The study findings suggest that per

The study findings suggest that perception of change is not as easily measurable
as was believed. Instead of viewing media change as a one-time event (such as the
introduction of a new technology like Twitter), it is perhaps more valuable to view it
over a longer period of time. Change is certainly taking place, but seemingly more
slowly and gradually than can be captured in a snapshot of one moment in time.
The larger implications of these findings relate not so much to journalists’
perception of change but to the evolution of journalism itself. There does seem to be
an emerging sports-journalism hybrid of which Twitter is a part—an instantaneous,
interactive, intermedia conglomeration that seems to be continually redefining
itself. Among other things, it is part traditional reporting, part blog, part Twitter,
part Facebook, part YouTube, and part text messaging. Sports journalists seem to be reacting to this hybrid in different ways. Although not necessarily critical or
resistant to new technologies like Twitter, older journalists and those at print-media
outlets seem more tied to the past. They prefer old-school journalism—report, write,
and then repeat the next day. By contrast, it appears that younger sports journalists
and those who work at broadcast outlets are more likely to accept and assimilate
Twitter as part of the natural evolution of the profession.
These results may signal an important news work paradigm shift. Breed (1955)
saw a newsroom in which older journalists handed down beliefs and practices to
newer generations. Today, the older generation seems to have somewhat distanced
itself and left the younger generation to figure out things on its own. Katz (1997)
would suggest that the younger generation of journalists is perfectly capable of
using new technologies such as Twitter to redefine journalism and communication,
arguing that “no other social group is as poised to dominate culture and politics in
the 21st century” (p. 186).
The emerging hybrid of journalism—whatever it may be—should be more
conducive to broadcast journalists if for no other reason than it will certainly include
the electronic elements (video, sound, etc.) with which they are so familiar. These
elements are also well known to younger journalists who have been exposed to them
in some form or fashion most of their lives. The reluctance of print journalists to
embrace Twitter was in part a result of uncertainty over the new technology. However,
some of it was also related to their perceived dislike of the emerging journalism
hybrid and its consequences for “real” journalism. It is certainly proper to debate
these consequences in terms of their effect on the sports journalism profession,
but that was not the purpose of this study. Instead, the findings point to a need to
more closely examine particular groups of sports journalists and their perceptions
that new technologies are not only leading the profession in the wrong direction
but also killing off traditional methods and models. “Am I contributing to my own
[i.e., print media] demise?” asked one newspaper respondent. It is a fair question,
