They make an eccentric pair. The wo

They make an eccentric pair. The world’s heaviest parrot – which also happens to be flightless – depends on the berries of a tall conifer tree for breeding, but the rimu tree can go for years without producing any fruit at all.

For decades, conservationists have been fighting to save the endangered kakapo, which is restricted to a few small predator-free islands off New Zealand. Part of their strategy is to provide food supplements that can support breeding when there are no rimu berries, but finding the perfect recipe has proven elusive. Too many calories, and too many male chicks hatch. Too much protein, and the females stop eating before they have taken in enough calcium to make eggs.

With only 125 animals left, getting the recipe right has been an urgent task. “The fruit has only ripened twice on the main kakapo island in the last 30 years,” says Andrew Digby, kakapo science advisor at the New Zealand Department of Conservation.



Now Pamela von Hurst of Massey University in Auckland, New Zealand, thinks she has found the final essential ingredient: vitamin D. Kakapos are nocturnal and vegetarian, and blood tests revealed low levels of this vitamin. “Vitamin D is essential for absorbing dietary calcium and also plays an important role in the production of eggs,” von Hurst says.

When her team analysed rimu berries, they found high levels of a particular form of vitamin D. The finding could lead to a supplement nutritious enough to support breeding in fruitless years.

Shell secret
Conservation teams have been trekking across the rugged islands to provide extra food since 1989, but until now they have lacked the perfect recipe, failing to stimulate breeding in non-rimu years, and accidentally skewing the bird’s gender ratios along the way.

The first breakthrough in feeding came from work by David Raubenheimer at the University of Sydney, Australia, and his team, who found that one type of supplement was probably causing the kakapo to become calcium-deficient.

“This immediately rang alarm bells,” says Raubenheimer. Calcium is important for making eggshells, as well as growing the unusually large skeleton of these hefty birds. “Perhaps the supplementary feeds weren’t working because, unlike rimu, they prevented kakapo from eating enough calcium to successfully feed,” he says.

Now that we know rimu is high in calcium and certain forms of vitamin D, it may be possible to make supplements that can actually stimulate breeding in fruitless years, says Kevin Hackwell of the Royal Forest and Bird Protection Society of New Zealand.

In the meantime, the rimu trees are expected to fruit this year. “We may get as many as 25 chicks if all goes well,” says Hackwell.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พวกเขาทำให้คู่หลุดโลก นกแก้วยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกที่ยัง เกิดขึ้นเป็น flightless – ขึ้นอยู่กับครบของต้นไม้สนสูงสำหรับผสมพันธุ์ แต่ต้น rimu สามารถหาปี โดยผลิตผลไม้ใด ๆ เลยสำหรับทศวรรษที่ผ่านมา มีการสรรหาสถานต่อสู้บันทึก kakapo ใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งถูกจำกัดบางเล็กฟรี predator เกาะออกจากนิวซีแลนด์ ส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของพวกเขาคือการ ให้อาหารเสริมที่สามารถสนับสนุนการปรับปรุงพันธุ์มีไม่ครบ rimu แต่หาสูตรสมบูรณ์แบบได้พิสูจน์เปรียว แคลอรี่มากเกินไป และลูกชายมากเกินไปไก่ฟัก โปรตีนมากเกินไป และหญิงหยุดกินก่อนจะได้แคลเซียมเพียงพอจะทำให้ไข่กับสัตว์เลี้ยงเท่านั้น 125 ซ้าย ได้รับสูตรขวาแล้วเป็นงานเร่งด่วน "ผลไม้มีเพียงสุกสองบนเกาะ kakapo หลักใน 30 ปี กล่าวว่า แอนดรูว์บาย ปรึกษาวิทยาศาสตร์ kakapo ที่แผนกอนุรักษ์นิวซีแลนด์ตอนนี้คิดว่า Hurst ฟอน Pamela มหาวิทยาลัย Massey ในโอ๊คแลนด์ นิวซีแลนด์ เธอพบส่วนผสมที่จำเป็นขั้นสุดท้าย: D. วิตามิน Kakapos บรรณาธิการ และมังสวิรัติ และระดับต่ำของวิตามินนี้เปิดเผยผลการตรวจเลือด "วิตามินดีจำเป็นสำหรับการดูดแคลเซียมอาหาร และยัง มีบทบาทสำคัญในการผลิตไข่ ฟอน Hurst กล่าวว่าเมื่อทีมของเธอ analysed rimu ครบ พวกเขาพบระดับสูงแบบเฉพาะของวิตามินดี การค้นหาอาจทำให้อาหารเสริมที่มีคุณค่าทางโภชนาการเพียงพอเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงพันธุ์ในปี fruitlessความลับของเชลล์ทีมงานอนุรักษ์มีการขี่ข้ามเกาะแข็งแรงทนทานเพื่อให้อาหารเสริม ตั้งแต่พ.ศ. 2532 แต่จนถึงตอนนี้พวกเขาได้ขาดสูตรสมบูรณ์แบบ การกระตุ้นการผสมพันธุ์ในปีไม่ใช่ rimu และบังเอิญรูปอัตราส่วนเพศของนกเขาความก้าวหน้าแรกในอาหารมาจากการทำงาน โดย David Raubenheimer ที่มหาวิทยาลัยซิดนีย์ ออสเตรเลีย และทีมของเขา ที่พบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดหนึ่งอาจเกิด kakapo เป็นแคลเซียมไม่"นี้ทันทีรังปลุกระฆัง กล่าวว่า Raubenheimer แคลเซียมมีความสำคัญสำหรับการทำ eggshells รวมทั้งโครงกระดูกขนาดใหญ่ผิดปกติของนกเหล่านี้ย่อมเจริญเติบโต "บางทีตัวดึงข้อมูลเสริมไม่ทำงานเนื่องจาก แตกต่างจาก rimu พวกเขาป้องกัน kakapo กินแคลเซียมเพียงพอให้อาหารสำเร็จ เขากล่าวว่าหลังจากที่เรารู้ว่า rimu สูงแคลเซียมและวิตามินดีในรูปแบบบางอย่าง อาจสามารถให้อาหารเสริมที่จริงสามารถกระตุ้นการผสมพันธุ์ในปี fruitless กล่าวว่า Kevin Hackwell รอยัลป่าและนกคุ้มครองสังคมของนิวซีแลนด์ในขณะเดียวกัน rimu ต้นไม้จะต้องผลไม้ปีนี้ "เราอาจได้รับจำนวน 25 ลูกไก่ทั้งหมดไปดี กล่าวว่า Hackwell

