To develop a new Crunchy Nut brand

To develop a new Crunchy Nut brand extension, Kellogg's commissioned Primary research, this is research gathered first-hand to answer question that are specific to the project
Although primary research is often time-consuming and expensive, it is considered as a reliable source of information because it is directly from the consumer and is specifically designed to meet the objectives of a project, there are a number of different ways of collecting primary data, sometimes agencies are employed to collect data using, for example, street interviews or a questionnaire. this is a systematic list of questions that obtain feedback from the consumers, for the development of crunchy Nut Bites, Kellogg's used various different methods of primary data collection.primary market data may involve qualitative research or quantitative research. Both types of data are valuable in understanding what consumers want or need, Qualitative data is concerned more about opinions, feelings and attitudes. Quantitative data is in numerical form and is usually gathered from a large sample of respondents.Qualitative research establishes a conversation with consumers. It prompts consumer reaction to, for example, a new product idea and helps researchers understand what they think of it, how it makes them feel, why they find it interesting or not, Qualitative research may be obtained through focus groups, where a moderato captures feedback from a group of six or seven consumers to the ideas shown to them. Those ideas may take the format of drawings of having new food Prototypes to taste.Quantitative research may use questionnaires administered to large numbers of respondents. this allows statistical analysis, such as the calculation of a mean score or percentages. It aims to give a representative picture of what consumers think of a new product idea or a new (real) food. It may involve the use of scales, so numbers get associated with a particular meaning-for example, on a evaluation scale of 1 to 7, where 1 means 'very poor' and 7 means 'excellent'. Crucially those numbers need to be interpreted to enable the business to understand the consumer's overall response.In addition, Kellogg's used secondary research which is existing research that has already been collected by other organisations. Sources of secondary data include books, Journals, the internet and government statistics, Market research agencies collect a range of data which they process and use to provide organisations like Kellogg's with research. the benefits of secondary research are that it is quicker and often less expensive than primary, although it may not always be completely related to the needs of a specific project.

