The Cold War produced an obsession

The Cold War produced an obsession with the origins of revolution, The reasoning was that if it were possible to understand what caused revolutions it might be possible to find ways to prevent them from occurring. To some extent, we have moved from an over-emphasis on the origins of revolution and the seizure of power to a concern with the use of power. In any case, beginning with the British Revolutions of the seventeenth century also helps the importance of taking a long-term view of the phenomenon of revolution

Until we have seen how revolutionaries put power to use it is difficult to determine whether a revolution has succeeded or failed, course, a revolution that does not result in the seizure of power is clearly a failure even though it as was, for example, the case with the 1905 Revolution in may leave is possible that the "failure" of a revolution may create conditions leading to its eventual "success." In the case of the British Revolution of the seemed to mark the restoration of the Stuart kings in the person of Charles mid-century revolutionary efforts as failure, The dynasty, however, ran into problems, to which the Revolution of 1688 formed one possible solution. Over an additional period of more than a century, an evolutionary with occasional near-revolutionary situati of a constitutional monarchy with the House of Commons as the development uccessful and enduring political system

Once the idea of revolution became part of the political repertoire, even if many political actors did not care to acknowledge it as such, individuals and groups tried with increasing frequency to make use of it. The nineteenth century is filled with efforts, mostly unsuccessful, to imitate the French Revolution of 1789, several of these efforts took place in France itself as the France seemed doomed to repeat their initial revolutionary experience.

Ultimately, the revolutions of the nineteenth century demonstrated the historical character of revolution. Revolution in the nineteenth century was mostly about politics, although with the social question and even some ideas about cultural change thrown in. In the course of the nineteenth century, the world changed fundamentally as industrial capitalism and the concept of nation states took hold. Revolution, defined as a form of politics, changed if for no other reason than political problems and political aspirations changed. The addition of economic and social issues complicated the situation even more Expectations about what a revolution might accomplish increased rapidly.

After the French Revolution, with its idea of starting over, many revolution- aries paradoxically attempted to go outside politics, in a sense to escape from history, by destroying the old regime and setting in its place something with no connections to the old systems, culture, and traditions. The Pol Pot regime in Cambodia in the 1970s provides an extreme example of a desire to set in place a utopian system in which all revolutionaries will be good and pure.

The British Revolutions of the seventeenth century set the stage for the book, calling attention both to the wish to modify and the desire to establish something radically different. The British Revolutions also point to the importance of looking at the use of power and at ways in which "failure might eventually lead to "success." Finally, the British Revolutions had an impact on other countries and on political thought more generally.

The four remaining chapters focus on twentieth-century revolutions the Mexican, Russian, Vietnamese, and Iranian revolutions. The Mexican Revolution was the first major revolution of the twentieth century, beginning in 1910 and continuing for most of that decade. It, too, is an excellent illus tration of the themes of the book. For example, revolution as an integral part of history, another plausible form of politics, is connected with the failure of the Porfiriato, the regime of Porfirio Diaz, to maintain a viable political system It is perhaps uncharitable to calla regime that lasted thirty-four years a failure; nonetheless, its collapse in 1910 opened the way to revolution. The second concerns the use of power. Tracing that theme requires an examination of course of Mexican history not only in the revolutionary decade also through the 1920s and 1930s as well. Out of the turmoil of revolution came a remarkably stable, quite cynical political system that lasted nearly the rest of the century. It was, to be sure, a highly limited system in that it worked well only for certain groups, but it became more successful, least in its own terms, than one would have predicted in the 1920s. Ultimately, the "success or "failure" of the Mexican Revolution will depend on the direction taken by Mexico in the next few decades.

