You've probably noticed that barcod

You've probably noticed that barcodes can be quite long and that's because they have to represent three different types of information. The first part of a barcode tells you the country where it was issued. The next part reveals the manufacturer of the product. The final part of the barcode identifies the product itself. Different types of the same basic product (for example, four-packs of Coca-Cola bottles and six-packs of Coca-Cola cans) have totally different barcode numbers.

Most products carry a simple barcode known as the UPC (universal product code)—a line of vertical stripes with a set of numbers printed underneath it (so someone can manually key in the product number if the barcode is misprinted or damaged in the store and won't scan through the barcode reader). There is another kind of barcode that is becoming increasingly common and its stores much more information. It's called a 2D (two-dimensional) barcode) and you sometimes see it on things like self-printed postage stamps.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คุณอาจสังเกตเห็นว่าบาร์โค้ดจะค่อนข้างยาวและนั่นเป็นเพราะพวกเขาจะต้องเป็นตัวแทนของสามประเภทที่แตกต่างกันของข้อมูล ส่วนแรกของบาร์โค้ดจะบอกคุณประเทศที่ออก ส่วนต่อไปเผยให้เห็นผู้ผลิตของผลิตภัณฑ์ ส่วนสุดท้ายของบาร์โค้ดที่ระบุผลิตภัณฑ์ที่ตัวเอง ชนิดที่แตกต่างของผลิตภัณฑ์พื้นฐานที่เหมือนกัน (ตัวอย่างเช่นสี่แพ็คของขวดโคคาโคล่าและหกแพ็คกระป๋อง Coca-Cola) มีตัวเลขที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงบาร์โค้ด. สินค้าส่วนใหญ่ดำเนินบาร์โค้ดง่ายๆที่เรียกว่า UPC (รหัสสินค้าสากล) สาย -a ของลายแนวตั้งกับชุดของตัวเลขที่พิมพ์ภายใต้มัน (เพื่อคนที่สามารถที่สำคัญด้วยตนเองในหลายผลิตภัณฑ์หากบาร์โค้ดจะ misprinted หรือเกิดความเสียหายในการจัดเก็บและจะไม่สแกนผ่านเครื่องอ่านบาร์โค้ด) มีชนิดของบาร์โค้ดอื่นที่เป็นกันมากขึ้นและร้านค้าของข้อมูลมากขึ้นคือ มันเรียกว่า 2D (สองมิติ) บาร์โค้ด) และบางครั้งคุณจะเห็นมันในสิ่งที่ต้องการแสตมป์ตนเองพิมพ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คุณอาจสังเกตว่า บาร์โค้ดจะค่อนข้างยาว และนั่นเป็นเพราะพวกเขาต้องเป็นตัวแทนสามประเภทที่แตกต่างกันของข้อมูล ส่วนแรกของบาร์โค้ดบอกคุณประเทศไหนมันก็ออก ส่วนถัดไป เผยผู้ผลิตของผลิตภัณฑ์ ส่วนสุดท้ายของบาร์โค้ดระบุผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ประเภทที่แตกต่างกันของผลิตภัณฑ์พื้นฐานที่เหมือนกัน ( ตัวอย่างเช่นของโคคา - โคล่า ขวดและกระป๋องโคล่า coca หกแพ็คสี่แพ็ค ) มีหมายเลขบาร์โค้ดที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง .

ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่พกง่ายบาร์โค้ดเรียกว่า UPC ( รหัสผลิตภัณฑ์สากล ) - สายลายเส้นแนวตั้งที่มีชุดของตัวเลขที่พิมพ์ไว้ข้างล่าง ( ดังนั้นใครสามารถใส่หมายเลขผลิตภัณฑ์หากบาร์โค้ด misprinted หรือเสียหายในร้านและจะไม่สแกนผ่านเครื่องอ่านบาร์โค้ด )มีอีกชนิดของบาร์โค้ดที่เป็นทั่วไปมากขึ้นและเก็บข้อมูลมากขึ้น มันเรียกว่า 2D ( สองมิติ ) บาร์โค้ด ) และบางครั้งคุณเห็นมันในสิ่งที่ชอบตนเองพิมพ์แสตมป์