In the Agile approach, the only tru

In the Agile approach, the only true measure of progress on a software development project is the delivery of working software. By working in short iterations, and by delivering working software each iteration, there is evidence that the project team is progressing. As described by Ambler (n.d.), this provides greater visibility into the true status of a project than does documentation-based earned value measures, and also improves the ability to effectively govern IT projects.
While predictive methods do lead to predictable outcomes, Nicolette (2005) noted that more commonly, they led to cost overruns, long bug lists, excessive overtime, dissatisfied customers, and poor business value. In the adaptive or Agile model, the development process is a series of iterations, and there is continuous adaptation and innovation through close collaboration between developers and stakeholders. This often results in better and more reliable features and on a shorter delivery schedule.
Although an Agile approach can better address business and customer needs, it must be noted that it is not appropriate for all environments or projects. For example, Agile methods work well in an organisational culture where uncertainty and change is welcomed and creativity and innovation can thrive. Nicolette (2005) highlighted the general elements of when to use the predictive or adaptive approach in Table 1 and Figure 4 below.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิธี Agile การวัดความคืบหน้าในโครงการพัฒนาซอฟต์แวร์จริงเท่านั้นเป็นของซอฟแวร์ทำงาน โดยการทำงานในระยะสั้นเกิดซ้ำ และ โดยการส่งมอบซอฟต์แวร์ทำแผน มีหลักฐานที่ว่า ทีมงานของโครงการมีความก้าวหน้า ตามที่อธิบายไว้ โดย Ambler (n.d.), นี้ให้มากขึ้นมองเห็นสถานะจริงของโครงการกว่ามาตรการเอกสารค่าที่ได้รับ และยัง ช่วยเพิ่มความสามารถในการควบคุมโครงการของมันได้อย่างมีประสิทธิภาพในขณะที่วิธีการทำนายทำให้คาดการณ์ผล Nicolette (2005) กล่าวว่า โดยทั่วไป พวกเขานำเกินต้นทุน ยาวข้อผิดพลาดในรายการ งานล่วงเวลามากเกินไป ลูกค้าไม่พอใจ และมูลค่าทางธุรกิจที่ดี ในการปรับตัว หรือคล่องแคล่ว กระบวนการพัฒนาเป็นชุดของการเกิดซ้ำ และมีการปรับตัวต่อเนื่องและนวัตกรรมปิดทำงานร่วมกันระหว่างนักพัฒนาและ นี้มักจะส่งผล ในคุณลักษณะที่ดี และน่าเชื่อถือ และกำหนดการจัดส่งสั้นแม้ว่าวิธีการ Agile สามารถยิ่งธุรกิจและความต้องการลูกค้า มันต้องจะสังเกตว่า มันไม่เหมาะสมสำหรับสภาพแวดล้อมหรือโครงการทั้งหมด เช่น วิธีการ Agile ทำงานดีในวัฒนธรรมองค์กรซึ่งต้อนรับความไม่แน่นอนและการเปลี่ยนแปลง และความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมที่สามารถเจริญเติบโต Nicolette (2005) มีเน้นองค์ประกอบทั่วไปของที่ใช้วิธีการคาดการณ์ หรือปรับเปลี่ยนในตารางที่ 1 และรูปที่ 4 ด้านล่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในวิธีเปรียวเพียงวัดที่แท้จริงของความคืบหน้าในโครงการพัฒนาซอฟต์แวร์คือการส่งมอบของซอฟแวร์การทำงาน โดยการทำงานในการทำซ้ำในระยะสั้นและโดยการส่งมอบซอฟแวร์การทำงานแต่ละซ้ำมีหลักฐานที่แสดงว่าทีมงานโครงการมีความก้าวหน้า ตามที่อธิบาย Ambler (ND) นี้ให้การมองเห็นมากขึ้นเข้าไปในสถานะที่แท้จริงของโครงการกว่ามาตรการค่าเอกสารตามที่ได้รับและยังช่วยเพิ่มความสามารถในการได้อย่างมีประสิทธิภาพควบคุมโครงการด้านไอที.
ในขณะที่วิธีการทำนายจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่คาดการณ์ Nicolette ( 2005) ตั้งข้อสังเกตว่ามากกว่าปกติที่พวกเขานำไปสู่งบค่าใช้จ่ายรายการข้อผิดพลาดยาวทำงานล่วงเวลามากเกินไปลูกค้าไม่พอใจและความคุ้มค่าทางธุรกิจที่น่าสงสาร ในรูปแบบการปรับตัวหรือเปรียวกระบวนการพัฒนาเป็นชุดของการทำซ้ำและมีการปรับตัวต่อเนื่องและนวัตกรรมผ่านการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างนักพัฒนาและผู้มีส่วนได้เสีย นี้มักจะส่งผลในลักษณะที่ดีขึ้นและมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นและในช่วงเวลาที่การส่งมอบสั้น.
แม้ว่าจะเป็นวิธีการที่ดีกว่าเปรียวสามารถที่อยู่ทางธุรกิจและความต้องการของลูกค้าจะต้องมีการตั้งข้อสังเกตว่ามันไม่ได้เป็นที่เหมาะสมสำหรับทุกสภาพแวดล้อมหรือโครงการ ตัวอย่างเช่นวิธีการ Agile ทำงานได้ดีในวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่แน่นอนและการเปลี่ยนแปลงยินดีและความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมสามารถเจริญเติบโตได้ Nicolette (2005) ไฮไลต์องค์ประกอบทั่วไปของเมื่อมีการใช้วิธีการคาดการณ์หรือการปรับตัวในตารางที่ 1 และรูปที่ 4 ด้านล่าง