The Individual Researcher Ethic beg

The Individual Researcher
Ethic begins and ends with you, the researcher. A research’s personal moral code is the strongest defense against unethical behavior. Before during, and after conducting a study, a researcher has a opportunities to, and should, reflect on research actions and consult his or her conscience. Ethical research depends on the integrity of the individual researcher and his or her values. “If values are to be taken seriously, they cannot be expressed and laid aside but it must instead be guides to action for the sociologist. They determine who will be investigated, for what purpose and in whose service” (Sagarin, 1973:63).
Why Be Ethical?
Given that most people who conduct social research are genuinely concerned about others, why would a researcher act in an ethically irresponsible manner? Outside of the rare disturbed individual, most unethical behavior result from pressures on researcher to take ethical shortcuts. Researchers face pressure to build a career, publish, advance knowledge, gain prestige, impress family and friends, hold on to a job, and so forth ethical research takes longer to complete, costs more money, is more complicated, and is more likely to be terminate before completion. Moreover, written ethical standard are in the form of vague principles. There are many places where it is possible to act unethically, and the odds of getting caught are small.
There are few reward available for ethical research. The unethical researcher, if caught, faces public humiliation, a ruined career, and possible legal action, but the ethical researcher wins no praise. Ethical behavior arises from sensitivity to ethical concerns that researchers internalize during their professional training, from a professional role, and from personal contract with other researcher. Moreover, the norms of the scientific community reinforce ethical behavior with an emphasis on honesty and openness. Researcher who are oriented toward their professional role, who are committed to the scientific ethos, and who interact regularly with other researcher are likely to act ethically.
Scientific Misconduct. The research community and government agencies that fund research oppose unethical behavior called scientific misconduct, which includes research fraud and plagiarism. Scientific misconduct occurs when a researcher falsifies or distorts the data or the method of data collection, or plagiarizes the work of others. It also includes significant departure from the generally accepted practices of the scientific community for doing or reporting on research. Research institutes and universities have policies and procedures to detect misconduct, report it to the scientific community and funding agencies, and penalize researcher who engage in it (e.g., through a pay cut or loss of job).2
Research fraud occurs when a researcher fakes or invents data that were not really collected, or falsely reports how to research was conducted. Though rare, it is treaded very seriously. The most famous case of fraud was the scandal of Sir Cyril Burt, the father of British educational psychology. Burt died in 1971 as an esteemed researcher who was famous for his studies with twins that showed a genetic basis of intelligence. In 1976, it was discovered that he had falsified data and the names of coauthors. Unfortunately, the scientific community had been misled for nearly 30 years.
Plagiarism is fraud that occurs when the researcher steals the idea or writing for another or use them without citing the source. A special type of plagiarism is stealing the work of another researcher, an assistant, or student, and misrepresenting it as one’s own. These are serious breaches of ethical standards, but they do sometime occur.3
Unethical but Legal. Behavior may be unethical but not break the law. The distinction between legal and ethical behavior is illustrated in the plagiarism case. The American Sociological Association documented that a 1988 book without footnotes by a dean from Eastern New Mexico University contained of 1978 dissertation written by a sociology professor at Tufts University. The copying was not illegal; it did not violate copyright law because the sociologist’s dissertation did not have a copyright filed with the U.S. government. Nevertheless, it was clearly unethical according to standard of professional behavior (see Figure 17.1 for relations between legal and moral actions).4
Power
The relationship between the researcher and subjects or employee – assistant involves power and trust. The experimenter, survey director, or research investigator has power relative to subject or assistants. The power is legitimated by credentials, expertise, training, and the role of science in modern society. Some ethical issues involve an abuse of power and trust.
The researcher’s authority to conduct research, granted by professional communities and the larger society, is accompanied by a responsibility to guide, protect, and oversee the interests of the people being studied. For example, a physician was discovered to have conducted experimental gynecological surgery on 33 women without their permission. The women hand trusted the doctor, but he has abused the trust that the women, the professional community, and society placed in him.5
The researcher seeking ethical guidance is not alone. He or she can turn to a number of resources: professional colleagues, ethical advisory committees, institutional review boards or human subjects committees at a college or institution, codes of ethics from professional associations, and writings on ethics in research.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บุคคลนักวิจัย
จริยธรรมเริ่มต้นและจบลงด้วยการที่คุณเป็นนักวิจัย รหัสคุณธรรมวิจัยส่วนบุคคลการป้องกันที่แข็งแกร่งกับพฤติกรรมที่ผิดจรรยาบรรณ ก่อนระหว่างและหลังการดำเนินการศึกษาวิจัยมีโอกาสที่จะและควรสะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินการวิจัยและให้คำปรึกษาจิตสำนึกของเขาหรือเธอการวิจัยทางจริยธรรมขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของนักวิจัยแต่ละคนและค่านิยมของเขาหรือเธอ "ถ้าค่าที่จะดำเนินการอย่างจริงจังพวกเขาไม่สามารถแสดงและวางไว้ แต่มันแทนจะต้องมีคำแนะนำในการดำเนินการของสังคมวิทยา พวกเขาตัดสินว่าใครจะได้รับการตรวจสอบเพื่อวัตถุประสงค์อะไรและในการให้บริการที่มี "(Sagarin, 1973:63).
ทำไมมีจริยธรรม
ที่กำหนดว่าคนส่วนใหญ่ที่ดำเนินการวิจัยทางสังคมมีความกังวลเกี่ยวกับความจริงที่คนอื่นทำไมจะทำหน้าที่นักวิจัยในลักษณะที่ขาดความรับผิดชอบตามหลักจริยธรรมหรือไม่ ด้านนอกของแต่ละบุคคลรบกวนหายากผลพฤติกรรมผิดจรรยาบรรณมากที่สุดจากความกดดันที่นักวิจัยจะใช้ทางลัดทางจริยธรรม นักวิจัยเผชิญแรงกดดันที่จะสร้างอาชีพเผยแพร่ความก้าวหน้าของความรู้ได้รับศักดิ์ศรีความประทับใจให้ครอบครัวและเพื่อน ๆยึดมั่นในการทำงานและเพื่อการวิจัยทางจริยธรรมมาใช้เวลานานเพื่อให้ค่าใช้จ่ายเงินมากขึ้นมีความซับซ้อนมากขึ้นและมีแนวโน้มที่จะยุติก่อนที่จะเสร็จสิ้น นอกจากนี้มาตรฐานทางจริยธรรมที่เขียนอยู่ในรูปแบบของหลักการคลุมเครือ มีหลายสถานที่ที่มันเป็นไปได้ที่จะทำหน้าที่ unethically และราคาของการจับที่มีขนาดเล็ก.
มีบางรางวัลที่มีอยู่สำหรับการวิจัยทางจริยธรรมนักวิจัยผิดจรรยาบรรณถ้าจับใบหน้าอัปยศอดสูสาธารณะเจ๊งอาชีพและดำเนินการตามกฎหมายเป็นไปได้ แต่นักวิจัยจริยธรรมชนะไม่สรรเสริญ พฤติกรรมทางจริยธรรมเกิดขึ้นจากความไวต่อจริยธรรมว่านักวิจัย internalize ระหว่างการฝึกอบรมมืออาชีพของพวกเขาจากบทบาทที่เป็นมืออาชีพและจากสัญญาส่วนตัวกับนักวิจัยอื่น ๆ ยิ่งไปกว่านั้นบรรทัดฐานของชุมชนวิทยาศาสตร์เสริมสร้างพฤติกรรมเชิงจริยธรรมที่เน้นความซื่อสัตย์สุจริตและการเปิดกว้าง นักวิจัยที่ได้รับการมุ่งเน้นไปที่บทบาทของพวกเขาเป็นมืออาชีพที่มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นมิตรทางวิทยาศาสตร์และผู้ที่ติดต่อเป็นประจำกับนักวิจัยอื่น ๆ มีแนวโน้มที่จะทำหน้าที่ตามหลักจริยธรรม.
