A one-dimensional model was propose

A one-dimensional model was proposed to evaluate the performance of the ejectors. The head-loss coefficients in each component of these accessories were obtained by fitting theoretical efficiency curves to the experimental data. The calibration achieved coefficients of determination r2 varying between 0.934 and 0.999, which gave credence to considerations employed in the theoretical formulations. The theoretical performance of ejectors, for a
wide range of area ratios in the form of efficiency curves, was generated on the basis of average coefficients of head loss determined through calibration. It was found that the lower the arearatio value, the higher the range of flow ratio reached with the ejectors. Further, the maximum theoretical efficiencies of 26 and 13% were obtained with area ratios around 0.30 for the Type A and the Type B ejectors, respectively, but the latter attained its maximum efficiency with smaller flow ratio than the former. The experimental and theoretical studies showed that the Type A ejectors with area ratio of 0.35 are the most efficient design. However, it is advisable that the flow ratio on these accessories does not exceed the value of 0.50 in order to avoid efficiency declines caused by flow separation and cavitation. On the other hand, when higher flow ratios are required, the use of the Type A ejectors with area ratio of 0.20 is recommended because these
accessories can operate with flow ratios of up to 1.00 without causing efficiency declines. Therefore, it is believed that the ejectors developed in this research could replace the Venturi-type ejectors in the drip-irrigation industry in order to reduce the costs and improve the performance of chemical application systems.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แบบเลถูกเสนอเพื่อประเมินประสิทธิภาพของการดีด สัมประสิทธิ์การสูญเสียหัวในแต่ละส่วนประกอบของอุปกรณ์เหล่านี้ได้รับโดยเส้นโค้งประสิทธิภาพทฤษฎีกับข้อมูลทดลอง การปรับเทียบทำสัมประสิทธิ์ของ r2 กำหนดแตกต่างกันระหว่าง 0.934 และ 0.999 ซึ่งทำให้เห็นเหมือนการพิจารณาที่ใช้ในสูตรทางทฤษฎี การดีด ทฤษฎีสำหรับการหลากหลายของอัตราส่วนพื้นที่ในรูปของเส้นโค้งประสิทธิภาพ ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของค่าเฉลี่ยสัมประสิทธิ์ของหัวขาดกำหนดผ่านการสอบเทียบ พบว่า ต่ำค่า arearatio สูงช่วงของอัตราการไหลเข้า ด้วยการดีด เพิ่มเติม ประสิทธิภาพทางทฤษฎีสูงสุด 26 และ 13% รับ มีอัตราส่วนพื้นที่รอบ ๆ 0.30 สำหรับประเภท A และดีดชนิด B ตามลำดับ แต่หลังบรรลุประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยอัตราการไหลขนาดเล็กกว่าเดิม ศึกษาทดลอง และทฤษฎีพบว่า ดีดชนิด A กับอัตราของ 0.35 เป็นการออกแบบที่มีประสิทธิภาพสูงสุด อย่างไรก็ตาม จะแนะนำว่า อัตราการไหลในอุปกรณ์เหล่านี้ไม่เกินค่า 0.50 เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะประสิทธิภาพที่เกิดจากการไหลแยกและ cavitation บนมืออื่น ๆ เมื่ออัตราไหลสูงขึ้น การดีดแบบ A กับอัตราของ 0.20 แนะนำให้ใช้เนื่องจากเหล่านี้อุปกรณ์เสริมสามารถทำงานกับอัตราการไหลถึง 1.00 โดยไม่ทำให้ประสิทธิภาพลดลง ดังนั้น เชื่อกันว่าว่า ดีดที่พัฒนาในงานวิจัยนี้สามารถแทนที่ดีดชนิดวัสดุของฐานอุตสาหกรรมหยดน้ำเพื่อลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพของระบบงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รูปแบบหนึ่งมิติที่เสนอในการประเมินประสิทธิภาพการทำงานของดีดที่ ค่าสัมประสิทธิ์หัวขาดทุนในส่วนประกอบของอุปกรณ์เหล่านี้ในแต่ละที่ได้รับโดยการปรับเส้นโค้งประสิทธิภาพทฤษฎีข้อมูลการทดลอง สอบเทียบความสำเร็จของการกำหนดค่าสัมประสิทธิ์ R2 ที่แตกต่างกันระหว่าง 0.934 และ 0.999 ซึ่งทำให้เชื่อว่าการพิจารณาการจ้างงานในสูตรทฤษฎี ผลการดำเนินงานทางทฤษฎีของการดีดสำหรับ
ช่วงกว้างของอัตราส่วนพื้นที่ในรูปแบบของเส้นโค้งประสิทธิภาพถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของค่าสัมประสิทธิ์เฉลี่ยของการสูญเสียหัวพิจารณาผ่านการสอบเทียบ มันก็พบว่าต่ำกว่าค่า arearatio ที่สูงกว่าช่วงของอัตราการไหลถึงกับดีด นอกจากนี้ประสิทธิภาพสูงสุดตามทฤษฎีที่ 26 และ 13% ที่ได้รับมีอัตราส่วนพื้นที่รอบ 0.30 ประเภทเอและดีดประเภท B ตามลำดับ แต่หลังบรรลุประสิทธิภาพสูงสุดโดยมีอัตราการไหลที่มีขนาดเล็กกว่าเดิม การศึกษาทดลองและทฤษฎีพบว่าประเภทดีดมีอัตราส่วนพื้นที่ 0.35 มีการออกแบบที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่ก็ขอแนะนำว่าอัตราการไหลในอุปกรณ์เหล่านี้จะต้องไม่เกินมูลค่า 0.50 ในการสั่งซื้อเพื่อหลีกเลี่ยงการลดลงอย่างมีประสิทธิภาพเกิดจากการแยกการไหลและการเกิดโพรงอากาศ ในทางตรงกันข้ามเมื่ออัตราส่วนไหลที่สูงขึ้นจะต้องใช้ของดีดประเภทที่มีอัตราส่วนพื้นที่ 0.20 ขอแนะนำเพราะเหล่านี้
อุปกรณ์สามารถทำงานที่มีอัตราส่วนการไหลของขึ้นถึง 1.00 ไม่ก่อให้เกิดการลดลงอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงเชื่อว่าการดีดที่พัฒนาขึ้นในงานวิจัยนี้สามารถใช้ทดแทนดีด Venturi ชนิดในอุตสาหกรรมหยดน้ำชลประทานเพื่อลดค่าใช้จ่ายและปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบงานสารเคมี