บทความวิจัยแบบไม่ทดลองเชิงสำรวจครั้

บทความวิจัยแบบไม่ทดลองเชิงสำรวจครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอสมรรถนะด้านการสร้างเสริมสุขภาพของนักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีในเครือข่ายภาคใต้ กลุ่มตัวอย่างคือ อาจารย์ที่สอนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติในหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิตที่มีการจัดการศึกษา 4 ชั้นปี จำนวน 150 คน และนักศึกษาพยาบาลศาสตรชั้นปีที่ 4 ระดับปริญญาตรี ปีการศึกษา 2559 จำนวน 234 คน รวมทั้งหมด 384 คน จำนวน 5 สถาบัน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามและวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติการแจกแจงข้อมูล ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและใช้ สถิติ t-test แบบ Independent
ผลการศึกษาพบว่าโดยผลการวิเคราะห์ข้อมูลเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนการประเมินสมรรถนะการสร้างเสริมสุขภาพระหว่างนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 4 ปีการศึกษา 2559 และคะแนนประเมินโดยอาจารย์ที่สอนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติในหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิตที่มีการจัดการศึกษา 4 ชั้นปี วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ในเครือข่ายภาคใต้ได้ผลดังนี้ ด้านคุณลักษณะส่วนบุคคลในการสร้างเสริมสุขภาพ พบว่า อาจารย์ผู้สอนและนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 4 มีความสัมพันธ์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ .05 ด้านการปฏิบัติกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพพบว่า อาจารย์ผู้สอนและนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 4 มีความสัมพันธ์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ .05 ด้านการบริหารจัดการในการสร้างเสริมสุขภาพ พบว่า อาจารย์ผู้สอนและนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 4 มีความสัมพันธ์ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ .05 ด้านการวิจัยและการจัดการความรู้ด้านการสร้างเสริมสุขภาพ พบว่า อาจารย์ผู้สอนและนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 4 มีความสัมพันธ์ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ .05 ด้านการติดต่อการสื่อสารในการสร้างเสริมสุขภาพ พบว่า อาจารย์ผู้สอนและนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 4 มีความสัมพันธ์ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ .05

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทความวิจัยแบบไม่ทดลองเชิงสำรวจครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอสมรรถนะด้านการสร้างเสริมสุขภาพของนักศึกษาพยาบาลวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีในเครือข่ายภาคใต้กลุ่มตัวอย่างคืออาจารย์ที่สอนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติในหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิตที่มีการจัดการศึกษา 4 ชั้นปีจำนวน 150 คนและนักศึกษาพยาบาลศาสตรชั้นปีที่ 4 ระดับปริญญาตรีปีการศึกษา 2559 จำนวน 234 คนรวมทั้งหมด 384 คนจำนวน 5 สถาบันเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามและวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติการแจกแจงข้อมูลค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและใช้สถิติจะทดสอบ t อิสระคำประกอบ และคะแนนประเมินโดยอาจารย์ที่สอนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติในหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิตที่ผลการศึกษาพบว่าโดยผลการวิเคราะห์ข้อมูลเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนการประเมินสมรรถนะการสร้างเสริมสุขภาพระหว่างนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 4 ปีการศึกษา 2559ด้านการปฏิบัติกิจกรรมสมีการจัดการศึกษา 4 ชั้นปีวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีในเครือข่ายภาคใต้ได้ผลดังนี้ด้านคุณลักษณะส่วนบุคคลในการสร้างเสริมสุขภาพพบว่าอาจารย์ผู้สอนและนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 4 มีความสัมพันธ์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ.05ร้างเสริมสุขภาพพบว่าอาจารย์ผู้สอนและนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 4 มีความสัมพันธ์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ.05 ด้านการบริหารจัดการในการสร้างเสริมสุขภาพพบว่าอาจารย์ผู้สอนและนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 4 มีความสัมพันธ์ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ.05 ด้านการวิจัยและการจัดการความรู้ด้านการสร้างเสริมสุขภาพพบว่าอาจารย์ผู้สอนและนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 4 มีความสัมพันธ์ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ.05 ด้านการติดต่อการสื่อสารในการสร้างเสริมสุขภาพพบว่าอาจารย์ผู้สอนและนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 4 มีความสัมพันธ์ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ.05

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทความวิจัยแบบไม่ทดลองเชิงสำรวจครั้ง นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอสมรรถนะด้านการสร้างเสริมสุขภาพของนักศึกษาพยาบาลวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีในเครือข่ายภาคใต้กลุ่มตัวอย่างคืออาจารย์ที่สอนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติในหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิตที่มี การจัดการศึกษา 4 ชั้นปีจำนวน 150 คนและนักศึกษาพยาบาลศาสตรชั้นปีที่ 4 ระดับปริญญาตรีปีการศึกษา 2559 จำนวน 234 คนรวมทั้งหมด 384 คนจำนวน 5 สถาบันเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามและ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติการแจกแจงข้อมูลค่าเฉลี่ยส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐานและใช้สถิติ t-test แบบอิสระ
ผลการศึกษาพบว่าโดยผลการ วิเคราะห์ข้อมูลเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนการประเมินสมรรถนะการสร้างเสริมสุขภาพระหว่างนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 4 ปีการศึกษา 2559 และคะแนนประเมินโดยอาจารย์ที่ สอนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติในหลักสูตรพยาบาล ศาสตรบัณฑิตที่มีการจัดการศึกษา 4 ชั้นปีวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีใน เครือข่ายภาคใต้ได้ผลดังนี้ด้านคุณลักษณะส่วนบุคคลในการสร้างเสริมสุขภาพพบว่าอาจารย์ผู้สอนและนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้น ปีที่ 4 มีความสัมพันธ์แตกต่างกันอย่างมี นัยสำคัญ . 05 ด้านการปฏิบัติกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพพบ ว่าอาจารย์ผู้สอนและนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 4 มีความสัมพันธ์แตกต่างกันอย่างมี นัยสำคัญ . 05 ด้านการบริหาร จัดการในการสร้างเสริมสุขภาพพบว่า อาจารย์ผู้สอนและนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 4 มีความสัมพันธ์ไม่แตกต่างกันอย่าง มีนัยสำคัญ . 05 ด้านการวิจัยและการจัดการความรู้ ด้านการสร้างเสริมสุขภาพพบว่าอาจารย์ผู้สอน และนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 4 มีความสัมพันธ์ไม่แตกต่างกันอย่าง มีนัยสำคัญ . 05 ด้านการติดต่อการสื่อสารในการสร้าง เสริมสุขภาพพบว่าอาจารย์ผู้สอนและนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 4 มีความสัมพันธ์ไม่แตกต่าง กันอย่างมีนัยสำคัญ. 05