ประพฤติผิดทางวิทยาศาสตร์ชุมชนการวิจัยและหน่วยงานวิจัยของรัฐบาลกองทุนที่ต่อต้านพฤติกรรมที่ผิดจรรยาบรรณเรียกว่าประพฤติผิดทางวิทยาศาสตร์ซึ่งรวมถึงการฉ้อโกงการวิจัยและการขโมยความคิด การประพฤติผิดทางวิทยาศาสตร์ที่เกิดขึ้นเมื่อนักวิจัยลวงตาหรือบิดเบือนข้อมูลหรือวิธีการในการเก็บรวบรวมข้อมูลหรือ plagiarizes งานของผู้อื่นก็ยังมีการเดินทางอย่างมีนัยสำคัญจากการปฏิบัติที่ยอมรับกันโดยทั่วไปของชุมชนวิทยาศาสตร์สำหรับการทำหรือการรายงานการวิจัย สถาบันวิจัยและมหาวิทยาลัยมีนโยบายและขั้นตอนในการตรวจสอบการประพฤติมิชอบรายงานไปยังชุมชนวิทยาศาสตร์และหน่วยงานระดมทุนและลงโทษนักวิจัยที่มีส่วนร่วมอยู่ในนั้น (เช่นผ่านการตัดจ่ายหรือการสูญเสียของงาน) 2
การทุจริตที่เกิดขึ้นเมื่อการวิจัยนักวิจัยประดิษฐ์ปลอมหรือข้อมูลที่ไม่ได้ถูกจัดเก็บจริงหรือเท็จรายงานวิธีการวิจัยได้ดำเนินการ แม้ว่าจะหายากก็ถูกเหยียบอย่างจริงจังมาก กรณีที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของการหลอกลวงเรื่องอื้อฉาวของเบิร์ตครับ cyril พ่อของจิตวิทยาการศึกษาอังกฤษเบิร์ตเสียชีวิตในปี 1971 ในฐานะที่เป็นนักวิจัยที่นิยมของผู้มีชื่อเสียงสำหรับการศึกษาของเขากับฝาแฝดที่แสดงให้เห็นพื้นฐานทางพันธุกรรมของหน่วยสืบราชการลับ ในปี 1976 มันก็พบว่าเขาได้ปลอมข้อมูลและชื่อของ coauthors แต่น่าเสียดายที่นักวิทยาศาสตร์ได้ถูกหลอกมาเกือบ 30 ปี.
การขโมยความคิดคือการหลอกลวงที่เกิดขึ้นเมื่อนักวิจัยขโมยความคิดหรือการเขียนอีกหรือใช้พวกเขาโดยไม่ต้องอ้างแหล่งที่มา ชนิดพิเศษของการขโมยความคิดถูกขโมยผลงานของนักวิจัยอีกผู้ช่วยหรือนักเรียนและ misrepresenting ว่ามันเป็นตัวของตัวเอง เหล่านี้มีการละเมิดที่ร้ายแรงของการมีมาตรฐานด้านจริยธรรม แต่พวกเขาบางครั้ง occur.3
แต่ผิดจรรยาบรรณทางกฎหมายพฤติกรรมที่อาจจะผิดจรรยาบรรณ แต่ไม่ผิดกฎหมาย ความแตกต่างระหว่างการปฏิบัติตามกฎหมายและจริยธรรมจะแสดงในกรณีที่การขโมยความคิด สมาคมสังคมวิทยาอเมริกันเอกสารที่เป็นหนังสือไม่มีเชิงอรรถ 1988 โดยคณบดีจากมหาวิทยาลัยภาคตะวันออกของเม็กซิโกใหม่มีของ 1978 วิทยานิพนธ์ที่เขียนโดยอาจารย์สังคมวิทยาที่มหาวิทยาลัยทัฟส์ คัดลอกไม่ได้ผิดกฎหมายมันก็ไม่ได้ละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์เพราะวิทยานิพนธ์สังคมวิทยาที่ไม่ได้มีลิขสิทธิ์ยื่นให้กับเรา รัฐบาล แต่มันก็ผิดจรรยาบรรณอย่างชัดเจนตามมาตรฐานของพฤติกรรมมืออาชีพ (ดูรูปที่ 17.1 สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างดำเนินการตามกฎหมายและศีลธรรม) .4

อำนาจความสัมพันธ์ระหว่างนักวิจัยและอาสาสมัครหรือพนักงาน - ผู้ช่วยที่เกี่ยวข้องกับอำนาจและความไว้วางใจทดลองผู้อำนวยการการสำรวจหรือการวิจัยตรวจสอบมีอำนาจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องหรือผู้ช่วย ไฟ legitimated โดยข้อมูลประจำตัวที่เชี่ยวชาญการฝึกอบรมและบทบาทของวิทยาศาสตร์ในสังคมสมัยใหม่ ประเด็นด้านจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดบางส่วนของอำนาจและความไว้วางใจ.
อำนาจของนักวิจัยที่จะดำเนินการวิจัยที่ได้รับจากมืออาชีพชุมชนและสังคมขนาดใหญ่จะมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่จะเป็นแนวทางในการป้องกันและดูแลผลประโยชน์ของคนที่มีการศึกษา ตัวอย่างเช่นแพทย์ที่ถูกค้นพบที่จะได้ดำเนินการผ่าตัดทางนรีเวชทดลองใน 33 ของผู้หญิงไม่ได้รับอนุญาตของพวกเขา มือผู้หญิงที่เชื่อถือหมอ แต่เขาได้ทำร้ายความไว้วางใจที่ผู้หญิงชุมชนมืออาชีพและสังคมอยู่ใน him.5
นักวิจัยหาแนวทางจริยธรรมไม่ได้เป็นคนเดียว เขาหรือเธอสามารถเปิดให้จำนวนของทรัพยากร. เพื่อนร่วมงานของมืออาชีพที่ปรึกษาคณะกรรมการจริยธรรมคณะกรรมการทบทวนสถาบันหรือคณะกรรมการอาสาสมัครมนุษย์ที่วิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษารหัสของจริยธรรมจากสมาคมวิชาชีพและงานเขียนเกี่ยวกับจริยธรรมในการวิจัย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นักวิจัยแต่ละ
จริยธรรมเริ่มต้น และสิ้นสุดกับคุณ นักวิจัย การวิจัยส่วนบุคคลคุณธรรมรหัสป้องกันพฤติกรรมศีลธรรมแข็งแกร่งได้ ก่อนระหว่าง และ หลังดำเนินการศึกษา นักวิจัยมีโอกาสที่จะ ควร สะท้อนการดำเนินการวิจัย และศึกษาจิตสำนึกของเขา หรือเธอ วิจัยจริยธรรมขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของนักวิจัยแต่ละค่าของเขา หรือเธอ "ถ้าค่าจะต้องดำเนินการอย่างจริงจัง ไม่สามารถแสดง และวางเฉย ได้แต่ต้องเป็นคำแนะนำการดำเนินการสำหรับการ sociologist กำหนดที่จะถูกตรวจสอบ เพื่อวัตถุประสงค์ใด และมีบริการ" (Sagarin, 1973:63) .
ทำไมมีจริยธรรม?
ระบุว่าคนส่วนใหญ่ที่ดำเนินการวิจัยทางสังคมที่จริงใจห่วงผู้อื่น ทำไมจะนักวิจัยดำเนินวิธีการหลายอย่างมีจริยธรรมหรือไม่ ภายนอกยากรบกวนพฤติกรรมศีลธรรมมากที่สุด แต่ละผลจากความดันในนักวิจัยจะลัดจริยธรรม นักวิจัยต้องเผชิญความกดดันเพื่อสร้างอาชีพ ประกาศ รู้ล่วงหน้า ได้รับเพรสทีจ ประทับใจครอบครัวและเพื่อน ๆ เก็บงาน วิจัยจริยธรรมและต่อ ๆ จะต่อ ค่าใช้จ่ายเงินมากขึ้น มีความซับซ้อนมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะถูกยกเลิกก่อนเสร็จ นอกจากนี้ มาตรฐานจริยธรรมที่เขียนอยู่ในแบบฟอร์มหลักคลุม มีหลายสถานที่สามารถดำเนินการ unethically และราคาของพัลลภได้เล็ก
มีกี่รางวัลวิจัยจริยธรรม นักวิจัยศีลธรรม ถ้าจับ เผชิญผู้ทรงสาธารณะ อาชีพเจ๊ง และได้ดำเนิน การตามกฎหมาย แต่นักวิจัยจริยธรรมชนะไม่สรรเสริญ จริยธรรมเกิด จากความไวให้กังวลจริยธรรมที่นักวิจัย internalize ในระหว่างการฝึกอบรมวิชาชีพ จากบทบาทมืออาชีพ และสัญญาส่วนตัวกับนักวิจัยอื่น ๆ นอกจากนี้ บรรทัดฐานของสังคมวิทยาศาสตร์เสริมสร้างพฤติกรรมจริยธรรมที่เน้นความซื่อสัตย์และการเปิด นักวิจัยที่เป็นเชิงต่อบทบาทของมืออาชีพ ผู้มีความมุ่งมั่นเพื่อปัดทางวิทยาศาสตร์ และที่ติดต่อเป็นประจำกับนักวิจัยอื่นๆ มักจะดำเนินตามหลักจริยธรรม