Read more: http://businesscasestudies.co.uk/kelloggs/new-products-from-market-research/types-of-research.html#ixzz2m09QttW6
Follow us: @Thetimes100 on Twitter | thetimes100casestudies on Facebook

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การพัฒนาขยายยี่ห้อใหม่ของถั่วบดหยาบ บี.ของมอบหมายอำนาจหน้าที่วิจัยหลัก นี้เป็นงานวิจัยแรกมือรวบรวมคำถามคำตอบเฉพาะโครงการแม้ว่างานวิจัยหลักมักจะใช้เวลานาน และมีราคาแพง ถือว่าเป็นแหล่งเชื่อถือได้ของข้อมูลเนื่องจากโดยตรงจากผู้บริโภค และออกแบบมาเพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ของโครงการ มีจำนวนของวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลหลัก บางครั้งจ้างหน่วยงานรวบรวมข้อมูลการใช้ ตัวอย่าง ถนนการสัมภาษณ์หรือแบบสอบถาม นี่คือรายการของคำถามที่ได้รับผลตอบรับจากผู้บริโภคระบบ สำหรับการพัฒนาของกรอบถั่วกัด บี.ของใช้ ต่าง ๆ วิธีการต่าง ๆ ข้อมูลหลัก collection.primary ตลาดข้อมูลอาจเกี่ยวข้องกับการวิจัยเชิงคุณภาพหรือการวิจัยเชิงปริมาณ ทั้งชนิดของข้อมูลมีคุณค่าในการทำความเข้าใจว่าผู้บริโภคต้องการ หรือจำเป็น ข้อมูลเชิงคุณภาพเป็นกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับความคิดเห็น ความรู้สึก และทัศนคติ ข้อมูลเชิงปริมาณอยู่ในรูปแบบตัวเลข และจะรวบรวมมาจากตัวอย่างขนาดใหญ่ของผู้ตอบ การวิจัยเชิงคุณภาพสร้างการสนทนากับผู้บริโภค เตือนผู้บริโภคปฏิกิริยาไป เช่น เป็นผลิตภัณฑ์ความคิดใหม่ และช่วยให้นักวิจัยเข้าใจสิ่งที่พวกเขาคิดว่า ของมัน วิธีทำให้พวกเขารู้สึก ทำไมพวกเขาพบมันน่าสนใจ หรือ ไม่ การวิจัยเชิงคุณภาพได้ผ่านโฟกัสกลุ่ม ที่ moderato ที่รวบรวมความคิดเห็นจากกลุ่มผู้บริโภคที่หก หรือเจ็ดความคิดแสดงให้พวกเขา ความคิดอาจใช้รูปแบบของภาพวาดมีอาหารใหม่ต้นแบบรส การวิจัยเชิงปริมาณอาจใช้จัดการกับจำนวนมากของผู้ตอบแบบสอบถาม นี้ช่วยให้การวิเคราะห์ทางสถิติ เช่นการคำนวณคะแนนเฉลี่ยหรือเปอร์เซ็นต์ มันมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ภาพตัวแทนของผู้บริโภคที่คิดความคิดผลิตภัณฑ์ใหม่หรืออาหารใหม่ (จริง) มันอาจเกี่ยวข้องกับการใช้เครื่องชั่งน้ำหนัก เพื่อหมายเลขเชื่อมโยงกับความหมายที่ได้รับ-ตัวอย่าง ในระดับประเมิน 1 ไป 7, 1 หมายความว่า 'ดีมาก' และ 7 หมายถึง 'ดีเยี่ยม' ที่ได้ ยังหมายเลขที่ต้องการตีความเพื่อให้ธุรกิจสามารถเข้าใจตอบสนองโดยรวมของผู้บริโภค นอกจากนี้ เป็นบี.ใช้วิจัยรองซึ่งเป็นงานวิจัยที่มีอยู่ที่ได้ถูกรวบรวม โดยองค์กรต่าง ๆ แหล่งข้อมูลรองรวมถึงสมุดบัญชี สมุดรายวัน อินเทอร์เน็ต และช่วงของข้อมูลที่จะประมวลผล และการมีองค์กรเช่นของบี.วิจัย รวบรวมสถิติของรัฐบาล หน่วยงานวิจัยตลาด ประโยชน์ของการศึกษาวิจัยไม่ว่า จะเร็วกว่าและมักจะน้อยกว่าราคาแพงกว่าหลัก แม้ว่ามันอาจไม่เสมออย่างสมบูรณ์กับความต้องการของโครงการหนึ่ง ๆอ่านเพิ่มเติม: http://businesscasestudies.co.uk/kelloggs/new-products-from-market-research/types-of-research.html#ixzz2m09QttW6 ติดตามเราได้ที่: @Thetimes100 ทวิตเตอร์ | thetimes100casestudies บุ๊ค

