Kandinsky's creation of abstract wo

Kandinsky's creation of abstract work followed a long period of development and maturation of intense thought based on his artistic experiences. He called this devotion to inner beauty, fervor of spirit, and spiritual desire inner necessity; it was a central aspect of his art.

Youth and inspiration (1866–1896)[edit]
Colorful abstract painting with buildings and a church in the background
Early-period work, Munich-Schwabing with the Church of St. Ursula (1908)
Kandinsky was born in Moscow, the son of Lidia Ticheeva and Vasily Silvestrovich Kandinsky, a tea merchant.[1][2] Kandinsky learned from a variety of sources while in Moscow. He studied many fields while in school, including law and economics. Later in life, he would recall being fascinated and stimulated by colour as a child. His fascination with colour symbolism and psychology continued as he grew. In 1889, he was part of an ethnographic research group which travelled to the Vologda region north of Moscow. In Looks on the Past, he relates that the houses and churches were decorated with such shimmering colours that upon entering them, he felt that he was moving into a painting. This experience, and his study of the region's folk art (particularly the use of bright colours on a dark background), was reflected in much of his early work. A few years later he first likened painting to composing music in the manner for which he would become noted, writing, "Colour is the keyboard, the eyes are the hammers, the soul is the piano with many strings. The artist is the hand which plays, touching one key or another, to cause vibrations in the soul".[3] Kandinsky was also the uncle of Russian-French philosopher Alexandre Kojève (1902-1968).

In 1896, at the age of 30, Kandinsky gave up a promising career teaching law and economics to enroll in the Munich Academy where his teachers would eventually include Franz von Stuck.[4] He was not immediately granted admission, and began learning art on his own. That same year, before leaving Moscow, he saw an exhibit of paintings by Monet. He was particularly taken with the impressionistic style of Haystacks; this, to him, had a powerful sense of colour almost independent of the objects themselves. Later, he would write about this experience:

That it was a haystack the catalogue informed me. I could not recognize it. This non-recognition was painful to me. I considered that the painter had no right to paint indistinctly. I dully felt that the object of the painting was missing. And I noticed with surprise and confusion that the picture not only gripped me, but impressed itself ineradicably on my memory. Painting took on a fairy-tale power and splendour.[5]