ประพฤติทางวิทยาศาสตร์ การวิจัยชุมชนและรัฐบาลหน่วยงานที่กองทุนวิจัยต่อต้านพฤติกรรมศีลธรรมเรียกว่าประพฤติทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งรวมถึงวิจัยทุจริตและโจรกรรมทางวรรณกรรม ประพฤติทางวิทยาศาสตร์เกิดขึ้นเมื่อนักวิจัย falsifies distorts การข้อมูลหรือวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล หรือ plagiarizes การทำงานของผู้อื่น ก็ยังมีสำคัญออกจากแนวทางปฏิบัติที่ยอมรับโดยทั่วไปของชุมชนวิทยาศาสตร์ สำหรับทำรายงานวิจัย สถาบันวิจัยและมหาวิทยาลัยในนโยบายและขั้นตอนการตรวจประพฤติ รายงานชุมชนวิทยาศาสตร์และทุนหน่วยงานเอกชน และลงโทษนักวิจัยที่มีส่วนร่วมในนั้น (เช่น โดยตัดค่าจ้างหรือการสูญหายของงาน) 2
วิจัยทุจริตเกิดเมื่อนักวิจัย fakes หรือหนึ่งไม่ได้รวบรวมจริง ๆ แอบรายงานการวิจัยได้ดำเนินการ หายาก แม้ว่ามันเป็น treaded จัง กรณีมีชื่อเสียงที่สุดของการฉ้อโกงถูกสแกนดัลของรัก Cyril เบิร์ต บิดาของจิตวิทยาการศึกษาภาษาอังกฤษ เบิร์ตเสียชีวิตในค.ศ. 1971 เป็นนักวิจัยที่นับถือผู้มีชื่อเสียงของเขาศึกษากับคู่ที่แสดงให้เห็นว่าพื้นฐานทางพันธุกรรมของปัญญา ในปี 1976 มันถูกค้นพบว่า เขามี falsified ข้อมูลและชื่อของ coauthors อับ ชุมชนทางวิทยาศาสตร์มีการไว้เกือบ 30 ปี
โจรกรรมทางวรรณกรรมการฉ้อฉลที่เกิดขึ้นเมื่อนักวิจัย steals ความคิดเขียนอื่น หรือใช้โดยไม่อ้างถึงแหล่งที่มา ชนิดพิเศษของโจรกรรมทางวรรณกรรมเป็นขโมยงานของอื่นนักวิจัย ผู้ช่วย การศึกษา และเวอร์แสดงเป็นตัวเอง เหล่านี้เป็นการละเมิดร้ายแรงมาตรฐานจริยธรรม แต่ทำ occur.3
sometime Unethical แต่กฎหมาย ลักษณะการทำงานอาจถูกศีลธรรม แต่ไม่ขัดต่อกฎหมาย มีแสดงการแบ่งแยกการทำงานด้านกฎหมาย และจริยธรรมในกรณีโจรกรรมทางวรรณกรรม สมาคมสังคมวิทยาอเมริกันจัดว่า หนังสือ 1988 ไม่ มีเชิงอรรถโดยคณบดีจากมหาวิทยาลัยนิวเม็กซิโกตะวันออกอยู่ของ 1978 วิทยาเขียน โดยศาสตราจารย์สังคมวิทยาที่วิทยาลัยทัฟส์ การคัดลอกไม่ถูกต้อง มันไม่ได้ละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์เนื่องจากวิทยานิพนธ์ของ sociologist ไม่มีลิขสิทธิ์ที่ยื่นกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม มีศีลธรรมชัดเจนตามมาตรฐานของการทำงานระดับมืออาชีพ (ดูรูป 17.1 สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างการดำเนินการทางกฎหมาย และทางศีลธรรม) .4
พลัง
ความสัมพันธ์เกี่ยวข้องระหว่างนักวิจัย และหัวข้อ หรือ พนักงานผู้ช่วยกับอำนาจและความน่าเชื่อถือ Experimenter ผู้อำนวยการสำรวจ การวิจัยเอกชนมีอำนาจสัมพันธ์กับหัวเรื่องหรือผู้ช่วย อำนาจเป็น legitimated โดยข้อมูลประจำตัว ความเชี่ยวชาญ ฝึกอบรม และบทบาทของวิทยาศาสตร์ในสังคมสมัยใหม่ บางประเด็นจริยธรรมเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิของอำนาจและความน่าเชื่อถือ
