How do you clean up an oil spill?No

How do you clean up an oil spill?
No two oil spills are the same because of the variation in oil types, locations, and weather conditions involved. However, broadly speaking, there are four main methods of response.
(1) Leave the oil alone so that it breaks down by natural means. If there is no possibility of the oil polluting coastal regions or marine industries, the best method is to leave it to disperse by natural means. A combination of wind, sun, current, and wave action will rapidly disperse and evaporate most oils. Light oils will disperse more quickly than heavy oils.
(2) Contain the spill with booms and collect it from the water surface using skimmer equipment. Spilt oil floats on water and initially forms a slick that is a few millimeters thick. There are various types of booms that can be used either to surround and isolate a slick, or to block the passage of a slick to vulnerable areas such as the intake of a desalination plant or fish-farm pens or other sensitive locations. Boom types vary from inflatable neoprene tubes to solid, but buoyant material. Most rise up about a meter above the water line. Some are designed to sit flush on tidal flats while others are applicable to deeper water and have skirts which hang down about a meter below the waterline. Skimmers float across the top of the slick contained within the boom and suck or scoop the oil into storage tanks on nearby vessels or on the shore. However, booms and skimmers are less effective when deployed in high winds and high seas.
(3) Use dispersants to break up the oil and speed its natural biodegradation. Dispersants act by reducing the surface tension that stops oil and water from mixing. Small droplets of oil are then formed, which helps promote rapid dilution of the oil by water movements. The formation of droplets also increases the oil surface area, thus increasing the exposure to natural evaporation and bacterial action. Dispersants are most effective when used within an hour or two of the initial spill. However, they are not appropriate for all oils and all locations. Successful dispersion of oil through the water column can affect marine organisms like deep-water corals and sea grass. It can also cause oil to be temporarily accumulated by subtidal seafood. Decisions on whether or not to use dispersants to combat an oil spill must be made in each individual case. The decision will take into account the time since the spill, the weather conditions, the particular environment involved, and the type of oil that has been spilt.
(4) Introduce biological agents to the spill to hasten biodegradation. Most of the components of oil washed up along a shoreline can be broken down by bacteria and other microorganisms into harmless substances such as fatty acids and carbon dioxide. This action is called biodegradation. The natural process can be speeded up by the addition of fertilizing nutrients like nitrogen and phosphorous, which stimulate growth of the microorganisms concerned. However the effectiveness of this technique depends on factors such as whether the ground treated has sand or pebbles and whether the fertilizer is water soluble or applied in pellet or liquid form.