— Wassily Kandinsky
Kandinsky was similarly influenced during this period by Richard Wagner's Lohengrin which, he felt, pushed the limits of music and melody beyond standard lyricism.[citation needed] He was also spiritually influenced by Madame Blavatsky (1831–1891), the best-known exponent of theosophy. Theosophical theory postulates that creation is a geometrical progression, beginning with a single point. The creative aspect of the form is expressed by a descending series of circles, triangles and squares. Kandinsky's book Concerning the Spiritual In Art (1910) and Point and Line to Plane (1926) echoed this theosophical tenet. Illustrations by John Varley in Thought Forms (1901) influenced him visually.[6]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สร้างสรรค์งานนามธรรมของ Kandinsky ตามระยะเวลาที่ยาวนานของการพัฒนา และพ่อแม่ของรุนแรงคิดว่า ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ทางศิลปะ เขาเรียกว่าความจงรักภักดีนี้เพื่อความงามภายใน fervor จิตใจ และความต้องการด้านจิตวิญญาณภายในความจำเป็น ด้านกลางของงานศิลปะของเขาได้เยาวชนและแรงบันดาลใจ (1866-1896) [แก้ไข]ภาพวาดนามธรรมสีสันอาคารและโบสถ์ในพื้นหลังช่วงระยะเวลาทำงาน มิวนิคชวาบิงกับคริสตจักรของเซนต์กิเกนเทส (1908)Kandinsky เกิดในมอสโก บุตรของ Lidia Ticheeva Vasily Silvestrovich Kandinsky มีร้านค้าชา [1] [2] Kandinsky ได้เรียนรู้จากแหล่งในมอสโก เขาศึกษาฟิลด์หลายฟิลด์ในโรงเรียน กฎหมายและเศรษฐศาสตร์ ในชีวิต ในภายหลังเขาจะเรียกคืนการหลง และถูกกระตุ้น โดยสีที่เป็นเด็ก เสน่ห์ของเขา ด้วยสัญลักษณ์สีและจิตวิทยาอย่างต่อเนื่อง ตามที่เขาเติบโต ในจาก 1889 เขาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มวิจัย ethnographic ซึ่งเดินทางไปภูมิภาค Vologda มอสโก ในลักษณะในอดีต เขาเกี่ยวข้องกับที่ บ้านและคริสตจักรถูกตกแต่ง ด้วยสีพรายดังกล่าวว่า เมื่อป้อน เขารู้สึกว่า เขาถูกย้ายไปยังภาพวาด ประสบการณ์นี้ และศึกษาศิลปะพื้นบ้านของภูมิภาคนี้ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สีสดใสบนพื้นหลังสีเข้ม), มีผลมากในงานของเขาก่อน ไม่กี่ปีต่อมาเขาแรก likened จิตรกรรมการเขียนเพลงในลักษณะที่เขาจะกลายเป็นบันทึก เขียน "แป้นพิมพ์เป็นสี ตามีค้อน วิญญาณเป็นเปียโน ด้วยหลายสาย ศิลปินคือ ผู้ที่เล่น สัมผัสหนึ่งคีย์หรืออื่น ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนในจิตวิญญาณ" [3] Kandinsky ยังเป็นลุงของนักปราชญ์ฝรั่งเศสรัสเซียภัณฑ์อเล็กซานเดอร์ Kojève (1902-1968)ใน 1896 อายุ 30, Kandinsky ได้สัญญาอาชีพสอนกฎหมายและเศรษฐศาสตร์เพื่อลงทะเบียนในออสการ์มิวนิคที่ครูเขาจะรวมฟรานซ์ฟอน Stuck ในที่สุด [4] เขาได้ไม่ทันทีรับสมัคร และเริ่มเรียนศิลปะในตน ในปีเดียวกัน ก่อนออกจากมอสโก เขาเห็นงานนิทรรศการชื่อภาพเขียนโดยโมเนต์ เขาถูกนำโดยเฉพาะอย่างยิ่งสไตล์ impressionistic ของเกรดอาวุธ นี้ เขาได้ความรู้สึกมีประสิทธิภาพสีเกือบอิสระของวัตถุเอง ภายหลัง จะเขียนเกี่ยวกับประสบการณ์นี้:ก็มหาสมุทรแคตตาล็อกแจ้งผม ผมไม่รู้จักมัน นี้ไม่ใช่การจดจำความเจ็บปวดให้ฉันได้ พิจารณาว่า จิตรกรที่มีสิทธิไม่สีเลา ๆ ผม dully รู้สึกว่า วัตถุของภาพหายไป และฉันพบกับความประหลาดใจและสับสนว่า ภาพไม่เพียง gripped ฉัน แต่ประทับใจตัวเอง ineradicably หน่วยความจำของฉัน ภาพวาดเอาไฟ fairy-tale และภาส [5]— Wassily Kandinskyในทำนองเดียวกัน Kandinsky ได้รับในช่วงเวลานี้ โดยโลเฮ็นกรินริชาร์ดวากเนอร์ที่ เขารู้สึก ผลักดันขีดจำกัดของเพลงและเมโลดี้เกินมาตรฐาน lyricism [ต้องการอ้างอิง] นอกจากนี้ยังพบเขาได้รับอิทธิพลจากมาดาม Blavatsky (1831-1891), ยกความงามของเทวปรัชญา ทฤษฎี theosophical postulates ว่า สร้างก้าวหน้า geometrical เริ่มต้น ด้วยจุดเดียว ด้านความคิดสร้างสรรค์ของคุณจะแสดงเป็นชุดเรียงวงกลม สามเหลี่ยม และสี่เหลี่ยม ของ Kandinsky จองเกี่ยวกับวิญญาณในสมัย (1910) และจุด และสายการเครื่องบิน (1926) ได้พูดย้ำทฤษฎีนี้ theosophical