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เพื่อพัฒนาใหม่กรุบอ่อนนุชขยายแบรนด์เคลล็อกหน้าที่วิจัยประถมศึกษานี้เป็นงานวิจัยที่รวบรวมมือแรกที่จะตอบคำถามที่มีเฉพาะในโครงการ
แม้ว่าการวิจัยหลักมักจะเป็นเวลานานและมีราคาแพงก็ถือว่าเป็นแหล่งที่เชื่อถือได้ของข้อมูล เพราะมันเป็นโดยตรงจากผู้บริโภคและการออกแบบเป็นพิเศษเพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ของโครงการที่มีหลายวิธีที่แตกต่างกันของการเก็บรวบรวมข้อมูลปฐมภูมิบางครั้งเป็นลูกจ้างหน่วยงานในการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้ตัวอย่างเช่นถนนหรือการสัมภาษณ์แบบสอบถาม นี้เป็นรายการที่เป็นระบบของคำถามที่ว่าได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคสำหรับการพัฒนาของกัดอ่อนนุชกรุบ, เคลล็อกใช้วิธีการที่แตกต่างหลากหลายของข้อมูลหลักข้อมูลการตลาด collection.primary อาจเกี่ยวข้องกับการวิจัยเชิงคุณภาพหรือการวิจัยเชิงปริมาณ ทั้งสองประเภทของข้อมูลที่มีคุณค่าในการทำความเข้าใจสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการหรือต้องการข้อมูลเชิงคุณภาพเป็นห่วงความคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับความรู้สึกและทัศนคติ ข้อมูลเชิงปริมาณอยู่ในรูปแบบตัวเลขและรวบรวมมักจะมาจากกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่ของการวิจัย respondents.Qualitative สร้างการสนทนากับผู้บริโภค จะแจ้งให้ปฏิกิริยาของผู้บริโภคที่จะยกตัวอย่างเช่นความคิดผลิตภัณฑ์ใหม่และช่วยให้นักวิจัยเข้าใจในสิ่งที่พวกเขาคิดว่ามันว่ามันทำให้พวกเขารู้สึกว่าทำไมพวกเขาพบว่ามันน่าสนใจหรือไม่การวิจัยเชิงคุณภาพอาจจะได้รับผ่านการสนทนากลุ่มที่จับพอประมาณ การตอบรับจากกลุ่มของหกหรือเจ็ดผู้บริโภคในการคิดที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขา ความคิดเหล่านั้นอาจจะใช้รูปแบบของภาพวาดต้นแบบของการมีอาหารใหม่เพื่อการวิจัย taste.Quantitative อาจจะใช้แบบสอบถามจำนวนมากของผู้ตอบแบบสอบถาม นี้จะช่วยให้การวิเคราะห์ทางสถิติเช่นการคำนวณค่าเฉลี่ยหรือร้อยละ โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะให้ภาพที่เป็นตัวแทนของสิ่งที่ผู้บริโภคคิดว่าเป็นความคิดผลิตภัณฑ์ใหม่หรือใหม่ (จริง) อาหาร มันอาจจะเกี่ยวข้องกับการใช้เครื่องชั่งน้ำหนักเพื่อให้ได้ตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับตัวอย่างที่มีความหมายสำหรับโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับการประเมินผล 1-7 ที่ 1 หมายถึง 'ดีมาก' และ 7 หมายถึง "ยอดเยี่ยม" ขับเคลื่อนตัวเลขเหล่านั้นจะต้องมีการตีความช่วยให้ธุรกิจที่จะเข้าใจนอกจาก response.In โดยรวมของผู้บริโภคที่เคลล็อกที่ใช้ในการวิจัยรองซึ่งเป็นงานวิจัยที่มีอยู่ที่ได้รับการเก็บรวบรวมโดยองค์กรอื่น ๆ แหล่งที่มาของข้อมูลทุติยภูมิ ได้แก่ หนังสือวารสารสถิติอินเทอร์เน็ตและรัฐบาลหน่วยงานวิจัยตลาดช่วงของการเก็บรวบรวมข้อมูลที่พวกเขาดำเนินการและใช้เพื่อให้องค์กรเช่นเคลล็อกกับการวิจัย ประโยชน์ของการวิจัยรองที่ว่ามันจะเร็วและมักจะแพงกว่าหลักแม้ว่ามันอาจจะไม่สมบูรณ์จะเกี่ยวข้องกับความต้องการของโครงการเฉพาะ. อ่านเพิ่มเติม: เรา: @ Thetimes100 บนทวิตเตอร์ | thetimes100casestudies บน Facebook

