The Bible speaks of love as a set o

The Bible speaks of love as a set of attitudes and actions that are far broader than the concept of love as an emotional attachment . Love is seen as a set of behaviors : Place me like a seal over your heart , like a seal on your arm for love is as strong as death , it 's jealously unyielding as the grave . It burns like a blazing fire , like a mighty flame . Many waters cannot quench love rivers cannot wash it away . If one were to give all the wealth of his house for love , it would be utterly scorned (Song of Solomon 8 : 6-7
Setting the quote beside Faulkner 's A Rose for Emily , we see their differences stand out in stark contrast . The love as it exists in the story is very different from the love that the Bible talks about . In fact , they are polar opposites . While the love that the Bible talks about is steadfast and willing to fight , in does so in a manner that is reasonable and upright
The Bible speaks of an ideal love that is lucid , even as it enduring and powerful . The love that is portrayed in Faulkner 's story is a destructive obsession that drove the main character to commit murder Emily 's deep loneliness stems from a childhood deprived of a loving home . Emily did not want for material things , but there was no warmth in her home . And she grew up longing for a genuine connection with another person . That is why she fell madly in love at the first man she had met (Faulkner , 2002
Looking at Emily 's story , I wonder if she really fell in love . Can love ever spring from a place of fear ? While I cannot fault Emily for it , she was desperately afraid of being alone . She was willing to embrace the illusion of love , and hold on to it nail , tooth and claws . And when the man she wanted did not return her feelings , Emily did not let him go Rather than face the truth and move on , Emily killed the man she loved ' and carried the secret to her grave
I think that reflecting on the love that the Bible talks about is important . Indeed , true love fights and is enduring and passionate . But love should always bring out the best in us , not drive us to madness like what happened with Emily . We all fall into the illusion of love because like Emily , most of us are so afraid of being alone . But love in its purest sense can never come from a place of fear . In such cases love mutates into a dangerous obsession that can drive us to commit desperate acts . True love is always self-sacrificing . When you are in love , the welfare and happiness of your loved one always comes first There is no room for revenge or spite for those whose hearts love deeply and purely . It will fight for true love and let go if.