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พวกเขาทำให้คู่ประหลาด นกแก้วที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก - ซึ่งยังเกิดขึ้นเป็นขมุกขมัว - ขึ้นอยู่กับผลเบอร์รี่ของต้นไม้ต้นสนสูงสำหรับการเพาะพันธุ์ แต่ต้นไม้ Rimu สามารถไปสำหรับปีโดยไม่เกิดผลใด ๆ . สำหรับทศวรรษที่ผ่านอนุรักษ์ได้รับการต่อสู้เพื่อประหยัดที่ใกล้สูญพันธุ์ Kakapo ซึ่งถูก จำกัด ให้ไม่กี่เกาะล่าฟรีขนาดเล็กออกจากนิวซีแลนด์ เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของพวกเขาคือการให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สามารถรองรับการผสมพันธุ์เมื่อไม่มีผลเบอร์รี่ Rimu แต่หาสูตรที่สมบูรณ์แบบได้พิสูจน์แล้วเข้าใจยาก แคลอรี่มากเกินไปจำนวนมากและมากเกินไปลูกไก่ฟักชาย โปรตีนมากเกินไปและหญิงหยุดกินก่อนที่จะมีการดำเนินการในแคลเซียมเพียงพอที่จะทำให้ไข่. มีเพียง 125 สัตว์ที่เหลือได้รับสูตรที่เหมาะสมได้รับเป็นงานเร่งด่วน "ผลไม้ที่มีสุกเพียงสองครั้งบนเกาะ Kakapo หลักในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา" แอนดรูดิกที่ปรึกษาวิทยาศาสตร์ Kakapo ที่นิวซีแลนด์กรมอนุรักษ์. กล่าวว่าตอนนี้พาเมล่าฟอนเฮิร์สต์ของมหาวิทยาลัยMassey ในโอ๊คแลนด์, นิวซีแลนด์คิดว่าเธอมี พบส่วนประกอบสำคัญสุดท้าย: วิตามินดี Kakapos กลางคืนและอาหารมังสวิรัติและการทดสอบเลือดเปิดเผยระดับต่ำของวิตามินนี้ "วิตามินดีเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดูดซับแคลเซียมและยังมีบทบาทสำคัญในการผลิตของไข่" ฟอนเฮิร์สต์กล่าวว่า. เมื่อทีมงานของเธอวิเคราะห์ผลเบอร์รี่ Rimu พวกเขาพบว่าระดับสูงของรูปแบบเฉพาะของวิตามินดีการค้นพบนี้อาจนำไปสู่ อาหารเสริมที่มีคุณค่าทางโภชนาการเพียงพอที่จะสนับสนุนการปรับปรุงพันธุ์ในปีที่ไร้ผล. ความลับเชลล์ทีมอนุรักษ์ได้รับการเดินป่าข้ามเกาะขรุขระเพื่อให้อาหารพิเศษตั้งแต่ปี 1989 แต่จนถึงขณะนี้พวกเขาได้ขาดสูตรที่สมบูรณ์แบบ, ความล้มเหลวในการกระตุ้นให้เกิดการผสมพันธุ์ในปีที่ไม่ Rimu และ ตั้งใจบิดเบือนอัตราส่วนเพศของนกไปพร้อมกัน. การพัฒนาครั้งแรกในการให้อาหารที่มาจากการทำงานโดยเดวิด Raubenheimer ที่มหาวิทยาลัยซิดนีย์ออสเตรเลียและทีมงานของเขาที่พบว่าหนึ่งชนิดของอาหารเสริมที่อาจจะก่อให้เกิด Kakapo ที่จะกลายเป็นแคลเซียมขาด . "ระฆังปลุกนี้ดังขึ้นทันที" Raubenheimer กล่าวว่า แคลเซียมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำเปลือกเช่นเดียวกับการเจริญเติบโตของโครงกระดูกขนาดใหญ่ผิดปกติของนกเหล่านี้หนัก "บางทีอาจจะเป็นฟีดเสริมไม่ได้ทำงานเพราะไม่เหมือน Rimu พวกเขาป้องกันไม่ให้เกิด Kakapo จากการกินแคลเซียมมากพอที่จะประสบความสำเร็จในอาหาร" เขากล่าว. ตอนนี้เรารู้ Rimu มีแคลเซียมสูงและบางรูปแบบของวิตามินดีก็อาจจะเป็นไปได้ที่จะ ให้อาหารเสริมที่จริงสามารถกระตุ้นให้เกิดการผสมพันธุ์ในปีที่ไร้ผล, เควิน Hackwell ของป่าไม้และการคุ้มครองนกสังคมของนิวซีแลนด์. กล่าวว่าในขณะเดียวกันต้นไม้ Rimu ที่คาดว่าจะเป็นผลไม้ในปีนี้ "เราอาจได้รับเป็นจำนวนมากถึง 25 ลูกไก่หากทุกอย่างไป" Hackwell กล่าวว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พวกเขาทำให้คู่ประหลาด ของโลก ( นกแก้ว ) ซึ่งยังเกิดขึ้นเป็นขมุกขมัว ( ขึ้นอยู่กับผลเบอร์รี่ของต้นไม้จำพวกสนสูงเพื่อผสมพันธุ์ แต่ต้นไม้ rimu สามารถไปสำหรับปีโดยไม่มีการผลิตผลไม้เลย