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิธีทำคุณสะอาดค่าการรั่วไหลของน้ำมันหรือไม่หกรั่วไหลน้ำมันสองไม่เหมือนกันเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงในชนิดน้ำมัน ที่ตั้ง และสภาพอากาศที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม พูดอย่างกว้างขวาง มี 4 วิธีหลักในการตอบสนอง(1) ออกจากน้ำมันเพียงอย่างเดียวนั้นจะแบ่ง โดยวิธีธรรมชาติ ถ้ามีความไม่ polluting พื้นที่ชายฝั่งหรือทะเลอุตสาหกรรมน้ำมัน วิธีดีที่สุดคือการ ให้กระจาย โดยวิธีธรรมชาติ ชุดลม อาทิตย์ ปัจจุบัน และการกระทำของคลื่นจะกระจายอย่างรวดเร็ว และระเหยน้ำมันส่วนใหญ่ น้ำมันเบาจะกระจายได้รวดเร็วกว่าน้ำมันหนัก(2) ประกอบด้วยการรั่วไหลกับบอมส์ และรวบรวมจากผิวน้ำโดยใช้อุปกรณ์แหล่ง น้ำมันรั่วไหลลอยน้ำ และเริ่มฟอร์ม slick ที่หนาไม่กี่มิลลิเมตร มีหลากหลายบอมส์ที่ใช้ล้อมรอบ และแยกเป็น slick หรือบล็อกกาล slick เป็นพื้นที่เสี่ยงเช่นการบริโภคของพืช desalination ปากกาปลาฟาร์ม หรือสถานสำคัญอื่น ๆ บูมชนิดแตกต่างจากหลอดเป่าลม neoprene เพื่อวัสดุทึบ แต่ buoyant เพิ่มขึ้นมากที่สุดค่าเกี่ยวกับเครื่องวัดเหนือสายน้ำ บางออกแบบมานั่ง flush แฟลตหน้าอดใช้กับน้ำลึก และมีกระโปรงที่ก้มต่ำเกี่ยวกับเครื่องวัดด้านล่าง waterline Skimmers ลอยเหนือ slick อยู่ในบูม และดูด หรือตักน้ำมันในถังเก็บ บนเรือใกล้เคียง หรือ บนฝั่ง อย่างไรก็ตาม บอมส์และ skimmers มีประสิทธิภาพน้อยลงเมื่อใช้งานในทะเลและลมสูง(3) ใช้ dispersants เพื่อสลายน้ำมัน และความเร็วของ biodegradation ธรรมชาติ Dispersants ทำหน้าที่ลดแรงตึงผิวที่หยุดน้ำมันและน้ำผสม หยดเล็ก ๆ ของน้ำมันมีแล้วเกิดขึ้น ซึ่งช่วยเจือจางอย่างรวดเร็วของน้ำมันส่งเสริม โดยความเคลื่อนไหวของน้ำ การก่อตัวของหยดยังเพิ่มน้ำมันพื้นที่ผิว เพิ่มแสงธรรมชาติระเหยและการกระทำของแบคทีเรีย Dispersants มีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อใช้ภายในหนึ่งชั่วโมงหรือสองหกต้น อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะไม่เหมาะสมสำหรับน้ำมันทั้งหมดและสถานทั้งหมด เธนสำเร็จน้ำมันผ่านคอลัมน์น้ำสามารถส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตทางทะเลเช่นเรือปะการังและหญ้าทะเล นอกจากนี้ก็ยังสามารถทำให้น้ำมันสามารถสะสมชั่วคราว โดยทะเล subtidal ต้องทำการตัดสินใจในการใช้ dispersants เพื่อป้องกันการรั่วไหลของน้ำมันหรือไม่ในแต่ละกรณีแต่ละ การตัดสินใจจะคำนึงถึงเวลาเนื่องจากการรั่วไหล สภาพอากาศ สภาพแวดล้อมเฉพาะที่เกี่ยวข้อง และชนิดของน้ำมันที่มีการรั่วไหล(4) แนะนำตัวแทนชีวภาพให้หกพลัน biodegradation ส่วนประกอบของน้ำมันล้างขึ้นตามชายฝั่งเป็นส่วนใหญ่สามารถแบ่งแบคทีเรียและจุลินทรีย์อื่น ๆ ที่เป็นสารอันตรายเช่นกรดไขมันและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การกระทำนี้เรียกว่า biodegradation กระบวนการทางธรรมชาติสามารถ speeded ขึ้น โดยการเพิ่มสารอาหาร เช่นไนโตรเจน และ phosphorous, fertilizing ซึ่งกระตุ้นการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของเทคนิคนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยเช่นว่า พื้นดินถือว่าได้ทราย หรือก้อนกรวด และปุ๋ยเป็นน้ำละลายน้ำได้ หรือใช้ในเม็ดหรือแบบฟอร์มสภาพคล่อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คุณทำความสะอาดน้ำมันรั่วไหล ?
ไม่มีน้ำมันรั่วไหลจะเหมือนกัน เพราะการเปลี่ยนแปลงในประเภท น้ำมัน สถานที่ และสภาพอากาศที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม พูดกว้างมี 4 วิธีหลักของการตอบสนอง .
( 1 ) ปล่อยน้ำมันไว้เพื่อให้มันหยุดพักลงโดยวิธีธรรมชาติ หากมีความเป็นไปได้ของน้ำมันมลพิษทางทะเลชายฝั่งหรือเขตอุตสาหกรรมวิธีที่ดีที่สุดคือปล่อยให้มันกระจายโดยวิธีธรรมชาติ การรวมกันของสายลม แสงแดด ปัจจุบันและการกระทำอย่างรวดเร็วจะกระจายคลื่นและระเหยน้ำมันมากที่สุด ขับแสงจะกระจายได้รวดเร็วกว่าน้ำมันหนัก .