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พระคัมภีร์พูดถึงความรักที่เป็นชุดของทัศนคติและการกระทำที่อยู่ห่างไกลที่กว้างกว่าแนวคิดของความรักเป็นสิ่งที่แนบอารมณ์ ความรักที่ถูกมองว่าเป็นชุดของพฤติกรรม: วางผมชอบประทับตรากว่าหัวใจของคุณเช่นเดียวกับตราประทับบนแขนของคุณความรักมาเป็นที่แข็งแกร่งเป็นความตายมันเป็นความอิจฉาริษยาไม่ยอมเป็นหลุมฝังศพ เผาไหม้เหมือนไฟที่ลุกโชติช่วงเหมือนเปลวไฟอันยิ่งใหญ่น้ำจำนวนมากไม่สามารถดับความรักแม่น้ำไม่สามารถล้างมันออกไป ถ้าคนใดคนหนึ่งที่จะให้ทั้งความมั่งคั่งของบ้านของเขาสำหรับความรักก็จะดูหมิ่นอย่างเต็มที่ (เพลงของโซโลมอนที่ 8: 6-7
อ้างการตั้งค่าข้าง Faulkner 'SA เพิ่มขึ้นสำหรับเอมิลี่เราจะเห็นความแตกต่างของพวกเขาโดดเด่นออกมาในทางตรงกันข้าม ความรักที่มันมีอยู่ในเรื่องที่แตกต่างอย่างมากจากความรักที่พูดถึงเกี่ยวกับพระคัมภีร์. ในความเป็นจริง,พวกเขาเป็นขั้วตรงข้าม ในขณะที่ความรักที่พระคัมภีร์พูดเกี่ยวกับการเป็นมั่นคงและเต็มใจที่จะต่อสู้ในไม่ให้ในลักษณะที่เหมาะสมและตรง
พระคัมภีร์พูดถึงความรักในอุดมคติที่ชัดเจนแม้ในขณะที่มันยั่งยืนและมีประสิทธิภาพความรักที่จะขาดเสียมิได้ใน Faulkner 'เรื่องราวเป็นความคิดครอบงำทำลายที่ขับรถเป็นตัวละครหลักที่จะกระทำการฆาตกรรมเอมิลี่' s ความเหงาลึกที่เกิดจากวัยเด็กที่ถูกลิดรอนบ้านรัก เอมิลี่ไม่ได้ต้องการสำหรับวัตถุต่าง ๆ แต่มีความอบอุ่นในบ้านของเธอไม่มี และเธอเติบโตขึ้นมาสำหรับการเชื่อมต่อความปรารถนาของแท้กับบุคคลอื่นนั่นคือเหตุผลที่เธอตกหลุมอย่างบ้าคลั่งในความรักที่ผู้ชายคนแรกที่เธอเคยพบ (Faulkner, 2002
มองไปที่เรื่องราวของเอมิลี่ 's, ฉันสงสัยว่าจริง ๆ แล้วเธอตกหลุมรัก. สามารถรักเคยฤดูใบไม้ผลิจากสถานที่ของความกลัวหรือไม่ในขณะที่ฉันไม่สามารถผิดพลาด เอมิลี่มันเธอก็หมดท่ากลัวอยู่คนเดียว. เธอก็เต็มใจที่จะโอบกอดภาพลวงตาของความรักและยึดมั่นในมันเล็บฟันและกรงเล็บและเมื่อคนที่เธอต้องการไม่ได้กลับความรู้สึกของเธอเอมิลี่ไม่ยอมปล่อยให้เขาไปมากกว่าใบหน้าของความจริงและย้ายไปเอมิลี่ฆ่าคนที่เธอรัก 'และถือเป็นความลับไว้ที่หลุมศพของเธอ
ผมคิดว่าสะท้อนให้เห็นถึงความรักที่ พูดคุยเกี่ยวกับพระคัมภีร์เป็นสิ่งที่สำคัญ อันที่จริงความรักที่แท้จริงคือการต่อสู้และยั่งยืนและหลงใหล แต่ความรักควรนำมาออกที่ดีที่สุดในพวกเราไม่ได้รับการผลักดันให้เราไปสู่​​ความบ้าคลั่งเหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นกับเอมิลี่ เราทุกคนตกอยู่ในภาพลวงตาของความรักเพราะเช่น Emily ส่วนใหญ่ของเราจึงเป็นที่กลัวการอยู่คนเดียว แต่ความรักในความรู้สึกที่บริสุทธิ์ของตนไม่เคยได้มาจากสถานที่ของความกลัว ในกรณีดังกล่าวเป็นความคิดครอบงำแปรรูปที่เป็นอันตรายที่สามารถไดรฟ์ที่เราจะกระทำหมดหวังที่รัก ความรักที่แท้จริงอยู่เสมอเสียสละ เมื่อคุณอยู่ในความรักสวัสดิการและความสุขของคนที่คุณรักมักจะมาก่อนมีห้องสำหรับการแก้แค้นหรือแม้สำหรับผู้ที่มีหัวใจรักอย่างล้ำลึกและหมดจดไม่ จะต่อสู้เพื่อความรักที่แท้จริงและปล่อยให้ไปถ้า.