คีธ เอลลิสัน: ส.ส.มุสลิมคนแรกในรัฐสภาสหรัฐฯKeith Maurice Ellison: Firs การแปล - คีธ เอลลิสัน: ส.ส.มุสลิมคนแรกในรัฐสภาสหรัฐฯKeith Maurice Ellison: Firs ไทย วิธีการพูด

คีธ เอลลิสัน: ส.ส.มุสลิมคนแรกในรัฐส

คีธ เอลลิสัน: ส.ส.มุสลิมคนแรกในรัฐสภาสหรัฐฯ
Keith Maurice Ellison: First Muslim in U.S. Congress
4 สิงหาคมค.ศ.1963-

โดย วาริษาฮ์ อัมรีล
http://www.newmuslimthailand.com/main/index.php
ไม่อนุญาตให้ก็อปปี้ข่าวและบทความออกไปจากเว็บไซต์ หากต้องการเผยแพร่กรุณาทำลิงค์เข้ามาอ่านในนี้ – ขอบคุณมาก
คีธ มัวริส เอลลิสัน มีชื่อมุสลิมว่า มุฮัมมัด เป็นทนายความและนักการเมืองอเมริกัน ผู้กลายมาเป็นส.ส.มุสลิมคนแรกในรัฐสภาสหรัฐฯ และส.ส.ผิวดำคนแรกของรัฐมินนิโซต้า โดยเขาได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.เขต 5 จากพรรคเดโมแครต ของรัฐมินนิโซต้า จากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2006
คีธเกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ.1963 ในครอบครัวคาทอลิก ในเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน มีพี่น้อง 5 คน ผู้ชายหมด พ่อของคีธเป็นจิตแพทย์ แม่เป็นนักสังคมสงเคราะห์ คีธเติบโตมาท่ามกลางบรรยากาศครอบครัวที่ต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน ปู่ของเขาเคยเป็นสมาชิกของ NAACP ที่รัฐหลุยเซียน่า
เขาเปลี่ยนมารับอิสลามเมื่ออายุได้ 19 ปีขณะที่ยังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเวย์นสเตท (Wayne StateUniversity) ในปี 1987 คีธแต่งงานกับ คิม เอลลิสัน แล้วทั้งคู่ก็ย้ายไปมินนิอาโปลิส เพื่อศึกษาต่อที่โรงเรียนกฎหมาย มหาวิทยาลัยมินนิโซต้า จนจบการศึกษาในปี 1990 จากนั้นคีธเข้าทำงานเป็นทนายที่ Lindquist & Vennum 3 ปี แล้วจึงไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการของศูนย์สิทธิทางกฎหมาย (Legal Rights Center) ซึ่งเป็นองค์กรเพื่อการกุศล
ชีวิตนักการเมือง
"ความคิดเรื่องสิทธิมนุษยชนของผมมีรากฐานมาจากครอบครัวของผมเอง คุณพ่อ-คุณแม่อบรมให้ผมเป็นคนมีเป้าหมายในชีวิตและภูมิใจในตัวเอง ผมเติบโตมาโดยได้ยินเรื่องราวของคุณปู่ของผมผู้ทำงานให้กับ NAACP ที่หลุยเซียน่า ท่านและเพื่อนๆ พยายามรณรงค์ให้คนผิวดำมีสิทธิมีเสียงในการโหวต ทั้งๆ ที่ช่วงเวลานั้นผู้ใดที่หาญกล้าออกมาเรียกร้องเช่นนั้นอาจถูกตัดสินแขวนคอ หรือไม่ก็ถูกอำนาจมืดทำร้าย ...ซึ่งบางคนก็โดนไปแล้วละ" คีธกล่าว และว่า การต่อสู้ของคุณปู่ของเขาเป็นแรงบันดาลใจให้เขาสนใจเรื่องความยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน คีธพยายามเลียนแบบคุณปู่ของเขาด้วยการเป็นทนายความเพื่อคนจน และเป็นอัยการของนอร์ธมินนิโซต้า คีธบอกว่า สมัยวัยรุ่นเขารู้สึกหดหู่กับการเหยียดผิวและความอยุติธรรมในชุมชนที่เขาอาศัยอยู่ ประสบการณ์เหล่านั้นผลักดันให้เขากลายมาเป็นนักต่อสู้เพื่อสังคม ทั้งขึ้นเวทีปราศรัยและแสดงออกในการต่อต้านความอยุติธรรมทุกรูปแบบ ต่อต้านการเหยียดผิว เหยียดเชื้อชาติ และต่อสู้กับความยากจน จนเมื่อเขาเติบโตขึ้น เขาถึงได้ตระหนักว่า การวิพากษ์วิจารณ์และชี้ให้เห็นปัญหานั้นง่ายมาก แต่การจะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหานี่สิยากยิ่งกว่า
คีธจึงก้าวเข้าสู่การเมือง...