the answer to which requires further investigation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลการศึกษาวิจัยแนะนำว่า รับรู้การเปลี่ยนแปลงไม่ได้วัดผลได้อย่างง่ายดายเป็นที่เชื่อ แทนที่จะดูสื่อที่เปลี่ยนแปลงเป็นเหตุการณ์เพียงครั้งเดียว (เช่นการแนะนำเทคโนโลยีใหม่เช่น Twitter), มันอาจจะเป็นมากขึ้นมีคุณค่าในการดูช่วงระยะเวลานาน เปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอนการทำผ่าน แต่ดูเหมือนว่าจะมากขึ้นอย่างช้า ๆ และค่อย ๆ กว่าสามารถจับภาพในช่วงเวลาหนึ่งของผลใหญ่สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องไม่มากไปนักข่าว'รับรู้ การเปลี่ยนแปลง แต่วิวัฒนาการของวารสารศาสตร์เอง ดูเหมือน จะไฮบริวารสารศาสตร์กีฬาการเกิดใหม่ของ Twitter เป็นส่วนหนึ่งซึ่งมีกำลังจนแบบโต้ตอบ intermedia ที่กำหนดได้อย่างต่อเนื่องตัวเอง ต่าง ๆ เป็นรายงานแบบดั้งเดิมส่วนหนึ่ง ส่วนบล็อก ส่วน Twitterส่วน Facebook ส่วน YouTube และส่วนรับส่งข้อความ ผู้สื่อข่าวกีฬาดูเหมือนจะ เป็นปฏิกิริยาการผสมนี้ในลักษณะต่าง ๆ แม้ไม่จำเป็นต้องร้ายแรง หรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทนเช่นทวิตเตอร์ นักข่าวเก่าและผู้ที่พิมพ์สื่อร้านดูเหมือน tied มากกว่าในอดีต พวกเขาต้องการให้โรงเรียนเก่าวารสารศาสตร์ — รายงาน เขียนและจากนั้น ทำซ้ำในวันถัดไป โดยคมชัด เหมือนที่นักข่าวกีฬาอายุและผู้ที่ทำงานในร้านที่ออกอากาศมีแนวโน้มที่จะยอมรับ และสะท้อนทวิตเตอร์เป็นส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการตามธรรมชาติของอาชีพผลลัพธ์เหล่านี้อาจส่งสัญญาณสำคัญข่าวงานกระบวนทัศน์ สายพันธุ์ (1955)เห็นข่าวที่นักข่าวเก่าที่สืบทอดความเชื่อและแนวทางปฏิบัติในรุ่นใหม่กว่า วันนี้ มี distanced ค่อนข้างเหมือนรุ่นเก่าตัวเองและคนรุ่นใหม่เพื่อเข้าใจสิ่งนั้น ทซ (1997)แนะนำเยาวชนรุ่นหลังของนักข่าวคือความสมบูรณ์ของใช้เทคโนโลยีใหม่เช่น Twitter เพื่อกำหนดวารสารศาสตร์และสื่อสารโต้เถียงที่ "ไม่มีกลุ่มทางสังคมที่สามารถทรงตัวครองทางการเมืองและวัฒนธรรมศตวรรษ 21" (p. 186)ผสมเกิดใหม่ของวารสารศาสตร์ — สิ่งที่มันอาจจะคือควรเพิ่มเติมเอื้อต่อการออกอากาศนักข่าวถ้าไม่สำหรับเหตุผลอื่นมากกว่ามันจะแน่นอนรวมอิเล็กทรอนิกส์องค์ประกอบ (วิดีโอ เสียง ฯลฯ) ที่จะให้คุ้นเคย เหล่านี้องค์ประกอบจะยังรู้จักนักข่าวอายุน้อยกว่าผู้ที่ได้สัมผัสกับพวกเขาในบางรูปแบบหรือแฟชั่นมากที่สุดของชีวิต ไม่เต็มใจของนักข่าวที่พิมพ์ไปอ้อมกอด Twitter ได้ในส่วนผลของความไม่แน่นอนมากกว่าเทคโนโลยีใหม่ อย่างไรก็ตามบางอย่างก็ถูกยังกับไม่ชอบการรับรู้ของวารสารศาสตร์เกิดขึ้นไฮบริดและผลที่เกิดขึ้นสำหรับวารสารศาสตร์ "จริง" ก็แน่นอนที่เหมาะสมในการอภิปรายผลกระทบเหล่านี้ในแง่ของผลที่เกิดขึ้นในวิชาชีพวารสารศาสตร์กีฬาแต่ที่ไม่ใช่วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้ แทน ผลการวิจัยชี้จำเป็นต้องตรวจสอบเฉพาะกลุ่มผู้สื่อข่าวกีฬาและภาพลักษณ์ของพวกเขามากขึ้นว่า เทคโนโลยีใหม่ ๆ ไม่เฉพาะผู้นำอาชีพในทิศทางที่ไม่ถูกต้องแต่ยัง ฆ่าวิธีแบบดั้งเดิมและแบบ "ฉันฉันสนับสนุนฉันเอง[เช่น พิมพ์สื่อ] ลูก? "ถามตอบหนังสือพิมพ์ที่หนึ่ง มันเป็นคำถามที่ดีคำตอบที่ต้องสอบสวนเพิ่มเติม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่าการรับรู้ของการเปลี่ยนแปลงไม่เป็นอย่างที่วัดได้เป็นก็เชื่อว่า
แทนที่จะดูการเปลี่ยนแปลงสื่อเป็นเหตุการณ์เพียงครั้งเดียว
(เช่นการแนะนำของเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Twitter)
ก็อาจจะมีคุณค่ามากขึ้นเพื่อจะดูในระยะเวลานานของเวลา การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
แต่ที่ดูเหมือนจะมากขึ้นอย่างช้าๆ และค่อย ๆ เกินกว่าที่จะบันทึกในภาพรวมของช่วงเวลาหนึ่งในเวลา.