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พระคัมภีร์พูดถึงความรักเป็นชุดของการดำเนินการที่กว้างไกลกว่าแนวคิดของความรักเป็นสิ่งที่แนบทางอารมณ์ และทัศนคติ ความรักจะเห็นเป็นชุดของพฤติกรรม: วางตัวฉันเช่นตราใจ เช่นตราบนแขนรักเป็นแข็งแรงที่ตาย มี unyielding jealously เป็นไม้ใกล้ฝั่ง มันเผาไหม้เช่นไฟที่เห็นได้ชัด เช่นเปลวไฟอันยิ่งใหญ่ น้ำมากหลายไม่สามารถดับความรักแม่ไม่ล้างมันออกไปได้ ถ้าหนึ่งให้สมบัติทั้งหมดของบ้านรัก มันจะถูกโคตร scorned (เพลงซาโลมอน 8:6-7
การใบเสนอราคาข้างกุหลาบ A ของฟอล์คเนอร์สำหรับ Emily เราเห็นความแตกต่างความโดดเด่นในความแตกต่างสิ้นเชิง ความรักมีอยู่ในเรื่องมีมากแตกต่างจากความรักที่พระคัมภีร์พูดเกี่ยวกับ อันที่จริง พวกเขาอยู่ตรงกันข้ามขั้วโลก ขณะความรักที่พระคัมภีร์พูดเกี่ยวกับ steadfast และเต็มใจที่จะต่อสู้ ในไม่ได้ในลักษณะที่เหมาะสม และตรง
พระคัมภีร์พูดถึงความรักการสำรองห้องพักที่ lucid แม้ที่ยั่งยืน และมีประสิทธิภาพ ความรักที่จะสื่อถึงเรื่องราวของฟอล์คเนอร์เป็นครอบงำจิตใจทำลายที่ตัวละครหลักกระทำฆาตกรรมความเหงาลึกของเอมิลี่เกิดจากวัยเด็กที่ปราศจากความรักบ้านขับรถ เอมิลี่ไม่ต้องสำหรับสิ่งของวัตถุ แต่มีความอบอุ่นไม่อยู่ในบ้านของเธอ และเธอเติบโตขึ้นลิ้นสำหรับการเชื่อมต่อที่แท้จริงกับบุคคลอื่น นั่นคือ ทำไมเธอตกนักความรักที่มนุษย์คนแรกที่เธอได้พบ (ฟอล์คเนอร์ 2002
มองที่เรื่องของเอมิลี่ ฉันสงสัยว่า ถ้า เธอจริง ๆ ตกในความรัก สามารถรักเคยสปริงจากน่ากลัว ขณะฉันเล็ก ๆ เอมิลี่เรื่อง เธอกลัวหมดคนเดียว เธอยินดีโอบกอดภาพลวงตาของความรัก และยึดมั่นกับเล็บ ฟัน และเล็บ และเมื่อคนที่เธอไม่ได้กลับความรู้สึก เอมิลี่ได้ไม่ให้เขาไป Rather กว่าหน้าจริง และย้ายบน เอมิลี่ฆ่าคนที่เธอรัก ' และดำเนินการลับกับศพของเธอ
ผมคิดว่า บรรยากาศความรักที่พระคัมภีร์พูดเกี่ยวกับเป็นสำคัญ จริง รักจริงต่อสู้ และยั่งยืน และหลงใหล แต่รักควรนำดีที่สุด เรา ไม่ไดรฟ์เราบ้าชอบสิ่งที่เกิดขึ้นกับเอมิลี่ เราทั้งหมดตกอยู่ในภาพลวงตาของความรักเพราะจะกลัวคนเดียวเช่นเอมิลี่ ส่วนใหญ่ของเรา แต่ความรักในความรู้สึกนี่ไม่สามารถมาจากน่ากลัว ในกรณี ความรัก mutates เข้าครอบงำจิตใจอันตรายที่สามารถขับรถเราจะกระทำกิจการที่หมดหวัง ความรักอยู่เสมอพร้อมเสียสละตนเอง เมื่อคุณอยู่ในความรัก สวัสดิการและความสุขของคุณรักหนึ่งเสมอมาครั้งแรกมีห้องไม่แก้แค้น หรือ spite สำหรับผู้ที่มีหัวใจรักอย่างล้ำลึก และหมดจด จะต่อสู้เพื่อความรัก และปล่อยถ้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คัมภีร์ ไบเบิลที่พูดถึงความรักตามที่กำหนดไว้ของการดำเนินการและการเปลี่ยนแปลงทัศนคติที่มีแนวความคิดที่กว้างขึ้นกว่าของความรักในรูปของเอกสารแนบทางด้านอารมณ์ความรู้สึกที่ ความรักเป็นเห็นเป็นชุดของลักษณะการทำงานที่ผมเหมือนแมวน้ำที่ผ่านใจกลางของคุณเหมือนแมวน้ำที่อยู่บนแขนของคุณสำหรับความรักเป็นเหมือนเป็นการตายเป็นไม่ยอมริษยาเป็นหลุมศพที่ มันจะสว่างขึ้นเหมือนไฟที่ลุกโชนเหมือนเปลวไฟที่มีกำลังมากผืนน้ำจำนวนมากจะไม่สามารถดับความรักแม่น้ำหลายสายไม่สามารถล้างทำความสะอาดออกไป หากมีให้ทั้งหมดที่พบในบ้านของเขาสำหรับความรัก,จะวิ่งหนีอย่างสิ้นเชิง(เพลงของซาโลมอน 8 : 6-7 6-7 6-7
การตั้งค่าการเสนอราคาที่อยู่ด้านข้างของบอร์แจสที่เพิ่มขึ้นสำหรับเอมิลี่,เราดูความแตกต่างของขาตั้งออกจากในสตาร์กความเข้ม. ความรักที่มีอยู่แล้วในเรื่องที่มีความแตกต่างอย่างมากจากความรักที่ คัมภีร์ ไบเบิลที่การเจรจาเกี่ยวกับ ในความเป็นจริงแล้วห้องพักได้รับอย่างจริงจัง"แผน ภาพ รูปแบบทิศทางสัญญาณเสียง ในขณะที่ความรักที่ คัมภีร์ ไบเบิลที่มีการเจรจาเกี่ยวกับความเสมอต้นเสมอปลายและไม่เต็มใจที่จะต่อสู้ในไม่ได้ในลักษณะที่มีความเหมาะสมและตรง
คัมภีร์ ไบเบิลที่พูดถึงความรักที่เหมาะสมอย่างดีเยี่ยมที่เป็นศูนย์กลางทางจิตวิญญานแม้เป็นเรื่องความทนทานและทรงพลังความรักที่เป็น สมรภูมิ ในชั้นของบอร์แจสมีความหลงใหลทำลายที่ขับตัวละครสำคัญในการกระทำการฆาตกรรมความเปล่าเปลี่ยวความลึกของเอมิลี่ผลสืบเนื่องจากในวัยเด็กที่ถูกตัดของรักที่บ้าน เอมิลี่ก็ไม่ต้องการสำหรับสิ่งต่างๆวัสดุแต่ไม่มีความอบอุ่นในบ้านของเธอเอง และเธอเติบโตขึ้นความปรารถนาอย่างแรงกล้าในการเชื่อมต่อของแท้ให้กับบุคคลอื่นนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเธอก็คลั่งไคล้ในความรักที่ชายคนแรกที่เธอได้พบกับ(บอร์แจส 2002
มองที่เรื่องของเอมิลี่ผมสงสัยว่าเธอตกหลุมรักจริงๆ สามารถความรักเคยฤดูใบไม้ผลิจากสถานที่แห่งความกลัว ในขณะที่ผมไม่สามารถตำหนิเอมิลี่สำหรับเธอก็ล่อแหลมเกรงว่าการอยู่คนเดียว จะถูกโอบล้อมไปด้วยเรื่องของความรักและค้างไว้บนเล็บและก้ามจอมฉิวเฉียดและเมื่อชายคนที่เธออยากทำไม่ได้กลับไปความรู้สึกของเธอเอมิลี่ไม่ปล่อยให้เขาไปมากกว่าหน้าที่ความจริงและในเอมิลี่ฆ่าใครสักคนที่เธอรัก"และนำความลับไปยังหลุมศพของเธอ
ซึ่งจะช่วยผมคิดว่าที่สะท้อนถึงความรักที่ คัมภีร์ ไบเบิลที่การเจรจาเกี่ยวกับมีความสำคัญ จริงๆแล้วความรักเป็นความจริงซึ่งต่อสู้และมีความอดทนและมีความกระตือรือร้น แต่ความรักควรจะนำออกมาดีที่สุดในองค์กรอยู่เสมอไม่ได้ขับรถพาเราไปยังบ้าเหมือนกับว่าเกิดอะไรขึ้นกับเอมิลี่ เราทุกคนตกอยู่ในเรื่องของความรักเพราะเหมือนกับเอมิลี่เราส่วนใหญ่กลัวว่าการอยู่คนเดียว แต่ความรักในความรู้สึกที่สมบูรณ์ไร้ที่ติไม่สามารถมาจากสถานที่แห่งความกลัว ในกรณีเช่นว่านี้ความรัก mutates เข้าไปในความหลงใหลอันตรายที่สามารถขับรถเราการกระทำการคิด ความรักเป็นความจริงด้วยตนเองอยู่เสมอซึ่ง เมื่อคุณกำลังมีความรักความสุขและความสุขของคนที่เขารักของคุณอยู่เสมอมาเป็นอันดับแรกไม่มีห้องสำหรับพยาบาทหรือแม้จะเป็นผู้ที่มีใจรักอย่างลึกซึ้งและอย่างแท้จริง มันจะต่อสู้เพื่อความรักความจริงและปล่อยให้มันผ่านไปหาก.