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพื่อพัฒนาแบรนด์ใหม่กรุบกรอบ ถั่วขยาย Kellogg ของงานวิจัยนี้เป็นการวิจัยการรวบรวมมือแรกเพื่อตอบคำถามที่เฉพาะเจาะจงกับโครงการ
ถึงแม้ว่างานวิจัยหลักคือมักจะใช้เวลานานและมีราคาแพงถือว่าเป็นแหล่งที่เชื่อถือได้ของข้อมูล เพราะมันเป็นโดยตรงจากผู้บริโภคและได้รับการออกแบบโดยเฉพาะเพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ของโครงการ มีจำนวนของวิธีการที่แตกต่างกันของการรวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ บางครั้งหน่วยงาน เพื่อใช้เก็บข้อมูลการใช้ เช่น ถนน หรือ สัมภาษณ์ แบบสอบถามนี่คือรายการของคำถามที่ได้รับการการตอบรับจากผู้บริโภคในการพัฒนากรอบนัทกัด , เคลล็อก ใช้วิธีการต่างๆของข้อมูลปฐมภูมิ collection.primary ข้อมูลตลาดอาจเกี่ยวข้องกับการวิจัยเชิงคุณภาพ หรือการวิจัยเชิงปริมาณ ทั้งสองประเภทของข้อมูลที่มีคุณค่าในการทำความเข้าใจสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการหรือต้องการข้อมูลเชิงคุณภาพเป็นกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับความคิดเห็นความรู้สึกและทัศนคติ ข้อมูลเชิงปริมาณในรูปแบบเชิงตัวเลขและมักจะรวบรวมจากกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่ของผู้ตอบแบบสอบถาม วิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้วิธีการสร้างการสนทนากับลูกค้า จะแจ้งให้ผู้บริโภคเกิดปฏิกิริยา เช่น แนวคิดผลิตภัณฑ์ใหม่และช่วยให้นักวิจัยเข้าใจสิ่งที่พวกเขาคิดมัน แล้วมันทำให้พวกเขารู้สึก ทำไมพวกเขาพบว่าน่าสนใจหรือไม่การวิจัยเชิงคุณภาพอาจจะได้รับผ่านทางกลุ่มมุ่งเน้นที่โมเดอเรโต รวบรวมความคิดเห็นจากกลุ่มของหกหรือผู้บริโภคเจ็ดกับความคิดที่แสดงให้พวกเขา ความคิดเหล่านั้นอาจจะใช้รูปแบบของภาพวาดที่มีต้นแบบอาหารใหม่เพื่อลิ้มรส การวิจัยเชิงปริมาณ อาจจะใช้จำนวนและตัวเลขขนาดใหญ่ของผู้ตอบแบบสอบถาม นี้ช่วยให้การวิเคราะห์ทางสถิติเช่นการคำนวณค่าเฉลี่ยคะแนน หรือร้อยละ มันมีจุดมุ่งหมายที่จะให้ตัวแทนภาพของสิ่งที่ผู้บริโภคคิดของความคิดผลิตภัณฑ์ใหม่หรือใหม่ ( จริง ) อาหาร มันอาจเกี่ยวข้องกับการใช้เครื่องชั่ง ดังนั้นตัวเลขที่ได้รับเกี่ยวข้องกับความหมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวอย่างเช่นในการประเมินระดับของ 1 ใน 7 ที่ 1 หมายถึง ' จน ' 7 หมายถึงยอดเยี่ยม ' 'วตัวเลขเหล่านั้นต้องถูกตีความเพื่อให้ธุรกิจที่จะเข้าใจของผู้บริโภค การตอบสนองโดยรวม นอกจากนี้ เคลล็อกใช้รองวิจัยซึ่งเป็นงานวิจัยที่ได้ถูกรวบรวมโดยองค์กรอื่น ๆ แหล่งข้อมูลทุติยภูมิ ได้แก่ หนังสือ วารสาร อินเทอร์เน็ต และสถิติ ของรัฐบาลหน่วยงานวิจัยตลาดเก็บช่วงของข้อมูลที่พวกเขาใช้เพื่อให้กระบวนการและองค์กรเช่น Kellogg ของกับการวิจัย ประโยชน์ของการวิจัยทุติยภูมิที่เป็นเร็วขึ้นและมักจะราคาไม่แพงกว่าหลัก แม้ว่ามันอาจจะทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับความต้องการของโครงการเฉพาะ

อ่านเพิ่มเติม : http://businesscasestudies.co .อังกฤษ / เคลล็ / สินค้าใหม่จากการวิจัยตลาด ประเภทของการวิจัย . html # ixzz2m09qttw6
ติดตามเราบน Twitter : @ thetimes100 | thetimes100casestudies บน Facebook