"ผมจะเริ่มสร้างโลกที่ทุกคนไม่ว่าจะเชื้อชาติ สีผิวไหน เท่าเทียมกันหมด ไม่มีใครสักคนที่ถูกโลกลืม" เขากล่าว
ในปี 2002 เขาได้รับเลือกให้เป็นผู้แทนในสภาของรัฐมินนิโซต้า เขต 58B ซึ่งเป็นเขตที่พลเมืองร้อยละ 76 เป็นชนกลุ่มน้อย
ต่อมาในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2006 คีธได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.เขต 5 จากพรรคเดโมแครต ในจำนวนส.ส. 8 คนของรัฐมินนิโซต้า คีธได้คะแนนเสียงท่วมท้นร้อยละ 56 ในขณะที่คู่แข่งของเขาจากพรรคริพับลิกันได้คะแนนเพียงร้อยละ 21
"เราได้สร้างประวัติศาสตร์ขึ้นแล้ว" คีธกล่าวกับผู้สนับสนุนในการฉลองชัยชนะหลังทราบผลโหวต
"เราชนะการเลือกตั้งครั้งยิ่งใหญ่นี้ แต่ความจริงแล้วเราทำมากกว่านั้น เราได้แสดงให้เห็นว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งใช้การรณรงค์ที่ใสสะอาดก็สามารถชนะคู่แข่งที่โหดๆ ได้ เราได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเราเข้มแข็งกว่า เราสร้างสะพานเชื่อมแต่ละชุมชนเข้าด้วยกัน มิใช่แบ่งแยกชุมชนแล้วปกครอง เราเชื่อมั่นว่าสันติภาพคือหลักนำของชาติเรา!"
คีธกล่าวต่อผู้สนับสนุนเขาว่า "งานที่รออยู่เบื้องหน้านั้นมากมายมหาศาลนัก ผมรู้ว่างานที่ต้องทำต่อไปนั้นหนักหนาสาหัสสากรรจ์ วันนี้เราสนุกสนานกันกับชัยชนะในการเลือกตั้ง แต่พรุ่งนี้สิ เรามีงานต้องทำต่อไป"
ผลงานของคีธช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีหลายด้าน ในด้านสิทธิมนุษยชน การศึกษา สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาทางเศรษฐกิจ คีธช่วยให้ผ่านร่างกฎหมายเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งเป็นการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี
คีธกับอิสลาม
คีธถือกำเนิดและถูกเลี้ยงดูมาอย่างคาทอลิก ก่อนจะเปลี่ยนมารับอิสลามเมื่ออายุได้ 19 ปีขณะเรียนปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเวย์นสเตท (Wayne State University เวย์นสเตทยู)
คีธไม่ชอบพูดเรื่องความเชื่อทางศาสนาของเขา ยกเว้นเมื่อถูกสัมภาษณ์ตรงๆ เท่านั้น
คีธเคยให้สัมภาษณ์กับ Voice of America (VOA) ขณะกำลังหาเสียงเลือกตั้งว่า "ผมเป็นมุสลิมและก็ภูมิใจในความเป็นมุสลิม แต่ผมมิได้ลงเลือกตั้งในฐานะผู้แทนมุสลิม ผมลงเลือกตั้งในฐานะผู้ที่เชื่อในสันติภาพ และต้องการนำทหารของเราออกมาจากประเทศอิรักเดี๋ยวนี้! ผมลงเลือกตั้งในฐานะผู้ที่เรียกร้องการประกันสุขภาพให้กับคนอีก 47 ล้านคน และการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ"