ของนักวิจัยผู้ทำวิจัย รับ โดยมืออาชีพชุมชนและสังคมใหญ่ ตามมา ด้วยความรับผิดชอบคู่มือ ป้องกัน และดูแลผลประโยชน์ของประชาชนที่ถูกศึกษา ตัวอย่าง แพทย์ถูกค้นพบจะได้ดำเนินการทดลองผ่าตัดนรีเวชบน 33 ผู้หญิงโดยไม่ได้รับอนุญาต มือผู้หญิงไว้ใจแพทย์ แต่เขาได้ถูกความเชื่อมั่นว่า ผู้หญิง มืออาชีพ สังคม และวางไว้ใน him.5
นักวิจัยแสวงหาแนวทางจริยธรรมเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เขาหรือเธอสามารถเปิดกับหมายเลขทรัพยากร: หัวเพื่อนร่วมงานมืออาชีพ จริยธรรมคณะกรรมการที่ปรึกษา คณะกรรมการตรวจสอบสถาบัน หรือบุคคลเรื่องคณะกรรมการที่วิทยาลัย หรือสถาบัน รหัสของจริยธรรมจากสมาคมวิชาชีพ และงานเขียนจรรยาบรรณในการวิจัย.

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แบบเฉพาะรายเป็นนักวิจัย
ตามมาตรฐานจริยธรรมที่จะเริ่มต้นและสิ้นสุดลงด้วยคุณนักวิจัยได้ รหัสทางศีลธรรมส่วนตัวของการวิจัยที่เป็นการป้องกันมากที่สุดต่อพฤติกรรมขัดต่อจริยธรรม ก่อนระหว่างและหลังจากทำการศึกษาที่เป็นนักวิจัยที่มีโอกาสไปและจะต้องเป็นการดำเนินการในการวิจัยและศึกษาข้อมูลจากความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเขาหรือเธอการวิจัยทางจริยธรรมจะขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของนักวิจัยแบบเฉพาะรายหรือเธอค่าของเขา "หากมีค่าจะได้ไปอย่างจริงจังก็จะไม่สามารถแสดงออกและวางไว้ด้านข้างแต่จะต้องได้รับคำแนะนำในการดำเนินการสำหรับสังคมวิทยาแทน ที่กำหนดที่จะให้มีการตรวจสอบอะไรและมีผู้ให้บริการ"( sagarin 1973 :: 63 )..
ทำไมต้องมีจริยธรรมหรือไม่?
ซึ่งจะส่งผลให้คนที่ทำการวิจัยทางสังคมอย่างแท้จริงที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผู้อื่นว่าทำไมจะต้องเป็นนักวิจัยที่กระทำการในลักษณะขาดความรับผิดชอบจริยธรรม ทางด้านนอกของแต่ละบุคคลถูกรบกวนซึ่งหาได้ยากมากที่สุดการทำงานที่ขัดต่อจริยธรรมเป็นผลจากแรงกดดันด้านบนเป็นนักวิจัยเพื่อใช้ทางลัดทางจริยธรรม นักวิจัยจะต้องเผชิญกับความกดดันในการสร้างอาชีพที่เผยแพร่ความรู้ล่วงหน้าได้รับชื่อเสียงสร้างความประทับใจให้กับเพื่อนและครอบครัวกดค้างไว้ในการงานและดังนั้นจึงออกมาทำการวิจัยอย่างมีจริยธรรมจะใช้เวลานานกว่าปกติในการทำต้นทุนเงินมากขึ้นมีความซับซ้อนมากขึ้นและมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะได้รับการยกเลิกก่อน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีมาตรฐานทางจริยธรรมเป็นลายลักษณ์อักษรในรูปแบบของหลักการมีเลศนัย มีสถานที่จำนวนมากที่มีความเป็นไปได้ที่จะดำเนินการจรรยาและโอกาสในการถูกจับข้อหามีขนาดเล็ก.
มีรางวัลจัดให้บริการในจำนวนไม่มากนักสำหรับการวิจัยอย่างมีจริยธรรมนักวิจัยขัดต่อจริยธรรมหากถูกจับใบหน้าถูกหยามสาธารณะอาชีพวอดวายและการดำเนินการทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นแต่นักวิจัยทางจริยธรรมที่ชนะไม่ได้รับการสรรเสริญ พฤติกรรมที่ถูกต้องตามจริยธรรมเกิดขึ้นจากความไวต่อความกังวลอย่างมีจริยธรรมที่นักวิจัยและในระหว่างการฝึกอาชีพของตนจากบทบาทแบบมืออาชีพและจากสัญญาส่วนตัวพร้อมด้วยนักวิจัยอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้นบรรทัดฐานของชุมชนทางด้านวิทยาศาสตร์ที่เน้นย้ำถึงพฤติกรรมที่ถูกต้องตามจริยธรรมพร้อมด้วยการเน้นย้ำถึงที่เปิดกว้างและความซื่อสัตย์สุจริต นักวิจัยที่ได้รับไปสู่บทบาทมืออาชีพของพวกเขาที่มีความมุ่งมั่นที่จะตามพื้นฐานทางสังคมทางด้านวิทยาศาสตร์และผู้ที่มีปฏิสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอด้วยนักวิจัยอื่นๆคือมีแนวโน้มที่จะต้องยึดถือตามพระราชบัญญัติ.
ทางวิทยาศาสตร์มีความประพฤติเสื่อมเสีย.หน่วยงานรัฐบาลและชุมชนการทำวิจัยที่คัดค้านว่ากองทุนการวิจัยพฤติกรรมขัดต่อจริยธรรมเรียกว่ามีความประพฤติเสื่อมเสียทางวิทยาศาสตร์ซึ่งรวมถึงกล่าวอ้างการฉ้อโกงและการวิจัย มีความประพฤติเสื่อมเสียทางวิทยาศาสตร์จะเกิดขึ้นเมื่อทำงานเป็นนักวิจัยปรารถนาหรือเสียงเพี้ยนเมื่อเปิดเสียงดังข้อมูลหรือวิธีการที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลหรือข้อมูล plagiarizes งานของผู้อื่นนอกจากนั้นยังรวมถึงการออกเดินทางอย่างมากจากการปฏิบัติโดยทั่วไปแล้วได้รับการยอมรับของชุมชนวิทยาศาสตร์สำหรับการทำหรือการรายงานในการวิจัย มหาวิทยาลัยและสถาบันการวิจัยมีขั้นตอนและนโยบายในการตรวจจับความประพฤติรายงานไปยังหน่วยงานและการสนับสนุนทางการเงินชุมชนทางวิทยาศาสตร์และทำโทษนักวิจัยที่เข้าร่วมใน(เช่นผ่านการสูญเสียหรือตัดจ่ายของงาน) 2
การฉ้อโกงการวิจัยจะเกิดขึ้นเมื่อมีข้อมูลหรือหลอกล่อศรนักวิจัยที่อยู่ไม่ได้เก็บรวบรวมจริงๆหรือไม่ถูกต้องตามกฎหมายรายงานว่าการวิจัยเป็นผู้ดำเนินการ แม้ว่าจะหาได้ยากเป็น treaded อย่างจริงจังเป็นอย่างมาก กรณีที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของการฉ้อโกงเป็นเรื่องอื้อฉาวของเซอร์ Sigmund Freud ,บิดาของจิตวิทยาการศึกษาบริติช, Chief Appraiser เสียชีวิตในปี 1971 ได้รับความนิยมซึ่งเป็นนักวิจัยที่มีชื่อเสียงในด้านของการศึกษาของเขาพร้อมด้วยพี่น้องฝาแฝดที่มีพื้นฐานทางพันธุกรรมของข่าวกรอง ในปี 1976 มีผู้พบว่าเขาได้ไม่ถูกต้องรวมทั้งข้อมูลและชื่อของให้การ อุปถัมภ์ เป็นที่น่าเสียดายว่าชุมชนทางวิทยาศาสตร์ที่ได้รับการสำคัญผิดเกือบ 30 ปี.