ภาพประกอบ โดยจอห์น Varley ในฟอร์มคิด (1901) มีอิทธิพลต่อเขาเห็น [6]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การสร้างคันดินสกี้ของการทำงานที่เป็นนามธรรมตามระยะเวลาที่ยาวนานของการพัฒนาและการเจริญเติบโตของความคิดที่รุนแรงขึ้นอยู่กับประสบการณ์ศิลปะของเขา เขาเรียกว่าทุ่มเทให้กับความงามภายใน, ความร้อนของจิตวิญญาณและจิตวิญญาณความปรารถนาความจำเป็นด้านนี้ มันเป็นลักษณะสำคัญของงานศิลปะของเขา. เยาวชนและแรงบันดาลใจ (1866-1896) [แก้ไข] การวาดภาพที่มีสีสันที่เป็นนามธรรมที่มีอาคารและคริสตจักรในพื้นหลังการทำงานในช่วงต้นระยะเวลา, มิวนิ-Schwabing กับโบสถ์เซนต์เออซูล่า (1908) คันดินสกี้ เกิดในกรุงมอสโกบุตรชายของ Lidia Ticheeva และ Vasily Silvestrovich Kandinsky พ่อค้าชา. [1] [2] คันดินสกี้ได้เรียนรู้จากความหลากหลายของแหล่งที่มาในขณะที่ในมอสโก เขาศึกษาด้านต่างๆขณะที่อยู่ในโรงเรียนรวมทั้งกฎหมายและเศรษฐศาสตร์ ต่อมาในชีวิตของเขาจะถูกจำหลงใหลและกระตุ้นโดยสีที่เป็นเด็ก เสน่ห์ของเขากับสัญลักษณ์สีและจิตวิทยาในขณะที่เขายังคงเติบโต ในปี 1889 เขาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มชาติพันธุ์วิจัยซึ่งเดินทางไปยังภูมิภาค Vologda ทางตอนเหนือของกรุงมอสโก หน้าตาในอดีตเขาเกี่ยวข้องว่าบ้านและโบสถ์ถูกตกแต่งด้วยสีที่ส่องแสงดังกล่าวที่เข้าพวกเขารู้สึกว่าเขาได้รับการเคลื่อนย้ายเข้าไปในภาพวาด ประสบการณ์นี้และการศึกษาของศิลปะพื้นบ้านของภูมิภาค (โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้งานของสีสดใสบนพื้นหลังสีดำ) สะท้อนให้เห็นในการทำงานของเขาในช่วงต้น หลายปีต่อมาเขาเปรียบภาพวาดที่จะแต่งเพลงในลักษณะที่เขาจะกลายเป็นข้อสังเกตเขียน "สีแป้นพิมพ์ดวงตาเป็นค้อน, จิตวิญญาณเป็นเปียโนกับสตริงหลาย. ศิลปินมือที่ ละครสัมผัสหนึ่งที่สำคัญหรืออื่นที่จะทำให้เกิดการสั่นสะเทือนในจิตวิญญาณ ". [3] คันดินสกี้ยังเป็นลุงของนักปรัชญารัสเซียฝรั่งเศส Alexandre Kojève (1902-1968). ในปี 1896 เมื่ออายุได้ 30 คันดินสกี้ให้ขึ้น กฎหมายการเรียนการสอนอาชีพที่มีแนวโน้มและเศรษฐกิจที่จะลงทะเบียนเรียนในสถาบันการศึกษาที่มิวนิคของเขาในที่สุดครูจะรวมถึงฟอนฟรานซ์ติดอยู่. [4] เขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ารับการรักษาทันทีและเริ่มเรียนรู้ศิลปะของตัวเอง ในปีเดียวกันนั้นก่อนออกจากกรุงมอสโกเขาเห็นจัดแสดงภาพวาดโดย Monet เขาถูกนำตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรูปแบบอิมเพรสของฟาง; นี้เขามีความรู้สึกที่มีประสิทธิภาพของสีเกือบอิสระของวัตถุที่ตัวเอง หลังจากนั้นเขาจะเขียนเกี่ยวกับประสบการณ์นี้: นั่นมันเป็นแคตตาล็อกกองหญ้าแจ้งผม ฉันไม่สามารถรับรู้ได้ การรับรู้นี้ไม่ใช่เป็นความเจ็บปวดมาให้ฉัน ฉันคิดว่าจิตรกรมีสิทธิในการวาดรำไรไม่มี ผมรู้สึกว่าไม่เป็นเรื่องของการวาดภาพวัตถุที่ขาดหายไป และผมสังเกตเห็นด้วยความประหลาดใจและความสับสนว่าภาพไม่ได้เพียงจับฉัน แต่ตัวเองประทับใจ ineradicably ในหน่วยความจำของฉัน จิตรกรรมเอาอำนาจเทพนิยายและความงดงาม [5]. - Wassily Kandinsky. คันดินสกี้ได้รับอิทธิพลมาในทำนองเดียวกันในช่วงเวลาที่ริชาร์ดวากเนอร์กรินนี้ซึ่งเขารู้สึกว่าผลักดันขอบเขตของดนตรีและทำนองเกินลักษณะของเพลงมาตรฐาน [อ้างจำเป็น] เขาเป็น ยังได้รับอิทธิพลจากจิตวิญญาณมาดาม Blavatsky (1831-1891), สัญลักษณ์ที่รู้จักกันดีของยาร์ ทฤษฎีฟิสมมุติฐานว่าการสร้างเป็นความก้าวหน้าทางเรขาคณิตเริ่มต้นด้วยการเป็นจุดเดียว ด้านความคิดสร้างสรรค์ของรูปแบบจะแสดงโดยชุดลงมาของวงการ, สามเหลี่ยมและสี่เหลี่ยม คันดินสกี้ของหนังสือเกี่ยวกับจิตวิญญาณในงานศิลปะ (1910) และจุดและสายการเครื่องบิน (1926) นี้สะท้อนฟิทฤษฎี ภาพประกอบโดยจอห์นเล่ย์ในรูปแบบความคิด (1901) เขาได้รับอิทธิพลทางสายตา. [6]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทคัดย่อของงานสร้างคันดินตามระยะเวลาที่ยาวนานในการพัฒนาและการสุกแก่ของเข้ม คิดว่าขึ้นอยู่กับประสบการณ์ทางศิลปะของเขา เขาเรียกความจงรักภักดีนี้เพื่อความงามภายในความเร่าร้อนของจิตวิญญาณ , จิตวิญญาณและความต้องการภายใน มันเป็นด้านกลางของศิลปะของเขา

เยาวชนและแรงบันดาลใจ ( 1866 – 1896 ) [ แก้ไข ]
นามธรรมจิตรกรรมกับอาคารและโบสถ์ในพื้นหลัง
งานแรกของระยะเวลาที่ มิวนิค schwabing กับโบสถ์เซนต์เออซูล่า ( 1908 )
คันดินเกิดในมอสโก , ลูกชายของลิเดียและ silvestrovich ticheeva วาซิลีคันดิน ชาพ่อค้า [ 1 ] [ 2 ] คันดินเรียนรู้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายในขณะที่ในมอสโก เขาศึกษาด้านต่างๆในโรงเรียน รวมทั้งกฎหมายและเศรษฐศาสตร์ ในภายหลังในชีวิตเขาจะเรียกคืนการหลงใหลและ stimulated สีเป็นเด็ก เขาหลงใหลกับสัญลักษณ์สีและจิตวิทยาอย่างต่อเนื่อง ตามที่เขาเติบโต ใน ค.ศ. 1889 เขาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มงานวิจัย ซึ่งได้เดินทางไปโวล็อกดาเขตทางเหนือของมอสโก ในลักษณะในอดีต เขามีความสัมพันธ์ที่บ้านและโบสถ์ถูกตกแต่งด้วยเช่นส่องแสงสีที่เมื่อเข้าสู่พวกเขาเขารู้สึกว่า เขาถูกย้ายไปเป็นภาพวาด ประสบการณ์และการศึกษาของภูมิภาคของศิลปะพื้นบ้าน ( โดยเฉพาะการใช้สีสันสดใสบนพื้นหลังสีดำ ) สะท้อนในงานแรกของเขา ไม่กี่ปีต่อมาเขาเปรียบภาพวาดที่จะแต่งเพลงในลักษณะที่เขาจะกลายเป็นที่ระบุไว้ , การเขียน , " สีเป็นแป้นพิมพ์ตาค้อนวิญญาณเปียโนกับสตริง ศิลปินมือซึ่งเล่นสัมผัสหนึ่งที่สำคัญหรืออื่น ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนในจิตวิญญาณ " . [ 3 ] Kandinsky ยังเป็นลุงของ รัสเซีย ฝรั่งเศส koj è ve ( 1902-1968 นักปรัชญา Alexandre )