ผลกระทบขนาดใหญ่ของการค้นพบเหล่านี้เกี่ยวข้องไม่มากกับนักข่าว
'การรับรู้ของการเปลี่ยนแปลงแต่วิวัฒนาการของหนังสือพิมพ์ของตัวเอง มีไม่ดูเหมือนจะเกิดขึ้นใหม่กีฬาสื่อสารมวลชนไฮบริดของทวิตเตอร์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อทันทีโต้ตอบชุมนุมขั้นกลางที่ดูเหมือนว่าจะได้รับการอย่างต่อเนื่องกําหนดเอง เหนือสิ่งอื่นใดก็คือการรายงานแบบดั้งเดิมส่วนบล็อกส่วนหนึ่งส่วนทวิตเตอร์เป็นส่วนหนึ่งของ Facebook ส่วน YouTube, และการส่งข้อความส่วนหนึ่ง นักข่าวกีฬาดูเหมือนจะทำปฏิกิริยากับไฮบริดในรูปแบบที่แตกต่างกันนี้ แม้ว่าจะไม่ได้จำเป็นต้องสำคัญหรือทนต่อเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น Twitter, นักข่าวและผู้ที่มีอายุมากกว่าที่พิมพ์สื่อร้านดูเหมือนเชื่อมโยงมากขึ้นในอดีตที่ผ่านมา พวกเขาชอบเขียนข่าวรายงานโรงเรียนเก่า, เขียน, และจากนั้นทำซ้ำในวันถัดไป ในทางตรงกันข้ามก็ปรากฏว่านักข่าวกีฬาที่มีอายุน้อยกว่าและผู้ที่ทำงานที่ร้านออกอากาศมีแนวโน้มที่จะยอมรับและดูดซึมทวิตเตอร์เป็นส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการตามธรรมชาติของวิชาชีพ. ผลลัพธ์เหล่านี้อาจส่งสัญญาณกระบวนทัศน์การทำงานข่าวที่สำคัญการเปลี่ยนแปลง สายพันธุ์ (1955) เห็นข่าวที่นักข่าวเก่าส่งลงมาความเชื่อและการปฏิบัติเพื่อคนรุ่นใหม่ วันนี้คนรุ่นเก่าที่ดูเหมือนจะค่อนข้างห่างไกลตัวเองและซ้ายรุ่นน้องที่จะคิดออกสิ่งที่อยู่ในตัวของมันเอง แคทซ์ (1997) ขอแนะนำว่ารุ่นน้องของนักข่าวเป็นอย่างดีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีใหม่เช่น Twitter เพื่อ redefine การสื่อสารมวลชนและการสื่อสารเถียงว่า"ไม่มีกลุ่มสังคมอื่น ๆ ตามที่ทรงตัวที่จะครองวัฒนธรรมและการเมืองในศตวรรษที่21" (พี . 186). ไฮบริดที่เกิดขึ้นใหม่ของหนังสือพิมพ์-สิ่งที่มันอาจจะควรจะมากขึ้นเอื้อต่อการออกอากาศนักข่าวถ้าไม่มีเหตุผลอย่างอื่นมากกว่าจะแน่นอนรวมถึงองค์ประกอบอิเล็กทรอนิกส์(วิดีโอเสียง ฯลฯ ) กับที่พวกเขามีความคุ้นเคยเพื่อให้ เหล่านี้องค์ประกอบที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีกับนักข่าวที่อายุน้อยกว่าที่ได้รับการสัมผัสกับพวกเขาในรูปแบบบางส่วนหรือแฟชั่นมากที่สุดของชีวิตของพวกเขา ฝืนใจของนักข่าวพิมพ์เพื่อโอบกอดทวิตเตอร์เป็นส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนของเทคโนโลยีใหม่ แต่บางส่วนของมันก็ยังเกี่ยวข้องกับการรับรู้ของพวกเขาไม่ชอบของสื่อสารมวลชนที่เกิดขึ้นใหม่ไฮบริดและผลกระทบของการสื่อสารมวลชน"ของจริง" แน่นอนมันเป็นที่เหมาะสมในการอภิปรายผลกระทบเหล่านี้ในแง่ของผลกระทบต่ออาชีพสื่อสารมวลชนกีฬาแต่นั่นก็ไม่ได้เป็นวัตถุประสงค์ของการศึกษานี้ แต่ผลการวิจัยชี้ให้เห็นความต้องการที่จะใกล้ชิดมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจสอบกลุ่มของนักข่าวกีฬาและการรับรู้ของพวกเขาว่าเทคโนโลยีใหม่ที่ไม่เพียงแต่อาชีพชั้นนำในทิศทางที่ผิดแต่ยังฆ่าวิธีการแบบเดิมและรูปแบบ "ฉันที่เอื้อต่อการของตัวเอง[คือสื่อสิ่งพิมพ์] ตาย?" ถามตอบหนึ่งหนังสือพิมพ์ มันเป็นคำถามที่เป็นธรรม, คำตอบที่ต้องตรวจสอบต่อไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่ที่วัดได้ง่าย
เป็นเชื่อ แทนที่จะดูสื่อเปลี่ยนเป็นเหตุการณ์เพียงครั้งเดียว ( เช่น
แนะนำเทคโนโลยีใหม่เช่น Twitter ) บางทีมันก็มีคุณค่ามากขึ้นเพื่อดู
มากกว่าระยะเวลานานของเวลา เปลี่ยนเป็นที่แน่นอนที่เกิดขึ้น แต่ดูเหมือนว่ายิ่ง
ช้าๆและค่อยๆ กว่าสามารถจับภาพใน ภาพรวมของช่วงเวลาหนึ่งในเวลา .