The Russian Revolution must count as the most important revolutionary upheaval of the twentieth century. The trauma of World War I led directly to the February Revolution and eventually, also, to

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สงครามเย็นผลิตการครอบงำ ด้วยกำเนิดของการปฏิวัติ เหตุผลที่ว่าที่นั้นสามารถเข้าใจสิ่งที่เกิดจากการปฏิวัติอาจจะสามารถหาวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้ บ้าง เราได้ย้ายจากเน้นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติและการบุกยึดอำนาจมากเกินไปกังวลกับการใช้อำนาจของ เริ่มต้น ด้วยการปฏิวัติอังกฤษศตวรรษ seventeenth ยังช่วยให้ความสำคัญของการมองระยะยาวของปรากฏการณ์ของการปฏิวัติ จนเราได้เห็นว่ายากที่จะกำหนดว่า การปฏิวัติสำเร็จ หรือไม่สามารถนำพลังงานไปใช้ปฏิวัติ หลักสูตร การปฏิวัติที่ทำการบุกยึดอำนาจไม่เป็นชัดเจนความล้มเหลวแม้ว่าจะเป็น ตัวอย่าง การปฏิวัติ 1905 ในกรณีอาจทำให้มีความ "ล้มเหลว" ของการปฏิวัติอาจสร้างเงื่อนไขที่นำไปสู่ความสุด "สำเร็จ" ในกรณีของการปฏิวัติอังกฤษของ seemed เพื่อฟื้นฟูกษัตริย์สจ๊วตคนของชาร์ลส์กลางศตวรรษความพยายามปฏิวัติเป็นความล้มเหลว ราชวงศ์ ไร วิ่งมาปัญหา ที่ปฏิวัติของ 1688 ได้วิธีการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น มีระยะมากกว่าศตวรรษ วิวัฒนาการกับ situati ใกล้ปฏิวัติเป็นครั้งคราวของระบอบรัฐธรรมนูญกับสภา uccessful พัฒนาและยั่งยืนระบบทางการเมืองเพิ่มเติม เมื่อความคิดของการปฏิวัติกลายเป็น ส่วนหนึ่งของละครการเมือง ถ้าไม่เลี้ยงแสดงทางการเมืองในการยอมรับเช่น บุคคลและกลุ่มพยายาม ด้วยการเพิ่มความถี่ให้ใช้ของมัน เต็มไป ด้วยความพยายาม ส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จ การเลียนแบบการปฏิวัติฝรั่งเศสค.ศ. 1789 ของศตวรรษ หลายความพยายามเหล่านี้เกิดขึ้นในประเทศฝรั่งเศสเองเป็นฝรั่งเศสดูเหมือน doomed ซ้ำเริ่มต้นปฏิวัติประสบการณ์สุด ปฏิวัติของศตวรรษแสดงอักขระทางประวัติศาสตร์ของการปฏิวัติ การปฏิวัติในศตวรรษส่วนใหญ่เกี่ยวกับการเมือง ถึงแม้ว่าคำถามสังคมและบางความคิดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นใน ในหลักสูตรของศตวรรษ โลกเปลี่ยนทุนนิยมอุตสาหกรรมเป็นพื้นฐาน และแนวคิดของประเทศอเมริกาได้ถือ การปฏิวัติ กำหนดรูปแบบของการเมือง การเปลี่ยนแปลงถ้าสำหรับเหตุผลอื่น ๆ มากกว่าปัญหาทางการเมืองและความปรารถนาทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ปัญหาเศรษฐกิจ และสังคมมีความซับซ้อนสถานการณ์ความคาดหวังมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่การปฏิวัติอาจทำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังการปฏิวัติใหญ่ฝรั่งเศส ด้วยความคิดของการเริ่มต้นมากกว่า aries ปฏิวัติหลาย paradoxically พยายามไปอยู่นอกเมือง ในการหนีจากประวัติ ทำลายระบอบการปกครองเก่า และตั้งในสถานที่บางสิ่งบางอย่างที่เชื่อมต่อกับระบบเก่า วัฒนธรรม และประเพณี ระบอบ Pol หม้อในกัมพูชาในทศวรรษ 1970 ตัวอย่างมากของความปรารถนาที่จะตั้งค่าในระบบกล่าวที่ปฎิวัติทั้งหมดจะดี และบริสุทธิ์การปฏิวัติอังกฤษศตวรรษ seventeenth ตั้งเวทีสำหรับสมุด เรียกความสนใจ ทั้งต้องการปรับเปลี่ยนและความปรารถนาที่จะสร้างบางสิ่งบางอย่างก็แตกต่างกัน การปฏิวัติอังกฤษยังชี้ถึงความสำคัญของการมอง ที่การใช้พลังงาน และวิธีการที่ "ความล้มเหลวอาจในที่สุดนำไปสู่"ความสำเร็จ" สุดท้าย การปฏิวัติอังกฤษได้ผลกระทบ กับประเทศอื่น ๆ และทางการเมืองมากขึ้นโดยทั่วไปเน้นสี่บทที่เหลือในรอบยี่สิบศตวรรษปฏิวัติเม็กซิโก รัสเซีย เวียดนาม และอิหร่าน การปฏิวัติเม็กซิโกถูกปฏิวัติหลักแรกของศตวรรษที่ยี่สิบ เริ่มต้นใน 1910 และดำเนินการต่อไปสำหรับส่วนมากของทศวรรษที่ เกินไป ได้ tration illus ดีชุดรูปแบบของหนังสือ ตัวอย่าง การปฏิวัติเป็นเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ ตัวรับมือเมือง เชื่อมโยงกับความล้มเหลวของ Porfiriato ระบอบการปกครองของ Porfirio ดิแอซ รักษาระบบการเมืองที่ทำงานได้อาจจะเป็นการระบอบการปกครองคาลลาที่กินเวลา 4 ปีเป็นความล้มเหลว uncharitable กระนั้น การยุบใน 1910 เปิดวิธีการปฏิวัติ ที่สองเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจของ ติดตามรูปที่ต้องการตรวจสอบแน่นอนประวัติเม็กซิกันในทศวรรษปฏิวัติผ่าน 1920 และ 1930s เหมือนกันยังไม่เท่า จากความวุ่นวายของการปฏิวัติมามั่นคงอย่างยิ่ง ลลดค่อนข้างทางการเมืองระบบที่กินเวลาเกือบเหลือของศตวรรษ มันเป็น แน่ใจ ระบบจำกัดสูงในที่ทำงานดีเท่าบางกลุ่ม แต่ก็ประสบความสำเร็จ อย่างน้อยในแง่ของตัวเอง มากกว่าหนึ่งจะได้คาดการณ์ไว้ในปี 1920 สุด "สำเร็จหรือ"ล้มเหลว"ของการปฏิวัติเม็กซิกันจะขึ้นอยู่กับทิศทางที่นำมาจากเม็กซิโกในถัดไปไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาการปฏิวัติรัสเซียต้องนับเป็นแรงกระเพื่อมปฏิวัติที่สำคัญที่สุดของศตวรรษที่ยี่สิบ การบาดเจ็บของสงครามโลกนำโดยตรง กับการ ปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์ และในที่ สุด ยัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สงครามเย็นผลิตความหลงใหลที่มีต้นกำเนิดของการปฏิวัติเป็นเหตุผลได้ว่าถ้ามันเป็นไปได้ที่จะเข้าใจสิ่งที่เกิดจากการปฏิวัติมันอาจจะเป็นไปได้ที่จะหาวิธีที่จะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น บางส่วนเราได้ย้ายจากมากกว่าให้ความสำคัญกับต้นกำเนิดของการปฏิวัติและการยึดอำนาจความกังวลที่มีการใช้พลังงานที่ ในกรณีใด ๆ เริ่มต้นด้วยการปฏิวัติของอังกฤษศตวรรษที่สิบเจ็ดยังช่วยสำคัญของการมีมุมมองในระยะยาวของปรากฏการณ์ของการปฏิวัติจนกว่าเราจะได้เห็นวิธีการปฎิวัตินำพลังที่จะใช้มันเป็นเรื่องยากที่จะตรวจสอบว่าการปฏิวัติได้ประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวแน่นอนการปฏิวัติที่ไม่ได้ส่งผลให้เกิดการยึดอำนาจอย่างชัดเจนความล้มเหลวแม้ว่ามันจะเป็นได้ยกตัวอย่างเช่นกรณีที่มี 1,905 ปฏิวัติอาจปล่อยให้เป็นไปได้ว่า "ความล้มเหลว" ของการปฏิวัติอาจสร้างเงื่อนไข ที่นำไปสู่ที่สุดของ "ความสำเร็จ". ในกรณีของอังกฤษปฏิวัติดูเหมือนจะเป็นเครื่องหมายของการฟื้นฟูของกษัตริย์จวร์ตในบุคคลที่ชาร์ลส์ในช่วงกลางศตวรรษความพยายามปฏิวัติเป็นความล้มเหลวที่ราชวงศ์ แต่วิ่งเข้าไปในปัญหาที่การปฏิวัติ 1688 ที่เกิดขึ้นเป็นหนึ่งในวิธีการแก้ปัญหาที่เป็นไปได้ . ในระยะเวลาที่เพิ่มขึ้นของกว่าศตวรรษเป็นวิวัฒนาการที่มีเป็นครั้งคราว situati ใกล้ปฏิวัติระบอบรัฐธรรมนูญที่มีสภาเป็น uccessful การพัฒนาและยั่งยืนระบบการเมืองเมื่อความคิดของการปฏิวัติกลายเป็นส่วนหนึ่งของละครทางการเมืองแม้ว่าจำนวนมากนักแสดงทางการเมืองไม่ได้สนใจที่จะยอมรับมันเป็นเช่นนี้ประชาชนและกลุ่มพยายามกับการเพิ่มความถี่ในการใช้ประโยชน์จากมัน ศตวรรษที่สิบเก้าที่เต็มไปด้วยความพยายามที่ไม่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะเลียนแบบการปฏิวัติฝรั่งเศส 1789 หลายความพยายามเหล่านี้เกิดขึ้นในฝรั่งเศสตัวเองเป็นฝรั่งเศสดูเหมือนถึงวาระที่จะทำซ้ำประสบการณ์การปฏิวัติของพวกเขาเริ่มต้น. ในท้ายที่สุดการปฏิวัติของศตวรรษที่สิบเก้าแสดงให้เห็นถึง ตัวละครในประวัติศาสตร์ของการปฏิวัติ การปฏิวัติในศตวรรษที่สิบเก้าเป็นส่วนใหญ่เกี่ยวกับการเมืองแม้ว่าจะมีคำถามทางสังคมและแม้กระทั่งความคิดบางอย่างเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมโยน. ในหลักสูตรของศตวรรษที่สิบเก้าของโลกเปลี่ยนแปลงโดยพื้นฐานเป็นทุนนิยมอุตสาหกรรมและแนวคิดของรัฐชาติเอาไว้ ปฏิวัติการกำหนดเป็นรูปแบบของการเมืองเปลี่ยนถ้าไม่มีเหตุผลอื่นนอกเหนือจากปัญหาทางการเมืองและแรงบันดาลใจทางการเมืองเปลี่ยน นอกเหนือจากปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมที่มีความซับซ้อนสถานการณ์ความคาดหวังมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่การปฏิวัติสำเร็จอาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว. หลังจากที่การปฏิวัติฝรั่งเศสกับความคิดของการเริ่มต้นกว่าราศีเมษปฏิวัติหลายขัดแย้งความพยายามที่จะไปอยู่นอกการเมืองในความรู้สึกที่จะหลบหนี จากประวัติศาสตร์โดยการทำลายระบอบการปกครองเก่าและการตั้งค่าในสิ่งที่สถานที่ที่มีการเชื่อมต่อไปยังไม่มีระบบเก่าวัฒนธรรมและประเพณี ระบอบการปกครองของซ้ำร้ายในประเทศกัมพูชาในปี 1970 มีตัวอย่างมากของความปรารถนาที่จะตั้งอยู่ในสถานที่ที่ระบบยูโทเปียที่ปฎิวัติทั้งหมดจะดีและบริสุทธิ์. ปฏิวัติของอังกฤษศตวรรษที่สิบเจ็ดตั้งเวทีสำหรับหนังสือเรียกร้องความสนใจทั้ง เพื่อต้องการที่จะแก้ไขและความปรารถนาที่จะสร้างบางสิ่งบางอย่างที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การปฏิวัติอังกฤษยังชี้ถึงความสำคัญของการมองที่การใช้อำนาจและในวิธีการที่ "ความล้มเหลวในที่สุดอาจนำไปสู่" ความสำเร็จ. "ในที่สุดการปฏิวัติอังกฤษมีผลกระทบต่อประเทศอื่น ๆ และในความคิดทางการเมืองมากขึ้นโดยทั่วไป. สี่ บทที่เหลือมุ่งเน้นไปที่การปฏิวัติศตวรรษที่ยี่สิบเม็กซิกัน, รัสเซีย, เวียดนาม, และการปฏิวัติอิหร่าน. ปฏิวัติเม็กซิกันเป็นครั้งแรกที่การปฏิวัติที่สำคัญของศตวรรษที่ยี่สิบจุดเริ่มต้นในปี 1910 และต่อเนื่องมากที่สุดในทศวรรษที่ผ่านมาว่า. มันก็เป็นที่ยอดเยี่ยม illus เคี้ยวของรูปแบบของหนังสือเล่มนี้. ยกตัวอย่างเช่นการปฏิวัติเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์อีกหนึ่งรูปแบบที่เป็นไปได้ของการเมืองจะเชื่อมต่อกับความล้มเหลวของ Porfiriato ที่ระบอบการปกครองของ Porfirio Diaz เพื่อรักษาระบบการเมืองที่ทำงานบางทีมันก็เป็น กวดขันการ Calla ระบอบการปกครองที่กินเวลาสามสิบสี่ปีที่ผ่านมาล้มเหลว; กระนั้นการล่มสลายของมันในปี 1910 เปิดทางไปสู่การปฏิวัติความกังวลที่สองการใช้พลังงานติดตามรูปแบบที่ต้องมีการตรวจสอบของหลักสูตรของประวัติศาสตร์เม็กซิกันไม่เพียง แต่ในทศวรรษที่ผ่านมาการปฏิวัติ.. ยังผ่านปี ค.ศ. 1920 และ 1930 ได้เป็นอย่างดี ออกจากความวุ่นวายของการปฏิวัติมามีเสถียรภาพอย่างน่าทึ่งระบบการเมืองเหยียดหยามมากที่กินเวลาเกือบส่วนที่เหลือของศตวรรษที่ มันเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าระบบที่ จำกัด อย่างมากในการที่จะทำงานได้ดีเพียง แต่สำหรับคนบางกลุ่ม แต่มันก็กลายเป็นที่ประสบความสำเร็จมากขึ้นอย่างน้อยในแง่ของตัวเองกว่าใครจะคาดการณ์ไว้ในปี ค.ศ. 1920 ในท้ายที่สุด "ความสำเร็จหรือ" ล้มเหลว "ของการปฏิวัติเม็กซิกันจะขึ้นอยู่กับทิศทางที่ถ่ายโดยเม็กซิโกในช่วงไม่กี่สิบปีข้างหน้า. การปฏิวัติรัสเซียจะต้องนับเป็นกลียุคปฏิวัติที่สำคัญที่สุดของศตวรรษที่ยี่สิบ. การบาดเจ็บของสงครามโลกครั้งที่นำ โดยตรงกับการปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์และในที่สุดก็ยังไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สงครามเย็นที่หมกมุ่นกับต้นกำเนิดของการปฏิวัติ เหตุผลคือว่าถ้ามันเป็นไปได้ที่จะเข้าใจสิ่งที่เกิดการปฏิวัติมันอาจเป็นไปได้ที่จะหาวิธีป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้น บ้าง เราได้ย้ายจาก ผ่าน เน้นการกำเนิดของการปฏิวัติและการยึด อำนาจของความกังวลกับการใช้พลังงาน ในกรณีใด ๆที่เริ่มต้นด้วยการปฏิวัติของอังกฤษในศตวรรษที่สิบเจ็ด นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญของการดูระยะยาวของปรากฏการณ์ของการปฏิวัติจนกว่าเราจะได้เห็นวิธีการปฏิวัติใส่พลังงานที่จะใช้มันเป็นเรื่องยากที่จะตรวจสอบว่ามีการปฏิวัติสำเร็จ หรือ ล้มเหลว แน่นอน การปฏิวัติที่ไม่ได้ส่งผลในการยึดอำนาจอย่างชัดเจนความล้มเหลวแม้ว่ามันเป็น ตัวอย่างเช่น คดี 1905 การปฏิวัติ อาจจะเป็นไปได้ว่า " ความล้มเหลว " ของการปฏิวัติอาจสร้างเงื่อนไขที่นำไปสู่ความสำเร็จในที่สุด " . " ในกรณีของการปฏิวัติอังกฤษดูจะมาร์คการฟื้นฟูของสจ๊วต กษัตริย์ในบุคคลของชาร์ลศตวรรษกลางปฏิวัติพยายามล้มเหลว ราชวงศ์ แต่เจอปัญหา ซึ่งก็ได้เกิดการปฏิวัติของโซลูชั่นหนึ่งที่เป็นไปได้ . ช่วงเพิ่มเติมกว่าศตวรรษ วิวัฒนาการกับเป็นครั้งคราวใกล้ปฏิวัติ situati ของระบอบรัฐธรรมนูญกับสภาเช่นการพัฒนาที่ประสบความสำเร็จและยั่งยืนระบบการเมืองเมื่อความคิดของการปฏิวัติกลายเป็นส่วนหนึ่งของละครทางการเมือง แม้นักแสดงทางการเมืองหลายคน ไม่ได้แคร์ว่ามันเป็นเช่นบุคคลและกลุ่มพยายามกับความถี่ที่เพิ่มขึ้นเพื่อให้ใช้ประโยชน์จากมัน ศตวรรษที่สิบเก้าที่เต็มไปด้วยความพยายาม ส่วนใหญ่ไม่สำเร็จ เลียนแบบการปฏิวัติฝรั่งเศส 1789 หลายของความพยายามเหล่านี้เกิดขึ้นในฝรั่งเศสเองเป็นฝรั่งเศสดูเหมือนถึงวาระที่จะทำซ้ำประสบการณ์ของพวกเขาปฏิวัติครั้งแรกในที่สุด การปฏิวัติของศตวรรษที่สิบเก้าแสดงลักษณะทางประวัติศาสตร์ของการปฏิวัติ การปฏิวัติในศตวรรษที่สิบเก้าส่วนใหญ่ที่เกี่ยวกับการเมือง แต่กับคำถามที่สังคม และแม้ความคิดบางอย่างเกี่ยวกับวัฒนธรรมเปลี่ยนไปโยนใน ในหลักสูตรของศตวรรษที่สิบเก้า โลกเปลี่ยนเป็นทุนนิยมอุตสาหกรรมพื้นฐานและแนวคิดของประเทศเอาไว้ การปฏิวัติ , กําหนดเป็นรูปแบบของการเมืองที่เปลี่ยนไป ถ้าไม่มีเหตุผลอย่างอื่นมากกว่าปัญหาการเมือง กับความต้องการเปลี่ยน นอกจากนี้ ปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมที่ซับซ้อนสถานการณ์ยิ่งความคาดหวังเกี่ยวกับสิ่งที่การปฏิวัติจะสำเร็จเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากการปฏิวัติฝรั่งเศส กับความคิดของการเริ่มต้นใหม่ การปฏิวัติหลาย - ราศีเมษขัดแย้งพยายามไปการเมืองภายนอก ในความรู้สึกที่จะหนีจากประวัติศาสตร์ โดยการทำลายระบอบเก่าและการตั้งค่าบางอย่างของสถานที่ที่ไม่มีการเชื่อมต่อกับระบบเก่า วัฒนธรรม และประเพณี ระบอบการปกครองที่พตในกัมพูชาในปี 1970 มีตัวอย่างมากของความปรารถนาที่จะตั้งในสถานที่ที่เป็นระบบในอุดมคติที่บรรดานักปฏิวัติจะดีและบริสุทธิ์การปฏิวัติของอังกฤษในศตวรรษที่สิบเจ็ดตั้งเวทีสำหรับหนังสือ เรียกความสนใจทั้งเพื่อต้องการแก้ไขและต้องการที่จะสร้างสิ่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การปฏิวัติอังกฤษ ยังชี้ถึงความสำคัญของการดูที่ใช้อำนาจและวิธีการที่ " ความล้มเหลวในที่สุดอาจนำไปสู่ " ความสำเร็จ " ในที่สุด การปฏิวัติอังกฤษมีผลกระทบต่อประเทศอื่น ๆและความคิดทางการเมืองมากขึ้นโดยทั่วไปสี่ที่เหลือบทเน้นยี่สิบการปฏิวัติเม็กซิโก , รัสเซีย , เวียดนาม , และการปฏิวัติของอิหร่าน การปฏิวัติเม็กซิโกถูกปฏิวัติใหญ่ครั้งแรกของศตวรรษที่ยี่สิบ , จุดเริ่มต้นใน 1910 และต่อเนื่องมากว่าทศวรรษ มัน , เกินไป , เป็นเลิศลลัสมลภาวะของธีมของหนังสือ ตัวอย่างเช่น การปฏิวัติเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์อีกรูปแบบหนึ่งที่เป็นไปได้ของการเมือง เกี่ยวข้องกับความล้มเหลวของ porfiriato , ระบอบการปกครองของ porfirio Diaz , เพื่อรักษาระบบปฏิบัติทางการเมือง บางทีมันก็ไม่เมตตากับคาล่าระบอบการปกครองที่ lasted 34 ปีความล้มเหลว อย่างไรก็ตาม การล่มสลายของ 1910 เปิดแนวทางปฏิวัติ ที่สองเกี่ยวข้องกับการใช้พลังงาน ติดตามที่กระทู้ต้องมีการตรวจสอบแน่นอนประวัติศาสตร์ของชาวเม็กซิกันไม่เพียง แต่ในทศวรรษปี ค.ศ. 1920 และ 1930 ปฏิวัติยังผ่านได้เป็นอย่างดี ออกจากความวุ่นวายของการปฏิวัติมาอย่างมีเสถียรภาพค่อนข้างเหยียดหยามระบบการเมืองที่ lasted เกือบส่วนที่เหลือของศตวรรษที่ มัน เป็น แน่นอน ขอจำกัดระบบว่ามันทำงานได้ดีเฉพาะบางกลุ่ม แต่มันกลายเป็นที่ประสบความสำเร็จมากขึ้น อย่างน้อยก็ในแง่ของตัวเอง กว่าจะได้คาดการณ์ไว้ในช่วงปี ในที่สุด " ความสำเร็จ " หรือ " ล้มเหลว " ของการปฏิวัติเม็กซิโกจะขึ้นอยู่กับทิศทางการถ่ายโดยเม็กซิโกใน ถัดไปไม่กี่ทศวรรษการปฏิวัติของรัสเซียต้องนับเป็นกลียุคปฏิวัติที่สำคัญที่สุดของศตวรรษที่ยี่สิบ บาดเจ็บจากสงครามโลกครั้งที่นำโดยตรงเพื่อการปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์และในที่สุดยัง