The cool science of hot peppersShin

The cool science of hot peppers
Shiny green slices of jalapeño pepper adorn a plate of nachos. Chomping into one of those innocent-looking chilies will make a person’s mouth explode with spicy fireworks. Some people dread and avoid the painful, eye-watering, mouth-searing sensation. Others love the burn.
“A quarter of the world’s population eats chilies every day,” notes Joshua Tewksbury. He is a biologist who spent 10 years studying wild chili peppers. He also happens to enjoy eating hot, spicy food.
Chili peppers do much more than burn people’s mouths. Scientists have discovered many uses for the chemical that gives these veggies their zing. Called capsaicin (Kap-SAY-ih-sin), it’s the main ingredient in pepper spray. Some people use this weapon for self-defense. The spray's high levels of capsaicin will burn the eyes and throats of attackers — but won’t kill people. In smaller doses, capsaicin can relieve pain, help with weight loss and possibly affect microbes in the gut to keep people healthier. Now how cool is that?
A taste for spice
Why would anyone willingly eat something that causes pain? Capsaicin triggers a rush of stress hormones. These will make the skin redden and sweat. It can also make someone feel jittery or energized. Some people enjoy this feeling. But there is another reason why chilies show up on dinner plates the world over. Hot peppers actually make food safer to eat.
When food sits out in warm weather, microbes on the food start to multiply. If people eat food with too many of these germs, they risk getting very sick. The cold temperature inside a refrigerator stops most microbes from growing. That’s why most people today rely on refrigerators to keep their food fresh. But long ago, those appliances weren’t available. Chilies were. Their capsaicin and other chemicals, it turns out, can slow or stop microbial growth. (Garlic, onion and many other cooking spices can, too.)
Before refrigerators, people living in most hot parts of the world developed a taste for spicy foods. Examples include hot Indian curries and fiery Mexican tamales. This preference emerged over time. The people who first added hot peppers to their recipes probably had no idea chilies could make their food safer; they just liked the stuff. But people who ate the spicy food tended to get sick less often. In time, these people would be more likely to raise healthy families. This led to populations of hot-spice lovers. People who came from cold parts of the world tended to stick with blander recipes. They didn’t need those spices to keep their food safe.