The practice of keeping wild animal

The practice of keeping wild animals as pets threatens several species. Baby animals are typically captured and sold, which often requires killing the mother. Once in captivity and out of their natural habitat, many pets die or fail to reproduce. Affected populations include the Asiatic black bear, Malayan sun bear, white-handed lar, pileated gibbon and binturong.[21]

Large-scale deforestation and development have encroached on many former wildlife habitats, and pesticides in their food supply has reduced bird populations. Several species of sawfish are listed as critically endangered because of habitat loss and overfishing.[25]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การปฏิบัติในการรักษาสัตว์ป่าเป็นสัตว์เลี้ยงคุกคามหลายชนิด สัตว์ที่เด็กมักจะถูกจับและขายซึ่งมักจะต้องฆ่าแม่ ครั้งหนึ่งในการถูกจองจำและออกจากที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของพวกเขา, นำสัตว์เลี้ยงจำนวนมากตายหรือล้มเหลวในการทำซ้ำ ประชากรที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ หมีควายหมีอาทิตย์มลายู Lar สีขาวมือชะนี Pileated และหมีขอ. [21] ตัดไม้ทำลายป่าขนาดใหญ่และการพัฒนาได้รุกรานที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าในอดีตจำนวนมากและสารกำจัดศัตรูพืชในการจัดหาอาหารของพวกเขาได้ลดประชากรนก หลายชนิดของปลาฉนากมีการระบุว่าเป็นอันตรายเนื่องจากการสูญเสียที่อยู่อาศัยและ overfishing. [25]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การปฏิบัติของการรักษาสัตว์ป่าเป็นสัตว์เลี้ยง คุกคามหลายชนิด สัตว์ทารกมักจะจับไปขาย ซึ่งมักจะต้องมีการฆ่าแม่ ครั้งหนึ่งในการเป็นเชลยและในที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของพวกเขา สัตว์เลี้ยงหลายตายหรือล้มเหลวในการทำซ้ำ ประชากรที่ได้รับผลกระทบรวมถึงหมีดำเอเชีย หมีหมา ขาวมือ ลาร์ ชะนีเอี๊ยมดำ และบี - บอย [ 21 ]

การทำลายป่าขนาดใหญ่และการพัฒนาได้บุกรุกที่สัตว์ป่าที่อยู่อาศัยในอดีตมากมาย และยาฆ่าแมลงในอาหารของพวกเขามีการลดประชากรของนก หลายสายพันธุ์ของฉนากอยู่เป็นวิกฤตใกล้สูญพันธุ์เนื่องจากการสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย และ overfishing [ 25 ]