Chilli (capsicum annum L.) is used

Chilli (capsicum annum L.) is used as vegetable and also condiment but the chief use of chilli throughout the world is as spice on account of its pungency and pleasant flavour. Due to high cost of inorganic fertilizers and residual effects of chemicals there is increasing trends towards organic farming. Which belongs to the family solanaceae? It is a very rich source of vitamins A and C. Due to this; many peasant farmers have resulted to use of organic wastes especially those of livestock’s which are abundantly available (Nwajiuba and Chimezie, 2000). Chilli (Capsicum annuum L.) is an important solanaceous vegetable crop grown for its unripe-green and ripe-red fruits. Of the many bottlenecks in increasing the fruit production, the occurrence of diseases such as damping of (Pythium spp.), leaf and fruit blight (Phytophthora capsici), leaf spots (Alternaria solani, Cercospora capsici) and wilt (Fusarium spp.) are noteworthy and considerably reduce the yields (Anonymous, 1993). The reason has been attributed to low demand for and consumption of improved inputs in most developing countries. Most small-scale farmers still rely on crude inputs, land and human labour with less use of chemical fertilizers and improved varieties of crops. The use of fertilizer is reported to be responsible for over 50 percent yield increase in crops. It has been widely accepted that organic farming alone could serve as a holistic approach towards achieving sustainable agriculture as it is nature based, environment friendly and ensures the conservation of resources for the future. The production of hot Capsicum variety is a growing industry in the United States because of increased demand for spicy condiments and hot sauce. These chillis are potentially valuable niche crops for small-scale and medium farmers (Gardner and Queeley 1999).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใช้พริก (พริกปี L.) เป็นผัก และเครื่องปรุงอาหารแต่ใช้หัวหน้าพริกทั่วโลกเป็นเป็นเทศเนื่อง pungency และรสชาติที่พอใจของ เนื่องจากต้นทุนที่สูงของปุ๋ยอนินทรีย์และผลตกค้างของสารเคมีที่ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นไปสู่เกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นของ solanaceae ครอบครัว มันเป็นแหล่งอุดมสมบูรณ์มากของวิตามิน A และ c.ครบกำหนดนี้ เกษตรกรชาวนาหลายคนมีผลการใช้ของเสียอินทรีย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งของของสัตว์ซึ่งมีอยู่อย่างล้นเหลือ (Nwajiuba และ Chimezie, 2000) พริก (พริก annuum L.) เป็นการ solanaceous ผักพืชที่สำคัญปลูกเพื่อเป็นผลไม้สุกสีเขียว และสุกแดง ของคอขวดมากมายในการเพิ่มผลผลิต การเกิดขึ้นของโรคเช่นป้องกันการสั่นสะเทือนของ (ออกซิเจนปริมาณเชื้อ Pythium), ใบไม้และผลไม้ไหม้ (ไฟ capsici), ใบจุด (Alternaria solani, Cercospora capsici) และเหี่ยว (Fusarium ออกซิเจน) นั้นน่าสนใจ และลดอัตราผลตอบแทน (Anonymous, 1993) เหตุผลที่ได้รับการบันทึกความต้องการต่ำสุดและปริมาณของปัจจัยการผลิตขึ้นในประเทศกำลังพัฒนาส่วนใหญ่ เกษตรกรส่วนใหญ่ยังคงพึ่งพามนุษย์แรงงาน มีน้อยการใช้ปุ๋ยเคมีและปรับปรุงพันธุ์ของพืช และปัจจัยการผลิตน้ำมันดิบ ที่ดิน มีการรับผิดชอบมากกว่าร้อยละ 50 รายงานการใช้ปุ๋ยเพิ่มผลผลิตพืช ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่า การเกษตรอินทรีย์เพียงอย่างเดียวอาจจะเป็นองค์บรรลุเกษตรยั่งยืนมันเป็นธรรมชาติพื้นฐาน สภาพแวดล้อมที่เป็นมิตร และใจการอนุรักษ์ทรัพยากรในอนาคต การผลิตความร้อนพริกหลากหลายเป็นอุตสาหกรรมเติบโตในสหรัฐอเมริกาเนื่องจากเพิ่มความต้องการเครื่องปรุงรสเผ็ดและซอสเผ็ด ภายเหล่านี้เป็นพืชเฉพาะกลุ่มอาจมีคุณค่าสำหรับเกษตรกรขนาดเล็ก และขนาดกลาง (การ์ดเนอร์และ Queeley 1999)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พริก (พริกปี L. ) ถูกนำมาใช้เป็นผักและเครื่องปรุงรส แต่การใช้หัวหน้าพริกทั่วโลกเป็นเครื่องเทศในบัญชีของเผ็ดและรสชาติที่ถูกใจของมัน เนื่องจากค่าใช้จ่ายสูงของปุ๋ยอนินทรีและผลกระทบการตกค้างของสารเคมีที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นต่อการทำเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็น Solanaceae ครอบครัวได้หรือไม่ มันเป็นแหล่งอุดมสมบูรณ์มากของวิตามิน A และ C. เนื่องจากนี้; เกษตรกรชาวนาจำนวนมากได้ส่งผลต่อการใช้ของเสียอินทรีย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งของสัตว์เลี้ยงของที่มีอยู่อย่างล้นเหลือ (Nwajiuba และ Chimezie, 2000) พริก (Capsicum annuum L. ) เป็นพืชผักที่สำคัญ solanaceous ปลูกผลไม้สุกสีเขียวและสุกสีแดงของมัน ของคอขวดจำนวนมากในการเพิ่มการผลิตไม้ผลที่เกิดโรคเช่นการทำให้หมาด ๆ ของ (Pythium spp.), ใบและทำลายผลไม้ (Phytophthora capsici) ใบจุด (Alternaria solani, Cercospora capsici) และเหี่ยว (Fusarium spp.) เป็น ที่น่าสังเกตและลดอัตราผลตอบแทน (ไม่ประสงค์ออกนาม, 1993) เหตุผลที่ได้รับมาประกอบกับความต้องการต่ำและการบริโภคของปัจจัยการผลิตที่ดีขึ้นมากที่สุดในประเทศกำลังพัฒนา ส่วนใหญ่เกษตรกรขนาดเล็กยังคงพึ่งพาปัจจัยการผลิตน้ำมันดิบที่ดินและแรงงานที่มีการใช้น้อยกว่าปุ๋ยเคมีและการปรับปรุงพันธุ์พืช การใช้ปุ๋ยเป็นรายงานที่ต้องรับผิดชอบต่อการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนที่มากกว่าร้อยละ 50 ในการปลูกพืช มันได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าการทำเกษตรอินทรีย์เพียงอย่างเดียวสามารถใช้เป็นแนวทางแบบองค์รวมที่จะให้บรรลุเกษตรยั่งยืนมันเป็นธรรมชาติตามสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรและสร้างความมั่นใจการอนุรักษ์ทรัพยากรสำหรับอนาคต การผลิตของความหลากหลายพริกร้อนเป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตในสหรัฐอเมริกาเนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับเครื่องปรุงรสเผ็ดและซอสร้อน พริกพืชเหล่านี้เป็นช่องที่มีค่าสำหรับขนาดเล็กและขนาดกลางเกษตรกร (การ์ดเนอร์และ Queeley 1999)