Every sound we hear—birds chirping,

Every sound we hear—birds chirping, bees buzzing—is a wave of pressure moving through the air, which our outer ears “catch” and funnel through the ear canal to be interpreted by the brain. When you speak, your ear is stimulated by internal vibrations from your vocal cords and by the sound coming out of your mouth and traveling through the air and into the ears. This combination gives your voice (as you hear it) a fuller, deeper quality that’s lacking when you hear it on a recording.—Matt Soniak, from Mental Floss

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทุกเสียงที่เราได้ยินคือนกเขา ผึ้งพึมพำ — เป็นคลื่นของความดันที่เคลื่อนย้ายผ่านอากาศ หูรอบนอกของเรา "จับ" และกรวยผ่านคลองหูการตีความ โดยสมอง เมื่อคุณพูด หูของคุณจะถูกกระตุ้น โดยการสั่นสะเทือนภายในจากสายของเสียง และเสียงออกมาจากปากของคุณ และเดินทาง ผ่านอากาศ เข้าหู ชุดนี้ให้เสียงของคุณ (ตามที่คุณได้ยินมัน) คุณภาพของฟูลเลอร์ ลึกที่ขาดเมื่อคุณได้ยินบนแบบบันทึก — Matt Soniak จากจิตขัดฟัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทุกเสียงที่เราได้ยินเสียงนกร้องเจี๊ยก ๆ -ผึ้งหึ่งถูกคลื่นของความดันเคลื่อนที่ผ่านอากาศซึ่งหูชั้นนอกของเรา "จับ" และช่องทางผ่านทางช่องหูจะถูกตีความโดยสมอง เมื่อคุณพูดหูของคุณจะถูกกระตุ้นโดยการสั่นสะเทือนภายในจากสายเสียงของคุณและเสียงออกมาจากปากของคุณมาและการเดินทางผ่านอากาศและเข้าไปในหู การรวมกันนี้จะช่วยให้เสียงของคุณ (ตามที่คุณได้ยินมัน) ฟูลเลอร์ที่มีคุณภาพลึกที่ขาดเมื่อคุณได้ยินมันใน recording. แมตต์ Soniak จากจิตไหมขัดฟัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทุกเสียงที่เราได้ยินเสียงนกร้อง , ผึ้งหึ่งเป็นคลื่นของความดันเคลื่อนที่ผ่านอากาศ ซึ่งหู " ด้านนอกของเราจับ " และช่องทางผ่านหูคลองจะถูกตีความโดยสมอง เมื่อคุณพูด หูของคุณจะถูกกระตุ้นโดยการสั่นภายในจากเส้นเสียง และเสียงที่ออกมาจากปากของคุณ และเดินทางผ่านอากาศเข้ามาในหูชุดนี้ให้เสียงของคุณ ( ตามที่คุณได้ยินมัน ) สัมผัสลึกคุณภาพที่ขาดไปเมื่อคุณได้ยินมันในบันทึก แมท soniak จากจิต ใช้ไหมขัดฟัน