ใน 1896 ตอนอายุ 30คันดินทิ้งสัญญาอาชีพสอนกฎหมายและเศรษฐศาสตร์ที่จะลงทะเบียนเรียนในโรงเรียนที่ครูของเขาในที่สุดก็จะรวมมิวนิคฟรานซ์ฟอนติดอยู่ . [ 4 ] เขาไม่อนุญาตให้เข้าทันที และเริ่มเรียนศิลปะของเขาเอง ในปีเดียวกันนั้น ก่อนออกจากมอสโก เขาเห็นนิทรรศการภาพวาดโดย Monet เขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ่ายกับสไตล์ impressionistic ของฟาง ; นี้เขามีความรู้สึกที่มีประสิทธิภาพสีเกือบอิสระของวัตถุเอง ต่อมา เขาก็จะเขียนเกี่ยวกับประสบการณ์นี้

มันเป็นหญ้าแคตตาล็อกแจ้งผมมา ฉันไม่สามารถจำมันได้ นี้ไม่รับรู้ มันเจ็บปวดนะ ผมถือว่า จิตรกรไม่มีสิทธิสีเงาๆ . ฉันเร็วรู้สึกว่าวัตถุของภาพหายไปและผมสังเกตเห็นด้วยความตกใจและสับสนว่าภาพไม่เพียง แต่จับผม แต่ประทับใจตัวเอง ineradicably ในหน่วยความจำของฉัน วาดเอาในเทพนิยายอำนาจและยศศักดิ์ . [ 5 ]

-
 วาสสิลี แคนดินสกี คันดินเป็นทำนองเดียวกันอิทธิพลในระหว่างรอบระยะเวลานี้โดยริชาร์ดวากเนอร์ของโลเฮ็นกรินซึ่งเขารู้สึกผลักขอบเขตของเพลงและเนื้อเพลงเนื้อเพลง เกินมาตรฐาน[ อ้างอิงที่จำเป็น ] เขาเป็นจิตวิญญาณมาจากมาดามบลาวัตสกี ( 1831 – 1891 ) เลขชี้กำลังของที่รู้จักกันดี . ทฤษฎีการสร้างสมมุติฐานว่าเป็นฟิการก้าวหน้าเรขาคณิต เริ่มจากจุดเดียว ด้านสร้างสรรค์ของแบบฟอร์มจะถูกแสดงโดยการลงชุดวงกลมรูปสามเหลี่ยมและสี่เหลี่ยมหนังสือเกี่ยวกับจิตวิญญาณ คันดินในศิลปะ ( 1910 ) และชี้และแถว ( 1926 ) สะท้อนหลักฟิ . ภาพประกอบโดยจอห์น วาร์ลีย์ในความคิดรูปแบบ ( 1901 ) มีอิทธิพลกับเขาสายตา [ 6 ]