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิทยาศาสตร์ของพริกเย็นเงาสีเขียวชิ้นพริก jalapeño ประดับจานนาโช่ เคี้ยวไปพริกเหล่านั้นดูไม่รู้เรื่องจะทำให้ปากของคนที่ระเบิดกับดอกไม้ไฟรสเผ็ด บางคนกลัว และหลีกเลี่ยงความรู้สึกเจ็บปวด ตารดน้ำ สุขภาพปาก คนรักการเขียน"หนึ่งในสี่ของประชากรโลกกินพริกทุกวัน หมายเหตุโจชัว Tewksbury เขาเป็นนักชีววิทยาที่ใช้เวลา 10 ปีศึกษาป่าพริก เขายังเกิดขึ้นกับการรับประทานอาหารร้อน เผ็ดพริกทำมากมากกว่าปากของคนเขียน นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบการใช้งานจำนวนมากสำหรับสารเคมีที่ทำให้ผักเหล่านี้ตน zing เรียกว่าแคปไซซิน (Kap-พูด-ih-sin), มันเป็นส่วนผสมหลักในสเปรย์พริกไทย บางคนใช้นี้อาวุธสำหรับป้องกันตนเอง ระดับสูงของสเปรย์ของแคปไซซินจะเขียนตาและคอของผู้โจมตี — แต่จะไม่ฆ่าคน ในปริมาณขนาดเล็ก แคปไซซินสามารถบรรเทาอาการปวด ช่วยลดน้ำหนัก และอาจจะมีผลต่อจุลินทรีย์ในลำไส้จะทำให้ท่านมีสุขภาพดี ตอนนี้ ว่าเย็นคือรสชาติเครื่องเทศทำไมทุกคนด้วยความเต็มใจรักสิ่งที่ทำให้เกิดความเจ็บปวด แคปไซซินก่อให้เกิดการวิ่งของฮอร์โมนความเครียด เหล่านี้จะทำให้ redden ผิว และเหงื่อ มันสามารถยังทำให้คนรู้สึกว่าภาพกระตุก หรือลุ้น บางคนสนุกกับความรู้สึกนี้ แต่มีอีกเหตุผลที่ทำไมพริกแสดงบนภาชนะของโลกผ่าน พริกจริงให้ปลอดภัยในการรับประทานอาหารเมื่ออาหารนั่งออกในสภาพอากาศอบอุ่น จุลินทรีย์บนอาหารเริ่มต้นคูณ ถ้าคนกินอาหารมากเกินไปของเชื้อโรคเหล่านี้ จะเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยมาก อุณหภูมิภายในตู้เย็นหยุดส่วนใหญ่จุลินทรีย์เติบโต ที่ว่าทำไมคนส่วนใหญ่วันนี้พึ่งตู้เย็นเพื่อเก็บอาหารสด แต่นานมาแล้ว เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้นไม่สามารถใช้ได้ พริกได้ ของแคปไซซินและสารเคมีอื่น ๆ มันเปิดออก สามารถชะลอ หรือหยุดการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ (กระเทียม หัวหอม และเครื่องเทศปรุงอาหารอื่น ๆ จำนวนมากสามารถ เกินไป)ก่อนเย็น คนที่อาศัยอยู่ในส่วนที่ร้อนมากที่สุดของโลกได้พัฒนารสชาติอาหารรสเผ็ด ตัวอย่างเช่นแกงอินเดียร้อนและ tamales เม็กซิกันคะนอง ลักษณะนี้เกิดขึ้นตลอดเวลา คนที่เพิ่มพริกไปสูตรของพวกเขามีพริกไม่คิดที่ จะทำให้อาหารปลอดภัย พวกเขาเพียงแค่ชอบสิ่ง แต่คนที่กินอาหารรสจัดมีแนวโน้มที่จะ ได้รับป่วยน้อย ในเวลา คนเหล่านี้จะมักจะยกครอบครัวสุขภาพดีขึ้น นี้นำไปสู่ประชากรของคนรักเครื่องเทศร้อน คนที่มาจากส่วนที่เย็นของโลกมีแนวโน้มติดกับสูตร blander พวกเขาไม่ต้องการเครื่องเทศเหล่านั้นเพื่อให้อาหารปลอดภัย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิทยาศาสตร์เย็นของพริกร้อน
ชิ้นสีเขียวเงาของพริกjalapeñoประดับจานของ nachos เคี้ยวเป็นหนึ่งในพริกบริสุทธิ์ที่ดูผู้ที่จะทำให้ปากของคนกับดอกไม้ไฟระเบิดเผ็ด บางคนกลัวและหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดตารดน้ำรู้สึกปากไหม้ อื่น ๆ รักการเผาไหม้.
"หนึ่งในสี่ของประชากรโลกกินพริกทุกวัน" บันทึกโจชัวทู เขาเป็นนักชีววิทยาที่ใช้เวลา 10 ปีเรียนพริกป่า นอกจากนี้เขายังเกิดขึ้นจะสนุกกับการกินร้อนอาหารรสเผ็ด.
พริกทำอะไรมากไปกว่าการเผาไหม้ปากของผู้คน นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบประโยชน์หลายอย่างสำหรับสารเคมีที่ช่วยให้ผักเหล่านี้ Zing ของพวกเขา เรียกว่า capsaicin (Kap-พูด IH-SIN) มันเป็นส่วนผสมหลักในสเปรย์พริกไทย บางคนใช้อาวุธนี้สำหรับการป้องกันตัวเอง ในระดับสูงสเปรย์ของ capsaicin จะเผาไหม้ดวงตาและลำคอของการโจมตี - แต่จะไม่ได้ฆ่าคน ในปริมาณที่มีขนาดเล็ก capsaicin สามารถบรรเทาอาการปวดช่วยให้มีการสูญเสียน้ำหนักและอาจส่งผลกระทบต่อจุลินทรีย์ในลำไส้เพื่อให้คนที่มีสุขภาพดี ตอนนี้วิธีที่เย็นคือ?
รสชาติเครื่องเทศสำหรับ
ทำไมทุกคนเต็มใจที่จะกินอะไรบางอย่างที่ทำให้เกิดอาการปวด? แคปไซซิทริกเกอร์วิ่งของฮอร์โมนความเครียด เหล่านี้จะทำให้ผิวแดงและเหงื่อ นอกจากนี้ยังสามารถทำให้คนรู้สึกกระวนกระวายใจหรือลุ้น บางคนเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกนี้ แต่มีเหตุผลที่ว่าทำไมพริกแสดงบนจานอาหารค่ำทั่วโลกอีก พริกเผ็ดจริงทำให้อาหารปลอดภัยในการกิน.
เมื่ออาหารนั่งออกมาในสภาพอากาศที่อบอุ่นจุลินทรีย์ในการเริ่มต้นอาหารคูณ ถ้าคนกินอาหารที่มีมากเกินไปของเชื้อโรคเหล่านี้พวกเขามีความเสี่ยงการป่วยมาก อุณหภูมิเย็นภายในตู้เย็นหยุดจุลินทรีย์มากที่สุดจากการเจริญเติบโต นั่นเป็นเหตุผลที่คนส่วนใหญ่ในวันนี้พึ่งพาตู้เย็นจะเก็บอาหารสดของพวกเขา แต่นานมาแล้วเครื่องใช้เหล่านั้นไม่สามารถใช้ได้ พริกเป็น capsaicin และสารเคมีอื่น ๆ ของพวกเขาก็จะเปิดออกสามารถชะลอหรือหยุดการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ (กระเทียมหอมใหญ่และหลายเครื่องเทศปรุงอาหารอื่น ๆ สามารถเกินไป.)
ก่อนที่ตู้เย็น, คนที่อาศัยอยู่ในส่วนที่ร้อนที่สุดของโลกที่พัฒนารสชาติอาหารเผ็ด ตัวอย่าง ได้แก่ แกงอินเดียร้อนและทะมาลีเม็กซิกันคะนอง การตั้งค่านี้โผล่ออกมาเมื่อเวลาผ่านไป คนที่แรกเพิ่มพริกสูตรของพวกเขาอาจจะมีความคิดที่ไม่มีพริกจะทำให้อาหารของพวกเขาปลอดภัยมากขึ้น; พวกเขาเพียงแค่สิ่งที่ชอบ แต่คนที่กินอาหารรสเผ็ดมีแนวโน้มที่จะได้รับการป่วยมักจะน้อย ในเวลาที่คนเหล่านี้จะมีแนวโน้มที่จะยกระดับครอบครัวมีสุขภาพดี นี้นำไปสู่ประชากรของคนรักร้อนเครื่องเทศ คนที่มาจากชิ้นส่วนเย็นของโลกมีแนวโน้มที่จะยึดติดอยู่กับสูตร blander พวกเขาไม่จำเป็นต้องเครื่องเทศเหล่านั้นเพื่อให้ปลอดภัยอาหารของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิทยาศาสตร์เย็นของพริกร้อนเงาสีเขียวชิ้น jalape á o พริกประดับจานอาหารเม็กซิกัน . การข่มขู่เป็นหนึ่งในบรรดาคนมองพริกจะทำให้ปากของคนเรา ระเบิดดอกไม้ไฟ เผ็ด บางคนกลัวและหลีกเลี่ยงความเจ็บปวด ตารดน้ำปากเพทนา searing . คนอื่นชอบเขียน" หนึ่งในสี่ของประชากรโลกกินพริกทุกวัน " tewksbury หมายเหตุ * . เขาเป็นนักชีววิทยาที่ใช้เวลา 10 ปี เรียนเสริมพริก . เขาอาจจะชอบกินร้อน อาหารรสเผ็ดพริกทำมากกว่าเผาปากของคนอื่น นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบ การใช้สารเคมีที่ช่วยให้ผักเหล่านี้ซิ้งของพวกเขามากมาย ที่เรียกว่า capsaicin ( คับว่าควรเป็นบาป มันเป็นส่วนผสมหลักในสเปรย์พริกไทย บางคนใช้อาวุธเพื่อป้องกันตัว ของสเปรย์ระดับสูงของแคปไซซิน จะทำลายดวงตาและลำคอของผู้โจมตี แต่จะไม่ฆ่าคน ในขนาดที่เล็กลง สารแคปไซซิน สามารถบรรเทาความเจ็บปวด ช่วยให้มีการสูญเสียน้ำหนักและอาจจะมีผลต่อจุลินทรีย์ในลำไส้เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพดี ตอนนี้ เจ๋งไหมล่ะสำหรับรสชาติของเครื่องเทศทำไมถึงมีใครเต็มใจที่จะกินบางอย่างที่ทำให้เกิดอาการปวด ? แคปไซซินกระตุ้นเร่งฮอร์โมนความเครียด เหล่านี้จะทำให้ผิวหนังเป็นสีแดง และเหงื่อ มันสามารถทำให้ใครบางคนรู้สึกกระวนกระวายใจหรือพลังงาน บางคนสนุกกับความรู้สึกนี้ แต่มันมีอีกเหตุผลหนึ่งว่าทำไมพริกแสดงขึ้นบนจานอาหารทั่วโลก พริกร้อนทำให้อาหารปลอดภัยที่จะกินเมื่ออาหารอยู่ในอากาศที่อบอุ่น , จุลินทรีย์ในอาหารเริ่มคูณ ถ้าคนที่กินอาหารที่มีมากเกินไปของเชื้อโรคเหล่านี้ พวกเขาเสี่ยงที่จะป่วยมาก อุณหภูมิความเย็นภายในตู้เย็นหยุดจุลินทรีย์มากที่สุดจากการเติบโต นั่นเป็นเหตุผลที่วันนี้คนส่วนใหญ่ใช้ตู้เย็นเก็บอาหารของพวกเขาสด แต่นานมาแล้ว เครื่องใช้เหล่านั้นไม่สามารถใช้ได้ . พริกมี ของแคปไซซินและสารเคมีอื่น ๆ ปรากฏว่า สามารถลด หรือหยุดการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ ( กระเทียม , หัวหอมและเครื่องเทศปรุงอาหารได้หลายอื่น ๆด้วย )ก่อนที่ตู้เย็น ผู้คนที่อาศัยอยู่ในส่วนที่ร้อนที่สุดของโลกพัฒนารสชาติเผ็ด ตัวอย่าง ได้แก่ แกงอินเดียร้อนและทามาคะนองเม็กซิกัน การตั้งค่านี้จะเกิดตลอดเวลา พวกแรก เพิ่มพริกกับสูตรของพวกเขาคงไม่มีความคิดจะทำให้พริกของอาหารปลอดภัย เขาก็ชอบนะ แต่คนที่กินเผ็ด มีแนวโน้มป่วยบ่อย ๆ ในเวลาที่คนเหล่านี้จะมีโอกาสมากขึ้นเพื่อยกระดับครอบครัวสุขภาพดี ทำให้ประชากรของคนรักเครื่องเทศร้อน ผู้คนที่มาจากส่วนเย็นของโลกมีแนวโน้มที่จะยึดติดกับสูตร blander . พวกเขาไม่ได้ต้องการเครื่องเทศเหล่านั้นเพื่อเก็บอาหารให้ปลอดภัย