Many people and governments are alr

Many people and governments are already working hard to cut greenhouse gases, and everyone can help.

Researchers Stephen Pacala and Robert Socolow at Princeton University have suggested one approach that they call "stabilization wedges." This means reducing GHG emissions from a variety of sources with technologies available in the next few decades, rather than relying on an enormous change in a single area. They suggest 7 wedges that could each reduce emissions, and all of them together could hold emissions at approximately current levels for the next 50 years, putting us on a potential path to stabilize around 500 ppm.

There are many possible wedges, including improvements to energy efficiency and vehicle fuel economy (so less energy has to be produced), and increases in wind and solar power, hydrogen produced from renewable sources, biofuels (produced from crops), natural gas, and nuclear power. There is also the potential to capture the carbon dioxide emitted from fossil fuels and store it underground—a process called "carbon sequestration."

In addition to reducing the gases we emit to the atmosphere, we can also increase the amount of gases we take out of the atmosphere. Plants and trees absorb CO2 as they grow, "sequestering" carbon naturally. Increasing forestlands and making changes to the way we farm could increase the amount of carbon we're storing.

Some of these technologies have drawbacks, and different communities will make different decisions about how to power their lives, but the good news is that there are a variety of options to put us on a path toward a stable climate.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลายคนและรัฐบาลจะได้ทำงานอย่างหนักเพื่อลดก๊าซเรือนกระจก และทุกคนสามารถช่วยนักวิจัย Stephen Pacala และโรเบิร์ต Socolow ที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตันได้แนะนำวิธีการหนึ่งที่พวกเขาเรียก "wedges เสถียรภาพ" นี้หมายถึง การลดการปล่อยก๊าซ GHG จากหลากหลายแหล่งด้วยเทคโนโลยีในสองสามทศวรรษที่ผ่านมาถัดไป แทนที่อาศัยการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ในพื้นที่เดียว พวกเขาแนะนำ 7 wedges ที่สามารถละลดปล่อยก๊าซ และทั้งหมดเข้าด้วยกันสามารถกดค้างไว้ปล่อยระดับปัจจุบันประมาณ 50 ปีถัดไป วางเราบนเส้นทางที่มีศักยภาพเพื่อรักษาเสถียรภาพประมาณ 500 ppmมี wedges ได้หลาย รวมทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และประหยัดเชื้อเพลิงรถยนต์ (เพื่อให้มีพลังงานน้อยกว่าการผลิต), และเพิ่มลม และพลังงานแสงอาทิตย์ ไฮโดรเจนที่ผลิตจากแหล่งทดแทน เชื้อเพลิงชีวภาพ (ผลิตพืช), ก๊าซธรรมชาติ และพลังงานนิวเคลียร์ มีศักยภาพในการจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกจากเชื้อเพลิงฟอสซิล และเก็บไว้ใต้ดินซึ่งเป็นกระบวนการที่เรียกว่า "คาร์บอน sequestration"นอกจากการลดก๊าซที่เราปล่อยให้บรรยากาศ เราสามารถเพิ่มจำนวนก๊าซที่เราใช้จากบรรยากาศ พืชและต้นไม้ดูดซับ CO2 พวกเขาเติบโต "แนว" คาร์บอนตามธรรมชาติ เพิ่ม forestlands และทำการเปลี่ยนแปลงวิธีเราฟาร์มสามารถเพิ่มจำนวนคาร์บอนที่เรากำลังเก็บของเทคโนโลยีเหล่านี้มีข้อเสีย และชุมชนจะทำให้ตัดสินใจแตกต่างกันเกี่ยวกับวิธีการพลังงานชีวิตของพวกเขา แต่ข่าวดีคือ ว่า มีความหลากหลายของตัวเลือกจะนำเราสู่เส้นทางไปทางอากาศมีเสถียรภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลายคนและรัฐบาลกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อลดก๊าซเรือนกระจกและทุกคนสามารถช่วย. สตีเฟ่นนักวิจัยPăcalăและโรเบิร์ Socolow ที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตันได้แนะนำวิธีการหนึ่งที่พวกเขาเรียกว่า "เวดจ์เสถียรภาพ." ซึ่งหมายความว่าการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากความหลากหลายของแหล่งที่มากับเทคโนโลยีที่มีอยู่ในช่วงไม่กี่สิบปีข้างหน้ามากกว่าอาศัยการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในพื้นที่เดียว พวกเขาแนะนำ 7 ชิ้นที่สามารถลดการปล่อยก๊าซแต่ละและทั้งหมดของพวกเขาเข้าด้วยกันสามารถจับการปล่อยก๊าซที่ระดับปัจจุบันประมาณ 50 ปีต่อมาวางเราบนเส้นทางที่มีศักยภาพในการรักษาเสถียรภาพประมาณ 500 พีพีเอ็ม. มีชิ้นที่เป็นไปได้จำนวนมากรวมถึงการปรับปรุงให้เป็นพลังงาน ประสิทธิภาพและการประหยัดน้ำมันของรถยนต์ (พลังงานน้อยดังนั้นจะต้องมีการผลิต) และการเพิ่มขึ้นของลมและพลังงานแสงอาทิตย์ไฮโดรเจนที่ผลิตจากแหล่งพลังงานทดแทนเชื้อเพลิงชีวภาพ (ผลิตจากพืช), ก๊าซธรรมชาติและพลังงานนิวเคลียร์ นอกจากนี้ยังมีศักยภาพในการจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาจากเชื้อเพลิงฟอสซิลและเก็บไว้ใต้ดินกระบวนการที่เรียกว่า "กักเก็บคาร์บอน." นอกจากจะช่วยลดการปล่อยก๊าซที่เราปล่อยออกมาสู่ชั้นบรรยากาศนี้เรายังสามารถเพิ่มปริมาณของก๊าซที่เราจะออกจาก ของบรรยากาศ พืชและต้นไม้ดูดซับ CO2 ที่พวกเขาเติบโต "sequestering" คาร์บอนธรรมชาติ การเพิ่มพื้นที่ป่าและการเปลี่ยนแปลงวิธีที่เราฟาร์มจะเพิ่มปริมาณของคาร์บอนที่เรากำลังจัดเก็บ. บางส่วนของเทคโนโลยีเหล่านี้มีข้อบกพร่องและชุมชนที่แตกต่างกันจะทำให้การตัดสินใจที่แตกต่างกันเกี่ยวกับวิธีการใช้พลังงานชีวิตของพวกเขา แต่ข่าวดีก็คือว่ามี หลากหลายของตัวเลือกที่จะทำให้เราอยู่บนเส้นทางที่มีต่อสภาพภูมิอากาศที่มีเสถียรภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลายคน และรัฐบาลได้ทำงานอย่างหนักเพื่อลดก๊าซเรือนกระจก และทุกคนสามารถช่วย

นักวิจัย สตีเฟน pacala โรเบิร์ต socolow ที่พรินซ์ตันและมหาวิทยาลัยได้เสนอแนะวิธีการหนึ่งที่พวกเขาเรียกว่า " เสถียรภาพเวดจ์ . " นี้หมายถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากความหลากหลายของแหล่งที่มากับเทคโนโลยีที่มีอยู่ในสองสามทศวรรษที่ผ่านมาแทนที่จะอาศัยการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่หลวงในพื้นที่เดียว พวกเขาแนะนำ 7 เวดจ์ที่แต่ละลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และทั้งหมดของพวกเขาเข้าด้วยกัน สามารถจับก๊าซที่ระดับประมาณปัจจุบันสำหรับถัดไป 50 ปี ใส่เราบนเส้นทางที่มีศักยภาพ เพื่อปรับรอบ 500 ppm .

มีเวดจ์ที่เป็นไปได้หลายรวมทั้งการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และประหยัดเชื้อเพลิงรถยนต์ ( พลังงานน้อยจะต้องผลิต ) และเพิ่มขึ้นในลมและพลังงานแสงอาทิตย์ , ไฮโดรเจนที่ผลิตได้จากแหล่งพลังงานทดแทนเชื้อเพลิงชีวภาพ ( ผลิตจากพืช ) , ก๊าซธรรมชาติและพลังงานนิวเคลียร์นอกจากนี้ยังมีศักยภาพในการจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาจากเชื้อเพลิงฟอสซิล และเก็บ underground-a กระบวนการที่เรียกว่า " การกักเก็บคาร์บอน "

นอกจากการลดก๊าซที่เราปล่อยออกมาสู่บรรยากาศ เรายังสามารถเพิ่มปริมาณของก๊าซที่เราใช้ออกไปจากบรรยากาศ พืชและต้นไม้ดูดซับ CO2 เป็นพวกเขาเติบโต " อายัด " คาร์บอนตามธรรมชาติเพิ่ม forestlands และทำให้การเปลี่ยนแปลงวิธีเราฟาร์มได้เพิ่มปริมาณคาร์บอนที่เราเก็บ

บางส่วนของเทคโนโลยีเหล่านี้มีข้อด้อย และชุมชนต่าง ๆ จะทำให้การตัดสินใจต่าง ๆ เกี่ยวกับวิธีการ พลังชีวิต แต่ข่าวดีก็คือว่ามีความหลากหลายของตัวเลือกที่จะทำให้เราบนเส้นทางสู่บรรยากาศ
มีเสถียรภาพ