Diagnosis/EvaluationLymphedema is p

Diagnosis/Evaluation
Lymphedema is primarily diagnosed clinically by medical
history and physical examination (8,74). Sequential circumferential
measurement of the affected extremity is a simple and
inexpensive method to evaluate the extent of arm edema. Arm
volume can be estimated by taking several circumferential measurements
at standard distances. In fact, estimated volumetric
measurements are now commonly used as a way to quantify arm
edema (75). Circumferential measurement has been shown be to
highly correlated (r
.93–.98) with the results of the more
exact water displacement method (76). Differences of greater
than 2 cm between the affected and normal arms are considered
to be clinically significant (77).
Newer methods of definitive diagnosis and measurement
have been developed, including the use of bioelectrical impedance
(78,79) to quantify the amount of fluid accumulation and
of lymphoscintigraphy, which allows visualization of the lymphatic
system. Lymphoscintigraphy is minimally invasive
and has become a major tool in the diagnostic evaluation of
edema (3,38,80,81). These diagnostic measures may also be
supplemented by computed tomography or magnetic resonance
imaging (81,82). The literature only infrequently reports the
use of the newer diagnostic methods in research or clinical practice.
Standardization of measurement methods would allow a
clearer understanding of incidence, prevalence, and relative risk
in subgroups of patients and more meaningful comparisons of
the efficacy of preventive and therapeutic measures. Sitzia et al.
(75), in a review of outcome indicators in lymphedema, noted
the lack of consistency and rigor in measurement methods. They
recommended a multidimensional approach to outcomes measurement
in lymphedema, to take account of the fact that neither
physical examination by a doctor at one point in time nor patient
self-report of arm edema severity as a single measure reliably
quantifies arm edema severity.
The literature does not systematically address how or when
physicians or nurses should query breast cancer patients about
the presence or absence of arm edema. The literature also does
not address the systematic education of patients by physicians or
nurses so that they are told of the need to inform their health-care
providers if they develop new or worsening arm swelling.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การวินิจฉัย / การประเมินผล
Lymphedema มีการวินิจฉัยทางคลินิกโดยหลักทางการแพทย์
ประวัติและการตรวจร่างกาย (8,74) เส้นรอบวงเนื่อง
วัดปลายได้รับผลกระทบคือการที่ง่ายและ
ราคาไม่แพงวิธีการในการประเมินขอบเขตของการบวมที่แขน แขน
ปริมาณสามารถประมาณโดยการวัดเส้นรอบวงหลาย
มาตรฐานที่ระยะทาง ในความเป็นจริงประมาณปริมาตร
วัดตอนนี้ที่นิยมใช้เป็นวิธีการที่จะหาจำนวนแขน
บวม (75) วัดเส้นรอบวงได้รับการแสดงที่จะ
มีความสัมพันธ์อย่างมาก (R? 0.93-0.98) กับผลของการเพิ่มเติม
วิธีการกำจัดน้ำที่แน่นอน (76) ความแตกต่างของมากขึ้น
กว่า 2 ซม. ระหว่างได้รับผลกระทบและแขนปกติได้รับการพิจารณา
ให้เป็นนัยสำคัญทางคลินิก (77).
วิธีการใหม่ของการวินิจฉัยที่แน่นอนและการวัด
ได้รับการพัฒนารวมถึงการใช้ความต้านทาน bioelectrical
(78,79) ที่จะหาจำนวนปริมาณของของเหลว และการสะสม
ของ lymphoscintigraphy ซึ่งจะช่วยให้ภาพของน้ำเหลือง
ระบบ Lymphoscintigraphy คือการบุกรุกน้อยที่สุด
และได้กลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการประเมินผลการวินิจฉัยของ
อาการบวมน้ำ (3,38,80,81) มาตรการวินิจฉัยเหล่านี้อาจจะ
เสริมด้วยการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์หรือคลื่นสนามแม่เหล็ก
การถ่ายภาพ (81,82) วรรณกรรมเพียงไม่บ่อยรายงาน
การใช้วิธีการวินิจฉัยใหม่ในการวิจัยหรือการปฏิบัติทางคลินิก.
มาตรฐานของวิธีการวัดจะช่วยให้
ความเข้าใจที่ชัดเจนของอุบัติการณ์ความชุกและความเสี่ยง
ในกลุ่มย่อยของผู้ป่วยและการเปรียบเทียบความหมายมากขึ้นของ
ประสิทธิภาพของการป้องกันและการรักษา มาตรการ Sitzia et al.
(75) ในการตรวจสอบผลของตัวชี้วัดใน Lymphedema ตั้งข้อสังเกต
การขาดความมั่นคงและความรุนแรงในวิธีการวัด พวกเขา
แนะนำวิธีการหลายมิติเพื่อผลการวัด
ใน Lymphedema เพื่อใช้บัญชีของความจริงที่ว่าทั้ง
การตรวจร่างกายโดยแพทย์ที่หนึ่งจุดในเวลาหรือผู้ป่วยที่
รายงานตนเองของความรุนแรงบวมแขนเป็นมาตรการเดียวที่เชื่อถือได้
ประเมินความรุนแรงของอาการบวมน้ำแขน.
วรรณกรรม ไม่ได้อยู่ที่วิธีการอย่างเป็นระบบหรือเมื่อ
แพทย์หรือพยาบาลควรสอบถามผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมที่เกี่ยวกับ
การมีหรือไม่มีอาการบวมน้ำแขน วรรณกรรมยังไม่
ได้อยู่ที่ระบบการศึกษาของผู้ป่วยโดยแพทย์หรือ
พยาบาลเพื่อที่พวกเขาจะบอกถึงความจำเป็นที่จะแจ้งให้ดูแลสุขภาพของพวกเขา
ให้บริการถ้าพวกเขาพัฒนาแขนใหม่หรือเลวลงอาการบวม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Fold the piece to mesh. Then sew the 2 side away from the edge 1 / 4 inches. Don't forget to start from the bottom of the bag sewing.Fold the piece to mesh. Then sew the 2 side away from the edge 1 / 4 inches. Don't forget to start from the bottom of the bag sewing.Fold the piece to mesh. Then sew the 2 side away from the edge 1 / 4 inches. Don't forget to start from the bottom of the bag sewing.Fold the piece to mesh. Then sew the 2 side away from the edge 1 / 4 inches. Don't forget to start from the bottom of the bag sewing.Fold the piece to mesh. Then sew the 2 side away from the edge 1 / 4 inches. Don't forget to start from the bottom of the bag sewing.Fold the piece to mesh. Then sew the 2 side away from the edge 1 / 4 inches. Don't forget to start from the bottom of the bag sewing.Fold the piece to mesh. Then sew the 2 side away from the edge 1 / 4 inches. Don't forget to start from the bottom of the bag sewing.