"แต่ผมก็หวังว่าหากเราชนะในเดือนพฤศจิกายน (7 พฤศจิกายน 2006 วันเลือกตั้งส.ส.สหรัฐ) อินชาอัลลอฮ (ด้วยพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า)นั่นคือสัญญาณสำหรับชาวมุสลิมว่าเราควรจะก้าวเข้าสู่ระบบการเมืองสหรัฐ และยังส่งสัญญาณไปยังผู้ที่มิใช่มุสลิมว่า มุสลิมมีบทบาทอย่างมากในการพัฒนาประเทศของเรา"
คีธกล่าวในเว็บไซต์ของเขาเรื่องความเชื่อทางศาสนาว่า 'คนทั่วไปมีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจจากศาสนาหรือความเชื่อที่แตกต่างกันออกไป สำหรับผมแล้ว ผมถูกหลอมมาจากทั้งคาทอลิกและอิสลาม ผมถูกเลี้ยงดูมาอย่างคาทอลิก ต่อมาก็กลายมาเป็นมุสลิมตอนเรียนอยู่ที่ เวย์นสเตทยู ผมได้รับแรงบันดาลใจจากคำสอนในอัล-กุรอานที่เปี่ยมไปด้วยความรักของพระผู้เป็นเจ้า เป็นทางนำให้กับชีวิตของผมในทุกวันนี้'
ฮายัต ฮัซซัน คุณแม่ลูกหนึ่งชาวมุสลิม โหวตให้คีธเพราะนโยบายประกันสุขภาพและการศึกษาของเขา "ฉันโหวตให้คีธทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้เลยนะว่าเขาเป็นมุสลิม เพิ่งรู้ก็ตอนที่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของคีธเองอ่ะแหละบอก" เธอกล่าว
ในการหาเสียง คีธก็ไม่เคยพูดเรื่องศรัทธ
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
คีธเอลลิสัน: ส.ส.มุสลิมคนแรกในรัฐสภาสหรัฐฯKeith มอริเอลลิสัน: มุสลิมแรกในรัฐสภาของสหรัฐอเมริกา4 สิงหาคมค.ศ.1963- โดยวาริษาฮ์อัมรีลhttp://www.newmuslimthailand.com/main/index.phpไม่อนุญาตให้ก็อปปี้ข่าวและบทความออกไปจากเว็บไซต์หากต้องการเผยแพร่กรุณาทำลิงค์เข้ามาอ่านในนี้ – ขอบคุณมากคีธมัวริสเอลลิสันมีชื่อมุสลิมว่ามุฮัมมัดเป็นทนายความและนักการเมืองอเมริกันผู้กลายมาเป็นส.ส.มุสลิมคนแรกในรัฐสภาสหรัฐฯ และส.ส.ผิวดำคนแรกของรัฐมินนิโซต้าโดยเขาได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.เขต 5 จากพรรคเดโมแครตของรัฐมินนิโซต้าจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2006คีธเกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ.1963 ในครอบครัวคาทอลิกในเมืองดีทรอยต์รัฐมิชิแกนมีพี่น้อง 5 คนผู้ชายหมดพ่อของคีธเป็นจิตแพทย์แม่เป็นนักสังคมสงเคราะห์คีธเติบโตมาท่ามกลางบรรยากาศครอบครัวที่ต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนปู่ของเขาเคยเป็นสมาชิกของ NAACP ที่รัฐหลุยเซียน่าเขาเปลี่ยนมารับอิสลามเมื่ออายุได้ 19 ปีขณะที่ยังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเวย์นสเตท (Wayne StateUniversity) ในปี 1987 คีธแต่งงานกับคิมเอลลิสันแล้วทั้งคู่ก็ย้ายไปมินนิอาโปลิสเพื่อศึกษาต่อที่โรงเรียนกฎหมายมหาวิทยาลัยมินนิโซต้าจนจบการศึกษาในปี 1990 จากนั้นคีธเข้าทำงานเป็นทนายที่ Lindquist และ Vennum 3 