Rice straw, one of the most abundan

Rice straw, one of the most abundant and mainly unused lignocellulosic wastes, is a promising substratefor ethanol production. To improve ethanol production yield from the straw, pretreatment with sodiumcarbonate at mild conditions followed by fermentation using zygomycetes fungus Mucor hiemalis wasperformed.The sodium carbonate treatment was conducted at different concentrations, time intervals,and solid loadings. The highest glucose and ethanol production yields were obtained after the pretreat-ment with 0.5 M sodium carbonate at 100◦C and 1:20 g/g solid loading for 3 h. This pretreatment removedmore than 90% of silica from the straw and improved the enzymatic hydrolysis yield from 35% to 100%.Afterward, ethanol was produced by simultaneous saccharification and fermentation (SSF) from the pre-treated straw at 37◦C using M. hiemalis, and the results were compared with SSF using Saccharomycescerevisiae.The results showed that ethanol yield was improved by more than 40% under the optimumconditions and the yield was higher using M. hiemalis. Thus, the fungus could be a suitable alternative toS. cerevisiae for ethanol production from lignocellulosic wastes.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฟางข้าว หนึ่งอุดมสมบูรณ์มากที่สุด และส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้ lignocellulosic ขยะ การผลิตเอทานอล substratefor สัญญา เพื่อปรับปรุงการผลิตเอทานอล ผลตอบแทนจากฟาง pretreatment ด้วย sodiumcarbonate ที่เงื่อนไขอ่อนตาม ด้วยวิธีการหมักโดยใช้เชื้อรา zygomycetes Mucor hiemalis wasperformed มีดำเนินการรักษาโซเดียมคาร์บอเนตที่ความเข้มข้นแตกต่างกัน ช่วงเวลา และทึบ loadings สูงที่สุดจากกลูโคสและเอทานอลผลิตผลผลิตได้รับหลังการ pretreat-ติดขัดด้วย 0.5 M โซเดียมคาร์บอเนตที่ 100◦C และ 1:20 g/g แข็งโหลดสำหรับ 3 h Removedmore pretreatment นี้กว่า 90% ของซิลิกาจากฟาง และปรับปรุงไฮโตรไลซ์เอนไซม์ในระบบผลตอบแทนจาก 35% เป็น 100% หลัง เอทานอลถูกผลิตโดย saccharification พร้อมหมัก (SSF) จากฟางก่อนบำบัดที่ 37◦C ใช้ hiemalis เมตร และผลลัพธ์ได้เมื่อเทียบกับ SSF ใช้ Saccharomycescerevisiae.The ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่า ผลผลิตเอทานอลได้ดีขึ้นกว่า 40% ภายใต้การ optimumconditions และจากผลตอบแทนสูงโดยใช้ hiemalis ม. ดังนั้น เชื้อราอาจเป็น toS ทางเลือกเหมาะสม cerevisiae สำหรับผลิตเอทานอลจากกาก lignocellulosic

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฟางข้าวซึ่งเป็นหนึ่งในความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดและส่วนใหญ่เสียลิกโนเซลลูโลสที่ไม่ได้ใช้เป็นผลิตเอทานอ substratefor แนวโน้ม เพื่อเพิ่มผลผลิตเอทานอลจากการผลิตฟางปรับสภาพด้วย sodiumcarbonate ในภาวะที่ไม่รุนแรงตามมาด้วยการหมักโดยใช้เชื้อรา Mucor zygomycetes hiemalis wasperformed.The รักษาโซเดียมคาร์บอเนตได้ดำเนินการที่ความเข้มข้นที่แตกต่างกันในช่วงเวลาและแรงที่เป็นของแข็ง กลูโคสสูงสุดและอัตราผลตอบแทนการผลิตเอทานอลที่ได้รับหลังจากที่ Pretreat-ment 0.5 M โซเดียมคาร์บอเนตที่100◦Cและ 01:20 กรัม / กรัมโหลดที่มั่นคงสำหรับ 3 ชั่วโมง removedmore ปรับสภาพนี้กว่า 90% ของซิลิกาจากฟางและปรับปรุงอัตราผลตอบแทนจากการย่อยโปรตีน 35% ถึง 100% .Afterward เอทานอลที่ผลิตโดย saccharification พร้อมกันและการหมัก (SSF) จากฟางก่อนรับการรักษาที่ใช้37◦Cเมตร hiemalis และผลการวิจัยเมื่อเทียบกับ SSF ใช้ผล Saccharomycescerevisiae.The แสดงให้เห็นว่าผลผลิตเอทานอลได้รับการปรับปรุงโดยกว่า 40% ภายใต้ optimumconditions และอัตราผลตอบแทนสูงโดยใช้เอ็ม hiemalis ดังนั้นเชื้อราอาจจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม TOS cerevisiae สำหรับการผลิตเอทานอลจากกากของเสียลิกโนเซลลูโลส

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฟางข้าว , หนึ่งที่มีมากที่สุดและส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้ lignocellulosic ของเสีย เป็นสัญญา substratefor การผลิตเอทานอล . เพื่อเพิ่มผลผลิตการผลิตเอทานอลจากฟางข้าว ปรับสภาพด้วยสารละลายโซเดียมคาร์บอเนตที่ไม่รุนแรง เงื่อนไขตามด้วยการหมักโดยใช้เชื้อรา zygomycetes มูเคอร์ ไฮ มาลิสและโซเดียม คาร์บอเนต การทดลองที่ความเข้มข้นต่าง ๆ เวลา ครั้งและการกระทำที่เป็นของแข็ง กลูโคสและเอธานอลสูงสุด ผลผลิตผลิตที่ได้รับหลังจาก pretreat ment 0.5 M โซเดียม คาร์บอเนตที่ 100 ◦ C และ 1 กรัม / กรัมของแข็ง 3 . การโหลดนี้ removedmore กว่า 90% ของซิลิกาจากฟางและเพิ่มเอนไซม์ผลผลิตจาก 35% ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ หลังจากนั้นเอทานอลที่ผลิตจากเส้นพร้อมกันและหมัก ( SSF ) สมัยก่อนถือว่าฟาง ที่ 37 ◦ C ใช้ม. hiemalis และผลลัพธ์ที่ได้ เมื่อเทียบกับการใช้ saccharomycescerevisiae SSF พบว่าผลผลิตเอทานอลลดลงมากกว่า 40% ภายใต้สภาวะและผลผลิตสูงกว่าการใช้ม. hiemalis . ดังนั้น เชื้อราอาจเป็นหัวข้อ ทางเลือกที่เหมาะสมโดยสำหรับการผลิตเอทานอลจากกาก lignocellulosic .