สำหรับทศวรรษ ทำให้ได้รับการต่อสู้เพื่อบันทึกสูญพันธุ์คาคาโป ซึ่งเป็นเขตเล็ก ๆ น้อย พรีเดเตอร์ฟรี หมู่เกาะนอกประเทศนิวซีแลนด์ส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของพวกเขาเพื่อให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สามารถสนับสนุนพันธุ์เมื่อไม่มีผลเบอร์รี่ rimu แต่การหาสูตรที่สมบูรณ์แบบได้พิสูจน์ยากจะเข้าใจ แคลอรี่มากเกินไปและมากเกินไปชายลูกไก่ฟัก โปรตีนมากเกินไป และตัวเมียหยุดกินก่อนที่พวกเขาได้รับแคลเซียมเพียงพอที่จะทำให้ไข่

มีเพียง 125 สัตว์แล้ว ได้สูตรที่เหมาะสม มีงานด่วน" ผลไม้สุกได้เพียงสองครั้งบนเกาะนกแก้วคาคาโปหลักในช่วง 30 ปีที่ , กล่าวว่า " แอนดรูว์ดิกบี้ นกแก้วคาคาโปวิทยาศาสตร์ที่ปรึกษาที่นิวซีแลนด์กรมอนุรักษ์ .



ตอนนี้พาเมล่า ฟอนเฮิรสท์ของมหาวิทยาลัย Massey ในโอคแลนด์ , นิวซีแลนด์ , คิดว่าเธอได้พบส่วนประกอบสำคัญ : วิตามิน D kakapos เป็นครั้งสุดท้าย ออกหากินเวลากลางคืนและมังสวิรัติ