The next step was to observe if UFP

The next step was to observe if UFPEDA 831 was able to produce
chitosanase, given that this is an undesirable characteristic when
planning to reuse chitosan beads. Study of enzymatic activity
showed that it did not produce chitosanase. Thus, this strain fulfilled
all requirements to be entrapped in chitosan (i.e., the bacterial
cells remained viable after contact with chitosan gel and supportedthe entrapment process by gelation in NaOH, and it did not degrade
the matrix).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขั้นตอนต่อไปคือการ สังเกตถ้า UFPEDA 831 ได้ผลิต
chitosanase กำหนดว่า นี้เป็นลักษณะที่พึงประสงค์เมื่อ
วางแผนการใช้ไคโตซานเม็ด ศึกษากิจกรรมเอนไซม์ในระบบ
แสดงว่า มันไม่ได้สร้าง chitosanase ดังนั้น ต้องใช้นี้จริง
ความต้องการทั้งหมดจะถูกเก็บกักในไคโตซาน (เช่น แบคทีเรีย
เซลล์ยังคงทำงานได้หลังจากติดต่อกับไคโตซานเจและ supportedthe entrapment กระบวนการ โดย gelation ใน NaOH และมันไม่ได้ลดทอน
เมตริกซ์)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ขั้นตอนต่อไปคือการสังเกตหาก UFPEDA 831 ก็สามารถที่จะผลิต
chitosanase ให้ที่นี้เป็นลักษณะที่ไม่พึงประสงค์เมื่อ
วางแผนที่จะนำมาใช้เม็ดไคโตซาน การศึกษาการทำงานของเอนไซม์
ที่แสดงให้เห็นว่ามันไม่ได้ผลิต chitosanase ดังนั้นสายพันธุ์นี้เติมเต็ม
ทุกความต้องการที่จะเก็บกักในไคโตซาน (เช่นแบคทีเรีย
เซลล์ยังคงทำงานได้หลังการสัมผัสกับเจลไคโตซานและขั้นตอนการวางกับดัก supportedthe โดยเจใน NaOH และมันก็ไม่ได้ทำให้เสื่อมเสีย
เมทริกซ์)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ขั้นตอนต่อไปคือ สังเกต ถ้า ufpeda 831 สามารถผลิต
อักษรต้นแบบ , ระบุว่า นี้เป็นลักษณะที่ไม่พึงประสงค์เมื่อ
วางแผนที่จะใช้เม็ดไคโตซาน . การศึกษาเอนไซม์
แสดงว่ามันไม่ผลิตอักษรต้นแบบ . ดังนั้นความเครียดนี้สมหวัง
ในทุกความต้องการที่จะตกลงในไคโตซาน ( เช่น แบคทีเรีย
เซลล์อยู่ได้หลังจากการติดต่อกับเจลไคโตซานและกระบวนการสนับสนุนโดยเจลาตินในการใช้ และมันไม่ลด
เมทริกซ์ )