ปีแล้วจึงไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการของศูนย์สิทธิทางกฎหมาย (ศูนย์สิทธิตามกฎหมาย) ซึ่งเป็นองค์กรเพื่อการกุศลชีวิตนักการเมือง"ความคิดเรื่องสิทธิมนุษยชนของผมมีรากฐานมาจากครอบครัวของผมเอง คุณพ่อ-คุณแม่อบรมให้ผมเป็นคนมีเป้าหมายในชีวิตและภูมิใจในตัวเอง ผมเติบโตมาโดยได้ยินเรื่องราวของคุณปู่ของผมผู้ทำงานให้กับ NAACP ที่หลุยเซียน่า ท่านและเพื่อนๆ พยายามรณรงค์ให้คนผิวดำมีสิทธิมีเสียงในการโหวต ทั้งๆ ที่ช่วงเวลานั้นผู้ใดที่หาญกล้าออกมาเรียกร้องเช่นนั้นอาจถูกตัดสินแขวนคอ หรือไม่ก็ถูกอำนาจมืดทำร้าย ...ซึ่งบางคนก็โดนไปแล้วละ" คีธกล่าว และว่า การต่อสู้ของคุณปู่ของเขาเป็นแรงบันดาลใจให้เขาสนใจเรื่องความยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน คีธพยายามเลียนแบบคุณปู่ของเขาด้วยการเป็นทนายความเพื่อคนจน และเป็นอัยการของนอร์ธมินนิโซต้า คีธบอกว่า สมัยวัยรุ่นเขารู้สึกหดหู่กับการเหยียดผิวและความอยุติธรรมในชุมชนที่เขาอาศัยอยู่ ประสบการณ์เหล่านั้นผลักดันให้เขากลายมาเป็นนักต่อสู้เพื่อสังคม ทั้งขึ้นเวทีปราศรัยและแสดงออกในการต่อต้านความอยุติธรรมทุกรูปแบบ ต่อต้านการเหยียดผิว เหยียดเชื้อชาติ และต่อสู้กับความยากจน จนเมื่อเขาเติบโตขึ้น เขาถึงได้ตระหนักว่า การวิพากษ์วิจารณ์และชี้ให้เห็นปัญหานั้นง่ายมาก แต่การจะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหานี่สิยากยิ่งกว่าคีธจึงก้าวเข้าสู่การเมือง..."ผมจะเริ่มสร้างโลกที่ทุกคนไม่ว่าจะเชื้อชาติ สีผิวไหน เท่าเทียมกันหมด ไม่มีใครสักคนที่ถูกโลกลืม" เขากล่าวในปี 2002 เขาได้รับเลือกให้เป็นผู้แทนในสภาของรัฐมินนิโซต้า เขต 58B ซึ่งเป็นเขตที่พลเมืองร้อยละ 76 เป็นชนกลุ่มน้อยต่อมาในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2006 คีธได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.เขต 5 จากพรรคเดโมแครต ในจำนวนส.ส. 8 คนของรัฐมินนิโซต้า คีธได้คะแนนเสียงท่วมท้นร้อยละ 56 ในขณะที่คู่แข่งของเขาจากพรรคริพับลิกันได้คะแนนเพียงร้อยละ 21"เราได้สร้างประวัติศาสตร์ขึ้นแล้ว" คีธกล่าวกับผู้สนับสนุนในการฉลองชัยชนะหลังทราบผลโหวต"เราชนะการเลือกตั้งครั้งยิ่งใหญ่นี้ แต่ความจริงแล้วเราทำมากกว่านั้น เราได้แสดงให้เห็นว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งใช้การรณรงค์ที่ใสสะอาดก็สามารถชนะคู่แข่งที่โหดๆ ได้ เราได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเราเข้มแข็งกว่า เราสร้างสะพานเชื่อมแต่ละชุมชนเข้าด้วยกัน มิใช่แบ่งแยกชุมชนแล้วปกครอง เราเชื่อมั่นว่าสันติภาพคือหลักนำของชาติเรา!"