละ 29 ลดลงของโรคหัวใจและหลอดเลือดมากกว่าผู้หญิงที่บริโภคน้อยกว่าการให้บริการและครึ่งหนึ่งของผลิตภัณฑ์มะเขือเทศในแต่ละสัปดาห์ ผลการวิจัยพบได้น่าประทับใจมากขึ้นเมื่อผู้หญิงที่กินมะเขือเทศอุดมไปด้วยน้ำมัน.   ป้องกันการศึกษา ThrombosisAnother แสดงให้เห็นว่าการดื่ม 8 ออนซ์ของน้ำมะเขือเทศทุกวันลดเกล็ดเลือดอย่างมีนัยสำคัญในกลุ่มที่ศึกษา ผู้ที่ดื่มยาหลอกแสดงให้เห็นว่าไม่มีประโยชน์ มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะดื่มน้ำมะเขือเทศโซเดียมต่ำถ้าคุณกำลังพยายามที่จะป้องกันการเกิดลิ่มเลือด (เลือดอุดตันในเส้นเลือด) สูงถึงระดับโซเดียมสามารถ causenegative ผลกระทบสำหรับประเภทของโรคนี้.  ปัด InflammationA คู่ศึกษาคนตาบอดพบว่าการดื่มแก้ว น้ำมะเขือเทศวันสามารถลดระดับเลือดของ TNF-alpha ร้อยละ 34 TNF-alpha ทำให้เกิดการอักเสบ levelshave สูงถูกพบในบุคคลที่มีโรคเรื้อรังส่วนใหญ่โรคความเสื่อมเช่นโรคหัวใจ, โรคมะเร็ง, โรคกระดูกพรุนและเสื่อม













 

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มะเขือเทศอะไรมักจะถือว่าเป็นผัก แต่ในความเป็นจริงพวกเขาเป็นส้มผลไม้ มะเขือเทศเป็นอาหารชิ้นเอนกประสงค์ พวกเขาจะอร่อยรับประทานดิบ , สลัดหรือแซนด์วิช และใช้เวลาในความหวานที่ยอดเยี่ยมเมื่อสุก กรดสูง ทำให้เป็นอาหารที่สมบูรณ์แบบสำหรับการบรรจุกระป๋องมะเขือเทศเป็นเช่นเป็นส่วนสำคัญของอาหารอเมริกันว่า มันยากที่จะเชื่อ ที่พวกเขาเคยถือว่าเป็นพิษ มันไม่ได้จนกว่าจะถึงกลางปี 1800 ที่พวกเขากลายเป็นอาหารหลักในสหรัฐอเมริกา

ขนาดกลางหนึ่งทั้งมะเขือเทศที่มีรอบ 22 แคลอรี่ , 0 กรัม ไขมัน 5 กรัมของคาร์โบไฮเดรต 1 กรัมของเส้นใยอาหาร 1 กรัมของโปรตีนและ 6 มิลลิกรัมของโซเดียมนอกจากนี้ยังมีร้อยละ 40 ของเบี้ยเลี้ยงแนะนำของวิตามินทุกวัน 20 เปอร์เซ็นต์ของ RDA ของวิตามิน A , 2 เปอร์เซ็นต์ของ RDA ของเหล็ก และ 1 เปอร์เซ็นต์ของ RDA ของแคลเซียม นี่คือบางส่วนของประโยชน์ต่อสุขภาพของมะเขือเทศ

ทำไมปัด cancernumerous การศึกษาสรุปได้ว่า ประชาชนมากกว่ามะเขือเทศกินลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางอย่าง โดยเฉพาะปอดกระเพาะอาหาร และมะเร็งต่อมลูกหมาก . ทำไมสารที่เรียกว่า ไลโคปีน ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับมะเขือเทศสีแดง , เป็นความคิดที่จะเป็นเหตุผลนี้มะเร็งป้องกันผลกระทบ มะเขือเทศมีไลโคปีนแปรรูปมากกว่าดิบที่ กระบวนการของการปรุงอาหารทำลายลงผนังเซลล์ ช่วยปล่อยไลโคปีน . กินมะเขือเทศกับ เป็น เล็กน้อยของไขมัน เช่น น้ำมันมะกอกช่วยให้ไลโคปีนดีกว่า ดูดซึมโดยร่างกาย

อะไรป้องกัน DNA damagetomatoes สูงเป็นสำคัญสารต้านอนุมูลอิสระเช่นวิตามิน C และวิตามิน A วิตามินเหล่านี้ทำงานเพื่อป้องกันความเสียหายของ DNA จากอนุมูลอิสระ .  ดังนั้น มะเขือเทศจะช่วยปัด อายุ โรคที่เกี่ยวข้อง เช่น หลอดเลือด และเบาหวาน

ไหม ลดความเสี่ยง หัวใจ diseasetomatoes ประกอบด้วยสารอาหารที่สำคัญ ,เช่น โฟเลตและวิตามินบี 6 ไนอาซิน ที่เกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงโรคหัวใจอะไรเหรอ . การศึกษาหนึ่งพบว่าผู้หญิงที่กิน 7-10 เสิร์ฟของมะเขือเทศผลิตภัณฑ์ต่อสัปดาห์มี 29 เปอร์เซ็นต์ ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดมากกว่าผู้หญิงที่บริโภคน้อยกว่าการให้บริการและครึ่งหนึ่งของผลิตภัณฑ์ในแต่ละสัปดาห์ มะเขือเทศผลที่ได้น่าประทับใจมากขึ้นเมื่อผู้หญิงกินผลิตภัณฑ์มะเขือเทศริช

  ป้องกัน thrombosisanother การศึกษาแสดงให้เห็นว่าการดื่ม 8 ออนซ์ของน้ำมะเขือเทศทุกวัน ลดการจับกลุ่มของเกล็ดเลือดอย่างมากในวิชาเรียน ผู้ที่ดื่มยาหลอกพบว่าไม่มีผลประโยชน์มันสำคัญมากที่จะดื่มน้ำมะเขือเทศโซเดียมต่ำถ้าคุณพยายามที่จะป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน ( เกิดลิ่มเลือดในเส้นเลือด ) เป็นระดับอะไรโซเดียมสูงไหมสามารถ causenegative รึเปล่าผลสำหรับโรคชนิดนี้

ทำไมปัด inflammationa คนตาบอดสอง พบว่า การดื่มน้ำมะเขือเทศ 1 แก้ว ต่อวันสามารถลดเลือด   ระดับของ TNF อัลฟาโดย 34 เปอร์เซ็นต์ TNF alpha เป็นสาเหตุของการอักเสบทำไมสูง levelshave ถูกพบในบุคคลที่มีโรคเรื้อรังส่วนใหญ่เป็นโรคเสื่อม เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง โรคกระดูกพรุน และอัลไซเมอร์ รึเปล่า