ความหมายของผลการวิจัยเหล่านี้มีขนาดใหญ่มากเพื่อนักข่าว
การเปลี่ยนแปลงแต่การวิวัฒนาการของนักข่าวเอง มีไม่ดูเหมือนจะเป็นลูกผสมใหม่
กีฬาวารสารศาสตร์ที่ Twitter เป็นส่วนหนึ่งทันที
, โต้ตอบอินเตอร์มีเดียที่รวมเป็นกลุ่มก้อนที่ดูเหมือนว่าจะยังคงนิยาม
นั่นเอง ในสิ่งอื่น ๆ , มันเป็นส่วนหนึ่งแบบดั้งเดิมและรายงานส่วนบล็อก ส่วน Twitter
ส่วน Facebook , YouTube และการส่งข้อความส่วน , ส่วนหนึ่ง นักข่าวกีฬาดูเหมือนจะ reacting ลูกผสมนี้ในวิธีที่แตกต่างกัน ถึงแม้ว่าไม่จําเป็นสําคัญ หรือ
ป้องกันเทคโนโลยีใหม่อย่าง ทวิตเตอร์นักข่าวเก่า และผู้ที่สื่อ
พิมพ์ดูเหมือนจะเชื่อมโยงกับอดีต พวกเขาชอบรายงานวารสารโรงเรียนเก่าเขียน
แล้วทำซ้ำในวันถัดไป ในทางตรงกันข้าม ปรากฏว่า น้องนักข่าวสายกีฬา
และผู้ทำงานที่ร้านออกอากาศมีแนวโน้มที่จะยอมรับและ assimilate
Twitter เป็นส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการธรรมชาติของอาชีพ .
ผลลัพธ์เหล่านี้อาจเป็นสัญญาณที่สำคัญ ข่าวงานเปลี่ยนแนวคิด พันธุ์ ( 1955 )
เห็นข่าวที่นักข่าวเก่าตกทอดความเชื่อและการปฏิบัติ

รุ่นที่ใหม่กว่า วันนี้ รุ่นเก่า ดูเหมือนจะค่อนข้างห่างไกล
ของตัวเองและรุ่นน้องออกไปหาสิ่งในตัวของมันเอง แคทซ์ ( 1997 )
แนะนำให้รุ่นน้องนักข่าวจะสามารถ
การใช้เทคโนโลยีใหม่เช่น Twitter เพื่อ redefine วารสารศาสตร์และการสื่อสาร
เถียงว่า " ไม่มีกลุ่มทางสังคมอื่น ๆที่เป็นคู่ครอง วัฒนธรรมและการเมืองใน
ศตวรรษที่ 21 " ( หน้า 186 ) .
เกิดลูกผสมของวารสารศาสตร์ไม่ว่ามันอาจจะควร
เพิ่มเติมวางออกอากาศนักข่าวถ้าไม่มีเหตุผลอย่างอื่นมากกว่าจะแน่นอนรวมถึง
องค์ประกอบอิเล็กทรอนิกส์ ( วิดีโอ , เสียง , ฯลฯ ) ซึ่งมันคุ้นๆ องค์ประกอบเหล่านี้
ยังรู้จักกันดีน้องนักข่าวที่ได้มีโอกาสสัมผัสกับพวกเขา
ในบางรูปแบบหรือแฟชั่นมากที่สุดของชีวิตของพวกเขา ความไม่เต็มใจของนักข่าวพิมพ์

โอบกอดตัวในส่วนผลของความไม่แน่นอนของเทคโนโลยีใหม่ อย่างไรก็ตาม
บางส่วนมันยังเกี่ยวข้องกับการรับรู้ของพวกเขาไม่ชอบที่เกิดขึ้นใหม่วารสารศาสตร์
ไฮบริดและผลที่ตามมาสำหรับ " ข่าวจริง " มันแน่นอนที่เหมาะสมเพื่ออภิปราย
ผลเหล่านี้ในแง่ของผลกระทบที่มีต่อวารสารกีฬาอาชีพ ,
แต่นั่นไม่ใช่จุดประสงค์ของการศึกษานี้ แทนผลการวิจัยชี้ต้อง
ตรวจสอบอย่างใกล้ชิดมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มของนักข่าวกีฬา และการ รับรู้
ที่เทคโนโลยีใหม่ไม่เพียง แต่นำวิชาชีพ
ผิดทิศทาง แต่ยังฆ่าปิดวิธีการแบบดั้งเดิมและรูปแบบ " ฉันเกิดของตัวเอง
[ ตาย ] ได้แก่ สื่อพิมพ์ ? " ถามหนึ่งหนังสือพิมพ์ผู้ตอบ มันเป็นคำถามที่ยุติธรรม
คำตอบที่ต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติม