After this, he heated up the virule

After this, he heated up the virulent disease to kill it and then injected it into a mouse. This time the animal survived as predicted. Last he injected non-virulent pneumonia and virulent pneumonia that had been heated and killed, into a mouse. This time the mouse died.

Griffith speculated that the killed virulent bacteria had passed on a characteristic to the non-virulent one to make it virulent. He believed this characteristic was in the inheritance molecule. This passing on of the inheritance molecule was what he called transformation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลังจากนี้ เขาร้อนขึ้นโรค virulent ฆ่ามันแล้ว ฉีดเข้าไปในเมาส์ เวลานี้สัตว์ที่รอดเป็นคาดการณ์ ล่าสุด เขาฉีด-virulent โรคปอดอักเสบและโรคปอดบวม virulent ที่อุ่น และถูกฆ่า ตาย เข้าไปในเมาส์ เมาส์เสียชีวิตครั้งนี้Griffith คาดว่า แบคทีเรีย virulent killed ได้ผ่านในลักษณะไป-virulent ทำ virulent เขาเชื่อว่า ลักษณะนี้คือในโมเลกุลสืบทอด นี้การส่งต่อของโมเลกุลสืบทอดสิ่งที่เขาเรียกว่าการเปลี่ยนแปลงได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลังจากนี้เขาร้อนขึ้นโรครุนแรงที่จะฆ่ามันแล้วฉีดลงในเมาส์ เวลานี้สัตว์ที่รอดชีวิตเป็นที่คาดการณ์ สุดท้ายที่เขาฉีดโรคปอดบวมที่ไม่รุนแรงและโรคปอดบวมรุนแรงที่ได้รับความร้อนและถูกฆ่าตายลงไปในเมาส์ คราวนี้เมาส์เสียชีวิต. กริฟฟิสันนิษฐานว่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดความรุนแรงได้ผ่านการฆ่าในลักษณะที่จะเป็นคนที่ไม่ใช่ความรุนแรงที่จะทำให้มันรุนแรง เขาเชื่อว่าลักษณะนี้อยู่ในโมเลกุลมรดก ผ่านในของโมเลกุลมรดกนี้คือสิ่งที่เขาเรียกว่าการเปลี่ยนแปลง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลังจากนี้ , เขาอุ่นขึ้น โรคร้ายแรง จะฆ่ามัน แล้วฉีดเข้าไปในหนู นี้สัตว์ที่รอดชีวิต ตามที่คาดการณ์ไว้ สุดท้ายเขาฉีดไม่รุนแรงและปอดบวมปอดบวมรุนแรงที่ได้รับความร้อนและถูกฆ่าตายในเมาส์ คราวนี้หนูจะตายกริฟฟิธ สันนิษฐานว่าเสียชีวิตรุนแรง แบคทีเรียได้ผ่านในลักษณะที่ไม่รุนแรงหนึ่งให้มันรุนแรง . เขาเชื่อว่าลักษณะนี้อยู่ในมรดกของโมเลกุล นี้ผ่านของโมเลกุลเป็นมรดกที่เขาเรียกการเปลี่ยนแปลง