กล่าวอ้างเป็นการฉ้อโกงที่เกิดขึ้นเมื่อนักวิจัยที่ขโมยบอลตลอดแนวความคิดหรือการเขียนสำหรับอื่นหรือใช้ได้โดยไม่ต้องระบุว่าแหล่งที่มา ชนิดพิเศษที่มีการกล่าวอ้างการขโมยงานของนักวิจัยอีกผู้ช่วยที่จะปิดบังหรือนักศึกษาและเป็นหนึ่งในตัวของท่านเอง เหล่านี้เป็นการละเมิดอย่างร้ายแรงอย่างจริงจังมาตรฐานทางจริยธรรมแต่พวกเขาจะรอสักครู่ occur. 3
ขัดต่อจริยธรรมแต่ตามกฎหมายลักษณะการทำงานอาจจะขัดต่อจริยธรรมแต่กฎหมายไม่ได้ ความแตกต่างระหว่างพฤติกรรมที่ถูกต้องตามจริยธรรมและกฎหมายได้แสดงไว้ในกรณีที่กล่าวอ้าง การเชื่อมโยงทางสังคมวิทยาชาวอเมริกันที่ชี้ให้เห็นว่าปี 1988 ,หมายเหตุ,หมายเหตุเกี่ยวกับหนังสือโดยไม่ได้อ๋องจาก ภาค ตะวันออกมหาวิทยาลัย New Mexico มีอยู่ในปี 1978 การแสดงความเห็นเป็นลายลักษณ์อักษรโดยศาสตราจารย์ด้านสังคมวิทยาที่ Tufts มหาวิทยาลัย การคัดลอกที่ผิดกฎหมายก็ไม่ได้ก็ไม่ได้เป็นการละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์พ.ศ.เพราะการแสดงความเห็นของสังคมวิทยาไม่มีลิขสิทธิ์ที่ยื่นฟ้องรัฐบาลสหรัฐ แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังเป็นขัดต่อจริยธรรมได้อย่างชัดเจนตามมาตรฐานของการทำงาน(ดูรูปที่ 17.1 สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างการดำเนินการทางกฎหมายและศีลธรรมอันดี)ระยะทางประมาณ 4

ตามมาตรฐานพลังงานความสัมพันธ์ระหว่างสาขาวิชาและนักวิจัยหรือพนักงาน - ผู้ช่วยจะเกี่ยวข้องกับความน่าเชื่อถือและการใช้พลังงานผู้ไต่สวนการวิจัยหรือการสำรวจพอลเด็นร้องตะโกนออกมาด้วยโทสะกรรมการผู้มีอำนาจเกี่ยวข้องกับผู้ช่วยหรือเรื่อง กำลังไฟได้ legitimated จากข้อมูลรับรองความเชี่ยวชาญด้านการฝึกอบรมและบทบาทของวิทยาศาสตร์ในสังคมที่ทันสมัย ปัญหาเกี่ยวกับจริยธรรมบางอย่างมีส่วนร่วมกับการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจซึ่งของพลังงานและความน่าเชื่อถือ.นักวิจัย
ที่จะทำการวิจัยได้รับจากชุมชนระดับมืออาชีพและมีขนาดใหญ่กว่าที่สังคมมีพร้อมด้วยความรับผิดชอบให้คำแนะนำและดูแลปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนที่ถูกศึกษา ตัวอย่างเช่นแพทย์ที่ได้รับการสำรวจพบมีการผ่าตัด ภายใน ทดลองดำเนินการใน 33 ผู้หญิงโดยไม่ได้รับอนุญาตได้ มือถือผู้หญิงที่ได้รับความเชื่อถือแพทย์แต่เขามีความน่าเชื่อถือที่ถูกทำร้ายที่ว่าผู้หญิงที่ชุมชนระดับมืออาชีพและสังคมอยู่ใน him. 5
นักวิจัยที่กำลังมองหาคำแนะนำทางจริยธรรมไม่ได้อยู่ตามลำพัง เขาหรือเธอจะสามารถเปิดเป็นจำนวนมากซึ่งคณะกรรมการทรัพยากรเพื่อนร่วมงานอย่างมืออาชีพให้คำปรึกษาทางจริยธรรมคณะกรรมการบอร์ดการตรวจสอบหรือสาขาวิชาคนสถาบันในสถาบันหรือวิทยาลัยในรหัสของจริยธรรมจากงานเขียนและการเชื่อมโยงอย่างมืออาชีพที่จริยธรรมในการวิจัย.