( 2 ) ประกอบด้วยหกกับบูมและเก็บจากน้ำผิวดินโดยใช้อุปกรณ์ Skimmer . น้ำมันหกลอยอยู่บนน้ำและเริ่มฟอร์มเนียนว่าเป็นไม่กี่มิลลิเมตรหนามีหลายประเภทของบูมที่สามารถใช้ทั้งเพื่อล้อมรอบ และแยกเนียนหรือปิดกั้นทางเดินของเนียน ในพื้นที่เสี่ยง เช่น การบริโภคของท้องอืด หรือพืชฟาร์มปลาปากกาหรือสถานที่สำคัญอื่น ๆ ประเภทบูมแตกต่างจาก Neoprene หลอดพองแข็ง แต่ตัววัสดุ มากที่สุดขึ้นประมาณ 1 เมตร น้ำเหนือเส้นบางถูกออกแบบมาเพื่อนั่งล้างในแฟลตน้ำขึ้นน้ำลงในขณะที่คนอื่นจะใช้กับน้ำที่ลึกและมีกระโปรงที่ห้อยลงมาประมาณ 1 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง . skimmers ลอยข้ามด้านบนของมันที่มีอยู่ภายในบูมและดูดหรือตักน้ำมันในถังเก็บบนเรือใกล้ฝั่ง อย่างไรก็ตาม บูม และ skimmers มีประสิทธิภาพน้อยกว่าเมื่อใช้ในลมสูง และทะเลหลวง
( 3 ) ใช้สารช่วยกระจายตัวแยกน้ำมันและความเร็วในการย่อยสลายตามธรรมชาติ สารช่วยกระจายตัวทำโดยการลดแรงตึงผิวที่หยุดน้ำมันและน้ำที่ได้จากการผสม หยดเล็ก ๆของน้ำมันจะเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการเจือจางอย่างรวดเร็วของน้ำมัน โดยการเคลื่อนไหวของน้ำ การก่อตัวของหยดยังเพิ่มพื้นที่ผิว น้ำมันดังนั้น การเพิ่มแสงจากธรรมชาติและจากการกระทำ สารช่วยกระจายตัวจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อใช้ภายในหนึ่งหรือสองชั่วโมงในหกเริ่มต้น อย่างไรก็ตาม , พวกเขาจะไม่เหมาะสมสำหรับทุกตัวขับ และทุกสถานที่ ที่ประสบความสำเร็จการกระจายของน้ำมันผ่านน้ำ สามารถส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล เช่น ปะการังที่ใหญ่และทะเลหญ้านอกจากนี้ยังสามารถทำให้เกิดการสะสมน้ำมันเป็นการชั่วคราวโดยอาหารทะเล subtidal . การตัดสินใจหรือไม่ที่จะใช้สารช่วยกระจายตัวเพื่อต่อสู้กับน้ำมันรั่วไหลจะต้องทำในแต่ละกรณีบุคคล การตัดสินจะพิจารณาเวลาตั้งแต่หก สภาพอากาศ โดยเฉพาะสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง และชนิดของน้ำมันที่ได้รับแล่ง .
( 4 ) แนะนำตัวแทนทางชีวภาพเพื่อเร่งการย่อยสลายหก . ส่วนใหญ่ของส่วนประกอบของน้ำมันล้างหน้าตามแนวชายฝั่งจะถูกแบ่งโดยแบคทีเรียและจุลินทรีย์อื่น ๆลงในสารที่ไม่เป็นอันตราย เช่น กรดไขมัน และคาร์บอนไดออกไซด์ การกระทำนี้เรียกว่าการย่อยสลาย . กระบวนการธรรมชาติสามารถ speeded ขึ้นโดยการเติมปุ๋ยสารอาหาร เช่น ไนโตรเจน และฟอสฟอรัสซึ่งช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพของเทคนิคนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยเช่นว่าพื้นดินปฏิบัติได้ทรายหรือกรวดและว่าปุ๋ยจะละลายน้ำได้ หรือใช้ในรูปแบบเม็ดหรือของเหลว .