คีธกล่าวต่อผู้สนับสนุนเขาว่า "งานที่รออยู่เบื้องหน้านั้นมากมายมหาศาลนัก ผมรู้ว่างานที่ต้องทำต่อไปนั้นหนักหนาสาหัสสากรรจ์ วันนี้เราสนุกสนานกันกับชัยชนะในการเลือกตั้ง แต่พรุ่งนี้สิ เรามีงานต้องทำต่อไป"ผลงานของคีธช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีหลายด้าน ในด้านสิทธิมนุษยชน การศึกษา สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาทางเศรษฐกิจ คีธช่วยให้ผ่านร่างกฎหมายเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งเป็นการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปีคีธกับอิสลามคีธถือกำเนิดและถูกเลี้ยงดูมาอย่างคาทอลิก ก่อนจะเปลี่ยนมารับอิสลามเมื่ออายุได้ 19 ปีขณะเรียนปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเวย์นสเตท (Wayne State University เวย์นสเตทยู)คีธไม่ชอบพูดเรื่องความเชื่อทางศาสนาของเขา ยกเว้นเมื่อถูกสัมภาษณ์ตรงๆ เท่านั้นคีธเคยให้สัมภาษณ์กับ Voice of America (VOA) ขณะกำลังหาเสียงเลือกตั้งว่า "ผมเป็นมุสลิมและก็ภูมิใจในความเป็นมุสลิม แต่ผมมิได้ลงเลือกตั้งในฐานะผู้แทนมุสลิม ผมลงเลือกตั้งในฐานะผู้ที่เชื่อในสันติภาพ และต้องการนำทหารของเราออกมาจากประเทศอิรักเดี๋ยวนี้! ผมลงเลือกตั้งในฐานะผู้ที่เรียกร้องการประกันสุขภาพให้กับคนอีก 47 ล้านคน และการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ" "แต่ผมก็หวังว่าหากเราชนะในเดือนพฤศจิกายน (7 พฤศจิกายน 2006 วันเลือกตั้งส.ส.สหรัฐ) อินชาอัลลอฮ (ด้วยพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า)นั่นคือสัญญาณสำหรับชาวมุสลิมว่าเราควรจะก้าวเข้าสู่ระบบการเมืองสหรัฐ และยังส่งสัญญาณไปยังผู้ที่มิใช่มุสลิมว่า มุสลิมมีบทบาทอย่างมากในการพัฒนาประเทศของเรา"คีธกล่าวในเว็บไซต์ของเขาเรื่องความเชื่อทางศาสนาว่า 'คนทั่วไปมีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจจากศาสนาหรือความเชื่อที่แตกต่างกันออกไป สำหรับผมแล้ว ผมถูกหลอมมาจากทั้งคาทอลิกและอิสลาม ผมถูกเลี้ยงดูมาอย่างคาทอลิก ต่อมาก็กลายมาเป็นมุสลิมตอนเรียนอยู่ที่ เวย์นสเตทยู ผมได้รับแรงบันดาลใจจากคำสอนในอัล-กุรอานที่เปี่ยมไปด้วยความรักของพระผู้เป็นเจ้า เป็นทางนำให้กับชีวิตของผมในทุกวันนี้'ฮายัต ฮัซซัน คุณแม่ลูกหนึ่งชาวมุสลิม โหวตให้คีธเพราะนโยบายประกันสุขภาพและการศึกษาของเขา "ฉันโหวตให้คีธทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้เลยนะว่าเขาเป็นมุสลิม เพิ่งรู้ก็ตอนที่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของคีธเองอ่ะแหละบอก" เธอกล่าว
ในการหาเสียง คีธก็ไม่เคยพูดเรื่องศรัทธ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
คี ธ เอลลิสัน:. สสมุสลิมคนแรกในรัฐสภาสหรัฐฯ.
คี ธ มอริซเอลลิสัน: มุสลิมคนแรกในสภาคองเกรสของสหรัฐฯ
.. 4 สิงหาคมคศ 1963- โดยวาริษาฮ์ - มากขอบคุณคี ธ มัวริสคุณเอลลิสันมีชื่อมุสลิมว่าได้มุฮัมมัด และส. ส. ผิวดำคนแรกของรัฐมิน นิโซต้าโดยเขาได้รับเลือกตั้งเป็นส . ส. เขต 5 จากพรรคเดโมแครตของ รัฐมินนิโซต้าจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2006 คี ธ เกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ. 1963 ในครอบครัวคาทอลิกในเมืองดีทรอย ต์รัฐมิชิแกนมีพี่น้อง 5 คนผู้ชายหมดพ่อของคี ธ เป็น จิตแพทย์แม่เป็นนักสังคมสงเคราะห์ ปู่ของเขาเคยเป็นสมาชิกของ NAACP 19 (เวย์น StateUniversity) ในปี 1987 คี ธ แต่งงานกับคิมเอล ลิสันแล้วทั้งคู่ก็ย้ายไปมินนิอาโปลิสเพื่อศึกษาต่อที่โรงเรียนกฎหมายมหาวิทยาลัยมินนิโซต้าจนจบการศึกษาในปี 1990 จากนั้นคี ธ เข้าทำงานเป็นทนายที่ Lindquist & Vennum 3 ปี (ศูนย์สิทธิกฎหมาย) NAACP ที่หลุยเซียน่าท่านและ เพื่อน ๆ ทั้งๆ หรือไม่ก็ถูกอำนาจมืดทำร้าย ... ซึ่งบางคนก็โดนไปแล้วละ "คี ธ กล่าวและว่า และเป็นอัยการของนอร์ ธ มินนิโซต้าคี ธ บอกว่า ต่อต้านการเหยียดผิวเหยียดเชื้อชาติและต่อสู้กับ ความยากจนจนเมื่อเขาเติบโตขึ้นเขาถึงได้ตระหนักว่า สีผิวไหนเท่าเทียมกันหมดไม่มีใคร สักคนที่ถูกโลกลืม "กล่าวเขาในห้างหุ้นส่วนจำกัดปี 2002 เขต 58B ซึ่งเป็นเขตที่พลเมืองร้อยละ 76 กลุ่มชนเป็นน้อยตั้งขึ้นต่อมาในห้างหุ้นส่วนจำกัดการธนาคารวันที่ 7 พฤศจิกายน 2006 คี ธ ได้รับเลือกตั้งเป็นส. ส. เขต 5 จากพรรคเดโมแครตใน จำนวนส . ส 8 คนของรัฐมินนิโซต้า คี ธ ได้คะแนนเสียงท่วมท้นร้อยละ 56 21 "เราได้สร้างประวัติศาสตร์ขึ้นแล้ว" แต่ความจริงแล้วเราทำมากกว่านั้น ได้ มิใช่แบ่งแยกชุมชนแล้วปกครอง แต่พรุ่งนี้สิ 2 ปีที่ผ่านมามีหลายด้านใน ด้านสิทธิมนุษยชนการศึกษาสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ 8 19 (มหาวิทยาลัยรัฐเวย์น เมื่อถูกทางทหารสัมภาษณ์ตรงๆเท่านั้นคี ธ เคยให้สัมภาษณ์กับเสียงของอเมริกา (VOA) ขณะกำลังหาเสียงเลือกตั้งว่า 47 ล้านคน (7 พฤศจิกายน 2006 วันเลือกตั้งส. ส. สหรัฐ) อินชาอัลลอฮ สำหรับผมแล้ว ผมถูกเลี้ยงดูมาอย่างคาทอลิก เวย์นสเตทยู ฮัซซันคุณแม่ลูกหนึ่งชาว มุสลิม "ฉันโหวตให้คี ธ ทั้งๆที่ไม่ เคยรู้เลยนะว่าเขาเป็นมุสลิม กล่าวเพลงเธอในห้างหุ้นส่วนจำกัดหัวเรื่อง: การหาเสียงคี ธ ก็ไม่เคยพูดเรื่องศรัท ธ
























การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: